23 April 2024


ผวาหนัก!สองสามีภรรยาชาวโคราชถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลไล่ยิง รื้อบ้าน หอบลูกหนียังถูกตามขู่ฆ่า(ชมคลิป)

Post on: May 23, 2017
เปิดอ่าน: 2,366 ครั้ง

 

สองสามีภรรยาโคราชผวาหนัก ถูกกลุ่มอดีตกำนันผู้มีอิทธิพลไล่ยิง ทุบรื้อบ้าน 2 รอบ ต้องหอบลูกน้อย 2 คน วัย 3 ขวบและ 7 ขวบย้ายโรงเรียนหนีตายข้ามจังหวัดไปซุกบ้านญาติ แต่ไม่หยุดยังตามข่มขู่ฆ่าต่อเนื่อง เผยไม่มีความปลอดภัยในชีวิต เข้าแจ้งความตำรวจคดีไม่คืบ บุกร้องขอความช่วยเหลือศูนย์ดำรงธรรมฯ หวังเป็นที่พึ่งสุดท้ายและได้รับความเป็นธรรม

ร้องผู้มีอิทธิพล-web1

วันนี้ (23 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสนั่น ปริสาวงศ์ อายุ 63 ปี และ น.ส.วาริน ณะศิริ อายุ 44 ปี สองสามีภรรยาชาว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ได้เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือและขอความเป็นธรรมหลังถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลไล่รื้อบ้านพัก และไล่ยิงจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน พาลูกน้อยวัย 3 ขวบ และ 7 ขวบย้ายโรงเรียนหนีไปอยู่กับญาติต่างจังหวัด และยังถูกตามข่มขู่ฆ่าผ่านมาทางญาติ และไลน์อย่างต่อเนื่อง รู้สึกไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

โดยมีนายสมภพ มุกดาสนิท ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ท.ประยูร จุลสม หัวหน้าส่วนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มทบ.21 และ พล.ต.ท.เชษติวัตถ์ จันทศร รองผู้กำกับการหัวหน้างานสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ ปฏิบัติหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมฯ รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว

นายสนั่น ปริสาวงศ์ กล่าวว่า ตนได้รู้จักกับ อดีตกำนันตำบลไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา และได้ชักชวนให้มาอยู่ที่ไร่มันสำปะหลังในพื้นที่บ้านไชยมงคล หมู่ 1 ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา (ตรงข้ามสวนสัตว์นครราชสีมา) โดยตนได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินดังกล่าวในราคา 200,000 บาท เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ โดยเป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ มีเพียงเอกสารการเก็บภาษีท้องถิ่น (ภบท.5) เท่านั้น จากนั้นตนได้พาภรรยามาอยู่อาศัยโดยปลูกบ้านและทำนา ทำสวนมะนาว เป็นเวลานานร่วม 10 ปี มีลูก 2 คน และปรับพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตร ซึ่งมีหน่วยงานราชการ เอกชน และประชาชนมาศึกษาดูงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

กระทั่งเดือน มี.ค. 2559 อดีตกำนันคนดังกล่าว พร้อมพวก ได้เข้ามาข่มขู่พร้อมบอกให้ตนพาครอบครัวออกไปจากพื้นที่ดังกล่าวภายใน 5 วันเนื่องจากต้องการพื้นที่คืน แต่ตนไม่ทำตามเพราะไม่มีที่ไป ทำมาหากินในพื้นที่แห่งนี้มานานนับ 10 ปีแล้ว และลูกยังเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนในหมู่บ้าน

ร้องผู้มีอิทธิพล-web2

จากนั้นเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน ได้มีรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ขับเข้ามาในบริเวณบ้านของตนอีกครั้ง โดยมี  ลูกน้องของอดีตกำนันฯ ชักปืนออกมายิงขู่ 1 นัด และกราดยิงเข้ามาในตัวบ้านอีก 6 นัด พร้อมทำร้ายร่างกายภรรยาของตนโดยตบที่ใบหน้า 2 ครั้งและกระชากผม และกำลังจะจ่อยิงหมายเอาชีวิตแต่ลูกน้องห้ามและแย่งปืนเอาไว้ได้ก่อน ท่ามกลางสายตาของลูกน้อยทั้งสองคนที่อยู่ในอาการหวาดกลัว หลังผ่านเหตุการณ์ดังกล่าวมาลูกทั้ง 2 คนกลายเป็นเด็กหวาดระแวง กลัวคนแปลกหน้า หากเจอคนแปลกหน้าจะวิ่งหลบใต้โต๊ะหรือหาที่กำบังทันที

นายสนั่นกล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตนและภรรยาได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง เพื่อให้ดำเนินคดีกับอดีตกำนันฯ พร้อมพวก ที่กระทำการดังกล่าวอย่างอุกอาจ แต่คดีไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
ต่อมาไม่นานกลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งเป็นลูกน้องของอดีตกำนันฯ ได้นำรถแบ็กโฮเข้าไปไถและทุบรื้อบ้านพักของตนถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกตนแจ้งความดำเนินคดี ส่วนครั้งที่ 2 ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง แค่ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น

ร้องผู้มีอิทธิพล-web3

ร้องผู้มีอิทธิพล-web4

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของลูกและภรรยาตนจึงตัดสินใจพาลูกและภรรยาหลบหนีไปอยู่บ้านญาติต่างจังหวัดและย้ายโรงเรียนให้ลูกใหม่ และมาติดตามคดีอย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด นอกจากนี้ อดีตกำนันฯ ยังแจ้งความดำเนินคดีตน กล่าวหาว่าปลอมแปลงเอกสารเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าวด้วย ซึ่งขณะนี้ตนอยู่ระหว่างประกันตัวต่อสู้คดี โดยทุกครั้งที่เดินทางมาที่จังหวัดนครราชสีมาต้องขอกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบมาดูแลความปลอดภัย
จนมาถึงขณะนี้ทางกลุ่มอดีตกำนันฯ ยังมีการข่มขู่ฆ่าทั้งผ่านตัวบุคคล และผ่านไลน์ไม่ยอมหยุด ตนจึงเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา และต้องการให้ฝ่ายทหารเข้ามาดูแลและปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล ซึ่งไม่ใช่เฉพาะครอบครัวของตนที่ถูกกระทำเช่นนี้ แต่มีเหยื่ออีกหลายคนที่ถูกกลุ่มอดีตกำนันฯ กระทำ แต่ไม่กล้าออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมเพราะหวาดกลัวจะไม่ปลอดภัยทั้งชีวิต และทรัพย์สิน

ร้องผู้มีอิทธิพล-web5

ร้องผู้มีอิทธิพล-web6

ร้องผู้มีอิทธิพล-web7