25 April 2024


ตั้งรางวัล! ควานหาปืน อส.โคราชหายให้รางวัลคนแจ้ง ตร.รื้อคดีใหม่สอบเอาผิดรองผู้ว่าฯ(ชมคลิป)

Post on: Feb 3, 2017
เปิดอ่าน: 1,455 ครั้ง

 

พลิกแผ่นดินควานหาอาวุธปืนเอ็ม 16 อส.โคราช หายกว่า 100 กระบอก นาน 3 ปียังไร้ร่องรอยไม่เจอแม้แต่กระบอกเดียว ล่าสุดผู้ว่าฯ โคราชออกประกาศตั้งเงินรางวัลผู้แจ้งเบาะแสกระบอกละ 1,400-5,400 บาท ด้านตำรวจรื้อคดีสอบใหม่หมด ชี้สอบเอาผิดข้าราชการเอี่ยวถ้วนหน้าถึงระดับ “รองผู้ว่าฯ”

ตร ควานหาปืน อส หาย-web2
วานนี้ (2 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีอาวุธปืนเอ็ม 16, ปืนลูกซอง 5 นัด และ ปืนลูกซองยาวเดี่ยว ของกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครราชสีมาที่ 1 (อส.นม.1) ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา หายไปกว่า 100 กระบอก ระหว่างปี 2556-2557 ช่วงที่มีการชุมนุมใหญ่ทางการเมือง และมีการพยายามติดตามปืนดังกล่าวคืนกลับมาในช่วงที่ นายธงชัย ลืออดุลย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ปี 2558 โดยตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าว จนกระทั่งสามารถดำเนินคดีกับข้าราชการ และ อส.ที่เกี่ยวข้องจำนวนหลายราย แต่การติดตามอาวุธปืนคืนกลับมายังไร้ร่องรอยไม่พบแม้แต่กระบอกเดียวจนถึงปัจจุบันนั้น

ล่าสุด นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้มีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อหลายราย ทางกรมการปกครองได้ตั้งกรรมการสอบวินัยขึ้นมา และให้มีการสอบหาประเด็นเพิ่มเติมซึ่งได้ขอหลักฐานเพิ่มจากทางจังหวัดไปแล้ว โดยเฉพาะคำสั่งแต่งตั้งผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนไปดูว่าบุคคลเหล่านี้รับผิดชอบแต่ละช่วงใดบ้าง ซึ่งทางจังหวัดฯ ก็รายงานขึ้นไปตามปกติ

ส่วนข้าราชการที่ถูกดำเนินคดีมีมากกว่า 2 คนขึ้นไป ซึ่งผู้ที่ตำแหน่งสูงสุดทราบว่า ปัจจุบันนี้ดำรงตำแหน่งเป็นนายอำเภอ ส่วนการสอบสวนดำเนินการทางวินัยมีข้าราชการระดับสูงที่ต้องถูกสอบสวนทางวินัย ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ยังหาอาวุธปืนของกลางไม่พบเลยสักกระบอก ซึ่งเป็นปัญหาในการนำหลักฐานมาประกอบคดีตร ควานหาปืน อส หาย-web1
ล่าสุดได้เชิญตำรวจเจ้าของคดีและเรียกประชุมชุดสืบสวนไปแล้ว เพื่อสอบต่อไปว่าทำอย่างไรที่เราจะติดตามของกลางกลับมาได้ จึงมีการออกประกาศให้เงินรางวัลสำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสหรือแจ้งให้ทางราชการทราบจนสามารถนำไปสู่การค้นพบอาวุธปืนที่หายไปเพื่อนำมาประกอบในคดีได้

“จึงฝากไปยังประชาชนที่ทราบเบาะแสหรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่อาจจะทราบข้อมูล แต่ไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงตัวเอง ก็สามารถที่จะแจ้งเบาะแสมาที่จังหวัดฯ หรือทางอำเภอ และสถานีตำรวจทุกแห่งทั้ง 32 อำเภอได้ เรามีรางวัลให้ท่าน และเราจะเก็บรายชื่อของผู้แจ้งไว้เป็นความลับแน่นอน โดยรางวัลจะมอบให้เป็นรายกระบอกตั้งแต่ 1,400-5,400 บาท” นายวิเชียรกล่าว

นายวิเชียรกล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการสอบสวนจากนี้ไป พนักงานสอบสวนได้ทำการรื้อคดีขึ้นมาใหม่ โดยจะทำการสอบปากคำคนที่เคยให้การไว้แล้วรวมถึงคนที่ปฏิเสธ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเหตุการณ์ คนอยู่เวรยาม ซึ่งเดิมคนเหล่านี้อยู่รวมกัน แต่ตอนนี้จังหวัดฯ ออกคำสั่งให้ย้ายไปตามอำเภอต่างๆ ตำรวจจะเรียกกลับมาสอบปากคำเพื่อหาข้อพิรุธอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตนคิดว่าหลายคนเหล่านี้เมื่อแยกจากกันแล้วอาจจะมีเบาะแสที่อยากจะแจ้งให้ทางราชการ

