20 April 2024


ทึ่ง !หนุ่มใหญ่อีสาน“ยังสมาร์ท ฟาร์มเมอร์” ต้นแบบขยายคันนาลดพื้นที่ปลูกข้าวพลิกชีวิตมั่งคั่ง

Post on: Dec 4, 2017
เปิดอ่าน: 848 ครั้ง

 

สานต่อปณิธาน “พ่อหลวง” ทึ่งหนุ่มใหญ่บุรีรัมย์ “ยังสมาร์ท ฟาร์มเมอร์” ต้นแบบ หันหลังกลับมาพัฒนาบ้านเกิด พลิกชีวิตมั่งคั่งด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการทำเกษตรผสมผสาน โดยลดพื้นที่แปลงนาข้าวขยายคันนาปลูกฝรั่งกิมจูอินทรีย์ พืชผักสวนครัว และไม้ผล  เก็บผลผลิตขายทั้งปี สร้างรายได้เพิ่ม ปีละกว่า 3 แสน  พร้อมขยายผลแปรรูปและทำเกษตรแปลงใหญ่สร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่

ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web9“ ผมมั่งคั่งรวยความสุข ได้อยู่กับครอบครัว และได้กลับมาพัฒนาบ้านเกิด “  นี่คือความภาคภูมิใจในอาชีพเกษตรกรของ “สมพงษ์  นามปราศรัย”  หนุ่มใหญ่วัย 43 ปี ชาวบ้านม่วงเจริญ ต.สระทอง อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์  Young Smart Farmer (YSF) ต้นแบบ ของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของ “พ่อหลวง” รัชกาลที่ ๙  มาเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและพัฒนาบ้านเกิด โดยเฉพาะแนวคิดการปรับลดพื้นที่นาข้าวลง และขยายคันนาให้ใหญ่ขึ้น เพื่อใช้เป็นพื้นที่ปลูกฝรั่งกิมจูอินทรีย์ผสมผสานกับพืชผักสวนครัว และไม้ผลต่างๆ สามารถเก็บผลผลิตขายสร้างรายได้ดีตลอดทั้งปี จากเดิมทำนาปลูกข้าวอย่างเดียวขายได้ราคาต่ำเพียงปีละครั้ง

ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web1นายสมพงษ์ นามปราศรัย   เล่าว่า ยึดอาชีพทำนาปลูกข้าวต่อมาจากพ่อแม่ โดยมีที่นาทั้งหมดกว่า 18 ไร่ แปลงนาที่ทำมาตลอดชีวิตมักเป็นคันนาขนาดเล็กๆ แค่พอเดินเข้าไปแปลงนาได้เท่านั้นและอาชีพทำนาก็ทำปีละครั้งมีรายได้เป็นก้อนแค่ครั้งเดียว ระหว่างที่รอฤดูกาลผลิตต้องอพยพย้ายถิ่นฐานไปหางานอื่นทำในเมืองหลวงหรือต่างจังหวัด และ ต้นทุนการทำนาก็สูงขึ้นทุกวัน ยิ่งทำจึงยิ่งขาดทุนและจนซ้ำซากอยู่เช่นเดิม

ตนจึงคิดปรับเปลี่ยนแปลงนาที่มีอยู่ด้วยการลดพื้นที่แปลงนาลงและไปเพิ่มขนาดคันนาให้ใหญ่ขึ้นเป็น ขนาดความกว้างประมาณ 4 เมตรและปลูกพืชเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของดินซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์เป็นดินภูเขาไฟ แล้วจึงวางแผนการผลิต ออกแบบพื้นที่ฟาร์มทั้งหมด 18 ไร่ และวางระบบน้ำ เน้นลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต โดยแบ่งพื้นที่ 3 ไร่ ไปปลูกหญ้าเนเปีย และกล้วยน้ำหว้า เพื่อเป็นอาหารสัตว์ส่วนกล้วยสามารถเก็บผลผลิตขายได้ตลอดทั้งปี

ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web2ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web3สำหรับบริเวณคันนาที่ขยายให้กว้างขึ้นนั้น ได้นำ ฝรั่ง พันธุ์กิมจู มาปลูกรวมกว่า  500 ต้น  และปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผล แซมตามพื้นที่ว่าง อีกหลายชนิด เช่น มะละกอ  ข่า  ตะไคร้   มะนาว  เป็นลักษณะแบบเกษตรผสมผสาน เพื่อลดความเสี่ยงจากการทำนาเพียงอย่างเดียว  ที่อาจประสบปัญหาภัยแล้งและราคาผลผลิตตกต่ำ ทำให้มีผลผลิตเก็บขายสร้างรายได้ตลอดปี ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น โดยเฉพาะฝรั่งสามารถเก็บผลผลิตขายได้ตลอด ปัจจุบันถือว่าประสบผลสำเร็จ ทำให้เกษตรกรในพื้นที่ได้นำเอาไปเป็นแบบอย่างและเข้ามาศึกษาดูงานจำนวนมาก

“ ขณะนี้สามารถเก็บผลผลิตฝรั่งกิมจู ส่งขายได้แล้วจำนวนกว่า 50 ต้น เฉลี่ยวันละ 5 – 10 กิโลกรัม มีรายได้เฉลี่ยวันละ 200 – 300 บาท หรือเดือนละกว่า 10,000 บาท   และ คาดว่าหากสามารถเก็บผลผลิตฝรั่งพันธุ์กิมจู ที่ปลูกไว้ตามนาทั้ง 500 ต้น ขายได้เต็มที่ จะทำให้มีรายได้เฉลี่ยเดือนละหลายแสนบาท ”  นายสมพงษ์ กล่าว

ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web5ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web6นายสมพงษ์  กล่าวอีกว่า ล่าสุดได้ต่อยอดงานด้านการเกษตรของตนเอง ด้วยการจัดตั้ง “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรปลอดภัยตำบลสระทอง”  ขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร ทั้งการปลูกพืชผัก ไม้ผล  เลี้ยงสุกร ไก่ไข่ กบ และปลา อีกทั้งยังทำปุ๋ยหมักจากมูลสัตว์และน้ำหมักชีวภาพใช้เอง แทนการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและต้นทุนสูง ซึ่งนอกจากช่วยลดต้นทุนการผลิตแล้วยังปลอดภัยทั้งคนผลิตและผู้บริโภคด้วย

พร้อมดำเนินการสร้างแบรนด์ของตนเองขึ้นมาเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ที่นำเทคโนโลยีมาผสมผสานในการผลิต นำไปสู่สินค้าเกษตรแปรรูป โดยคำนึงการพัฒนาสินค้าที่ต้องสอดรับกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ทั้งคนไทยและต่างชาติด้วย และก้าวต่อไป คือ การรวมกลุ่มกันปลูกฝรั่งและพืชอินทรีย์ ในรูปแบบเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มอำนาจการต่อรองด้านการตลาด

ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web8ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web7ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web8 ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web10 ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web11 ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web12 ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web13 ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ต้นแบบบุรีรัมย์-web14