by

“น้องฮาเลย์” นร.โคราชโชคร้ายเหยื่ออุบัติเหตุแม่ตายตัวเองเจ็บหนักดีขึ้น แพทย์ให้กลับบ้านมาอยู่กับยายแล้ว ยอดเงินบริจาคช่วยเหลือทุนการศึกษาพุ่งกว่า 5.8 แสนบาท

นายกเหล่ากาชาดฯ โคราชพร้อม ผอ.โรงเรียนอนุบาลฯ รุดเยี่ยมให้กำลังใจ “น้องฮาเลย์” นักเรียน ป. 4 โชคร้ายเหยื่ออุบัติเหตุแม่ที่เป็นเสาหลักของครอบครัวตายส่วนตัวเองเจ็บหนัก  พ่อทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็ก ต้องอยู่กับยายวัยเกือบ 80 ปี หลังอาการดีขึ้นแพทย์ให้กลับไปพักที่บ้านแล้ว  ขณะที่ยอดบริจาคผ่านบัญชีโรงเรียนพุ่งกว่า 5.8 แสนบาท   ด้าน ผอ.โรงเรียนเตรียมส่งมอบเงินให้เด็กสัปดาห์หน้า

วันนี้(16 ก.พ.) นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่าการชาดจังหวัด นายปฏิพัทร ทองเทียนวิเศษ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา และคณะครู โรงเรียนอนุบาลฯ  ได้เดินทางไปยังบ้านพักของ ด.ช.อภิลักษณ์  หรือ น้องฮาเล่ย์  ทรัพย์ไพศาลสิน อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4/6 โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ที่ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บสาเหตุ ทางสมอง และแม่ที่เป็นเสาหลักของครอบครัวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจ

โดยบ้านพักของ น้องฮาเลย์  เป็นทาวน์เฮ้าส์ขนาด 2 ชั้น สภาพค่อนข้างเก่าและข้าวของกระจายเต็มบ้าน ได้พบกับคุณยายอายุ 76 ปี อยู่กับหลานชายอีกคนที่มีปัญหาทางสมอง ได้รับแจ้งจากยายว่าน้องฮาเลย์ ออกจากโรงพยาบาลมาตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากบ้านยังไม่เรียบร้อยเกรงว่าฝุ่นจะเข้าตาหลาน จึงให้ไปพักอยู่ที่อพาร์ทเม้นใกล้บ้านก่อนชั่วคราว และในวันจันทร์นี้จะย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้าน คณะของนางณัฎฐินีภรณ์  จึงเดินทางไปเยี่ยมน้องฮาเลย์  จากการสังเกต พบว่าน้องฮาเล่ย์มีอาการดีขึ้นมาก  เดินได้ มีเพียงตาด้านขวาเท่านั้นที่เส้นเลือดฝอยแตกลูกตาแดง ส่วนตาซ้ายแพทย์ต้องใช้ผ้าก็อตปิดไว้เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการรับแสงและกล้ามเนื้อตาทำงานไม่ปกติ  และแขนซ้ายยังอ่อนแรงอยู่ต้องใช้ผ้าพยุงไว้

นางณัฎฐินีภรณ์   จันทรโณทัย  นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา  เปิดเผยว่า  หลังจากลงพื้นที่มาเยี่ยมบ้าน ด.ช.อภิลักษณ์ พบว่า มีหลานชายของคนยายอีกคนซึ่งเป็นญาติกับ ด.ช.อภิลักษณ์ไม่ได้เรียนหนังสือเนื่องจากมีปัญหาด้านพัฒนาการทางสมอง โดยทางกาชาดฯ พร้อมให้ความช่วยเหลือหากเด็กต้องการไปเรียนหนังสือเพื่อจะดูแลตัวเองได้ หากวันหนึ่งไม่มีคุณยายอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นห่วง ด.ช.อภิลักษณ์ คือ เรื่องการเดินทางไปโรงเรียนซึ่งเค้าคงต้องช่วยเหลือตัวเองให้มากทีสุด  ส่วนสุขภาพเด็กตอนนี้ดีขึ้นมาก รอไปพบคุณหมอตามที่นัดหมาย  จากนี้ครอบครัวจะต้องคอยดูแลด้านสภาพจิตใจเพราะเด็กยังไม่ทราบว่าแม่เสียชีวิตตั้งแต่วันเกิดเหตุคือวันที่ 1 ก.พ.2561 และทำการฌาปนกิจไปแล้ว  ส่วนความช่วยเหลือด้านอื่น ๆทราบว่า ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมาให้ความช่วยเหลือด้านทุนการศึกษาเด็กเดือนละ 2,000 บาทจนกว่าเด็กจะอายุครบ 18 ปี ซึ่งเป็นความช่วยเหลือที่ภาครัฐจัดสรรลงไปโดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นผู้ประสานและทางเหล่ากาชาดจะมาเยี่ยมให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายปฏิพัทร ทองเทียนวิเศษ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนได้ระดมทุนทั้งจากเครือข่ายผู้ปกครอง คณะครู และประชาชนที่บริจาคผ่านบัญชีของทางโรงเรียน ล่าสุดได้เงินบริจาคช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ช.อภิลักษณ์ รวมกว่า 580,000 บาทซึ่งจะนำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็ก โดยในวันที่ 20 ก.พ.นี้จะนำเงินที่ได้รับบริจาคทั้งหมดมอบให้กับ ด.ช.อภิลักษณ์ โดยจะเปิดบัญชีเป็นชื่อของ ด.ช.อภิลักษณ์ แต่ทางโรงเรียนจะช่วยดูในเรื่องการใช้จ่ายเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ ด.ช.อภิลักษณ์ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือเพราะเด็กไม่เหลือใครแล้วส่วนเรื่องการเรียนนั้นทางโรงเรียนจะส่งครูมาสอนให้ที่บ้านเพื่อไม่ให้มีปัญหากับเด็ก ซึ่งทางโรงเรียนให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตามหากท่านใดยังต้องการช่วยเหลือเด็ก ด.ช.อภิลักษณ์ ยังสามารถบริจาคผ่านบัญชี โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ธนาคารกรุงไทยสาขานครราชสีมา  บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 301-1-19476-9 ได้ทุกอย่างต่อเนื่อง หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ นางชมนาท รุ่นใหม่ รองผู้อำนวยการโรงเรียนฯ 081-977-8635