นายวิเชียร ผวจ นม-web1
“อาวุธที่หายไปเป็นอาวุธร้ายแรง เป็นอาวุธสงครามที่เราจำเป็นต้องติดตามกันอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพราะถ้าไปตกอยู่กับกลุ่มมิจฉาชีพหรือคนที่ต้องการนำไปทำมิดีมิร้ายจะก่อให้เกิดปัญหาแก่สังคมได้ และแน่นอนมีผลต่อความมั่นคงด้วย แต่ปัญหาคือทั้งล็อตเราหาไม่เจอเลย ทางตำรวจเองพยายามกันอย่างเต็มที่ ก็มีความหนักใจเหมือนกัน ท้ายที่สุดต้องกลับไปเริ่มใหม่อีกครั้ง” นายวิเชียรกล่าว

อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่นำอาวุธปืนดังกล่าวไปจะกลับใจนำมาคืน แต่ไม่กล้าแสดงตัว ให้ซ่อนไว้ ทิ้งไว้ หรือมอบให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือไม่ประสงค์ที่จะเปิดเผยตัวก็ได้ เรายินดีมาก และทางการจะหาวิธีตอบแทนเงินรางวัลคนเหล่านี้แน่นอน คงต้องขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาในเรื่องนี้ นายวิเชียรกล่าวในตอนท้าย

สำหรับรายละเอียดประกาศจังหวัดนครราชสีมาดังกล่าว สาระสำคัญระบุว่า เรื่องการตั้งรางวัลตอบแทนแก่ผู้แจ้งความนำจับ หรือผู้แจ้งเบาะแส อันนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด และการจ่ายเงินรางวัลตอบแทนแก่ผู้จับกุม กรณีอาวุธปืนกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดนครราชสีมา ที่ 1 สูญหาย ซึ่งอาวุธปืนที่สูญหายไปจากคลังอาวุธประจำกองร้อย แยกเป็น 1. อาวุธปืน M16 A1, 2. อาวุธปืนเล็กยาว ปลย.11 (HK33) ขนาด 5.6 มม., 3. ปืนลูกซอง 5 นัด และ 4. ปืนลูกซองยาวเดี่ยว

เบื้องต้นทางจังหวัดฯ ได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.จอหอ เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ดำเนินการสอบสวนความผิดทางวินัยฯ และดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว จังหวัดฯ จึงขอตั้งเงินรางวัลตอบแทนแก่ผู้แจ้งเบาะแสอันนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดและตรวจสอบพบอาวุธปืนที่สูญหาย โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

1. หากผู้ใดพบเบาะแสอาวุธปืนที่สูญหายข้างต้นให้แจ้งส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ที่ทำการปกครอง (กลุ่มงานความมั่นคง) และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, 2. การตรวจสอบข้อมูลตามข้อ 1 ของผู้แจ้งเบาะแสจนสามารถนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดและตรวจพบอาวุธปืนที่สูญหายข้างต้น จังหวัดฯ จะจ่ายเงิน โดยการจ่ายเงินรางวัลฯ แก่ผู้แจ้งความนำจับหรือผู้แจ้งเบาะแสอันนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดให้จ่ายเงินสินบนในอัตรา ดังนี้

1. อาวุธปืน M16 A1 จ่ายในอัตราจำนวน 5,400 บาทต่อหนึ่งกระบอก, 2. อาวุธปืนเล็กยาว ปลย.11 (HK33) ขนาด 5.6 มม. จ่ายในอัตราจำนวน 2,850 บาทต่อหนึ่งกระบอก, 3. ปืนลูกซอง 5 นัด จ่ายในอัตราจำนวน 2,895 บาทต่อหนึ่งกระบอก และ 4. ปืนลูกซองยาวเดี่ยว จ่ายในอัตราจำนวน 1,680 บาทต่อหนึ่งกระบอก ส่วนการจ่ายเงินรางวัลฯ แก่ผู้จับกุมในอัตราดังนี้ 1. จำนวน 4,500 บาทต่อกระบอก, 2. จำนวน 2,375 บาทต่อกระบอก, 3. จำนวน 2,412.50 บาท และ 4. จำนวน 1,400 บาทต่อกระบอก

สำหรับการติดต่อขอรับเงินรางวัลตามประกาศจังหวัดฯ เป็นไปตามที่กำหนดรายละเอียดข้างต้น และมีการตรวจอาวุธปืนที่สูญหายซึ่งถูกต้องตามประเภทและหมายเลขประจำปืน โดยให้ผู้แจ้งความนำจับหรือผู้แจ้งเบาะแสติดต่อขอรับเงินรางวัลฯ ด้วยตนเอง พร้อมยื่นบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง) ต่อเจ้าหน้าที่ของที่ทำการปกครองจังหวัดฯ (กลุ่มงานความมั่นคง) ได้ในวันและเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์) ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

ประกาศ ณ วันที่ 18 ม.ค. 2560 ลงชื่อ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

หนังสือตั้งรางวัลนำจับ-web1

หนังสือตั้งรางวัลนำจับ-web2