20 April 2024


“ผู้การโคราช” ออกโรงยันไม่รู้จัก ไม่เคยเรียกเงินค่าทำคดี “สาว ธ.ก.ส.” จ่อแจ้งความกลับ

Post on: Jul 24, 2017
เปิดอ่าน: 703 ครั้ง

 

“ผู้การโคราช” ออกโรงยันไม่รู้จักและไม่เคยเรียกรับเงินค่าทำคดี “สาว ธ.ก.ส.” กรณีเจ้าตัวแจ้งจับผู้การโคราชพร้อมสารวัตรเรียกรับเงินสินบน 5 แสนคาดเป็นการแจ้งความแก้เกี้ยวเพื่อลดความน่าเชื่อถือของตำรวจ ในคดีที่ “สาว ธ.ก.ส.” กำลังถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชนแชร์ลูกโซ่ เตรียมรวบรวมหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีกลับ

พ ต อ สุภากร ผบก นม-1
วันนี้ (24 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีที่ นางสาวอัชฌา นาคธรณินทร์ อายุ 39 ปี พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางเขน กรุงเทพฯ ให้ดำเนินคดีต่อ พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ( ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา และ พ.ต.ต.วิชานนท์ บ่อพิมาย สารวัตรสืบสวน กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ในข้อหาเรียกรับสินบนเกิน 3,000 บาท ตามประกาศของ ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์การรับเงินรางวัล โดยอ้างว่าถูกเรียกรับเงินค่าทำคดีเป็นเงินจำนวน 500,000 บาท และโดยได้จ่ายเงินไปให้ครบถ้วนแล้ว เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) นั้น

ล่าสุด พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้เรียก พ.ต.ต.วิชานนท์ บ่อพิมาย สารวัตรสืบสวน กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เข้าพบเพื่อสอบถามรายละเอียดสาเหตุของเรื่องราวดังกล่าว โดยใช้เวลาพูดคุยนานประมาณ 30 นาที

จากนั้น พล.ต.ต.สุภากรเปิดเผยว่า ตนไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า และไม่เคยพูดคุยกับนางสาวอัชฌา และไม่เคยเรียกรับเงินค่าทำคดีแต่อย่างใด เพราะคดีที่นางสาวอัชญาเป็นผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นคดีการฉ้อโกงลงทุนเล่นแชร์ทองคำนั้นเป็นคดีเล็กๆ ทั่วไป ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร และเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการไปตามขั้นตอน และจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย

คาดว่าสาเหตุที่นางสาวอัชฌาแจ้งความดำเนินคดีตนครั้งนี้ เป็นเพราะว่านางสาวอัชฌากำลังจะถูกตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำผิดตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 หรือ แชร์ลูกโซ่ ด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงได้ 1 ราย ซึ่งเกี่ยวพันกับตัวนางสาวอัชฌา

โดยจากการสอบสวนขยายผลพบว่านางสาวอัชฌาน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และคาดว่าจะสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ภายในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ เชื่อว่าการที่นางสาวอัชฌาแจ้งความดำเนินคดีตำรวจจึงเป็นการแจ้งความแก้เกี้ยว เพื่อลดความน่าเชื่อถือในการทำงานของตำรวจที่ทำคดีนี้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้สั่งการให้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และหากพบว่านางสาวอัชฌากล่าวหาทำให้ตน และผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับความเสียหาย ก็จะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกลับนางสาวอัชฌาในเร็วๆ นี้ด้วยเช่นเดียวกัน พล.ต.ต.สุภากรกล่าว