by

โคราชรวบหนุ่มทวงหนี้โหดแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวแล้ว เจ้าตัวเดินทางเข้ามอบตัวพร้อมทนายความ ตำรวจไม่ให้ประกันตัว เตรียมส่งฝากขังศาลพรุ่งนี้ (11 พ.ค.) และให้ผู้ต้องหายื่นประกันตัวชั้นศาลแทน

วันนี้( 10 พฤษภาคม 2561) ความคืบหน้าจากกรณีเหตุการณ์เมื่อเย็นวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่มีชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถยนต์เก๋งเข้าไปทวงหนี้เงินกู้นอกระบบจากนางดาหวัน ศรีโคกกรวด อายุ 53 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวภายในศูนย์พักรถโดยสาร ของบริษัท เชิดชัยทัวร์ จำกัด ริมถนนมิตรภาพ อำเภอเมืองนครราชสีมา แล้วใช้เก้าอี้พลาสติกฟาดศีรษะแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวจนศีรษะแตกเลือดอาบ นอกจากนี้หนุ่มทวงหนี้โหดยังใช้ฝ่ามือตบหน้า นางสำราญ หมั่นหมื่นไวย อายุ 50 ปี แม่บ้านที่เข้าไปห้ามปรามจนได้รับบาดเจ็บไปอีกรายก่อนหลบหนีไป ซึ่งหลังเกิดเหตุ พลตำรวจตรีวัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาให้ได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นการกระทำที่อุกอาจนั้น

 ]ล่าสุดบ่ายวันนี้ (10 พฤษภาคม 2561) เวลา 14.00 น. นายชัชวาล ตลาดปรุ หรือต๊ะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 308 หมู่ 1 ตำบลปรุใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นชายคนร้ายที่ก่อเหตุทวงหนี้โหดแล้ว พร้อมทนายความส่วนตัว ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.มงคล คุปศิริรัตน์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.โพธิ์กลาง อำเภอเมืองนครราชสีมา แต่เนื่องจากนายชัชวาลฯ ถูกศาลจังหวัดนครราชสีมาออกหมายจับตามที่พนักงานสอบสวนยื่นร้องขอ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องควบคุมตัวนายชัชวาลฯ ไว้ในห้องขัง สภ.โพธิ์กลาง และยังไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา โดยระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัวนายชัชวาลฯ เดินไปเข้าห้องควบคุม นายชัชชวาลฯ ที่มีสีหน้าเรียบเฉยก้มหน้าก้มตาไม่ยอมพูดคุย ได้แต่ส่ายหัว และไม่ยอมเปิดปากให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

พันตำรวจตรี มงคล คุปติศิริรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนต้องคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล และจะได้ดำเนินการสอบปากคำ และพิมพ์มือประวัติผู้ต้องหาในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (11 พ.ค.) โดยจะแจ้งดำเนินคดีนายชัชวาลฯในความผิด 3 ข้อหา ประกอบด้วย ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ข้อหาเรียกรับดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และข้อหาตามความผิด พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 ส่วนผู้ต้องหาจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ซึ่งหลังจากนั้นก็จะส่งตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา โดยพนักงานสอบสวนจะไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นพนักงานสอบสวน แต่จะให้ผู้ต้องหายื่นประกันตัวในชั้นศาลแทน

ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พลตำรวจตรีวัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ให้ความสนใจอย่างมาก ประกอบกับเกี่ยวข้องการธุรกิจเงินกู้นอกระบบเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้โหดตามนโยบายของ ตร. ได้สั่งการชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง เจ้าของพื้นที่ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เร่งออกสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้โดยเร็วที่สุด และมีการกำชับให้เร่งดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้ภายในวันเดียว โดยสาเหตุมาจากกรณีเบื้องต้นทราบว่าแม่ค้าที่ได้รับบาดเจ็บได้ไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาใน จำนวน 10,000 บาท ส่งเงินต้น และดอกเบี้ยรายวันในอัตราร้อยละ 20 ซึ่งก่อนเกิดเหตุแม่ค้าคนดังกล่าวได้ผัดผ่อน และไม่ได้ชำระเงินติดต่อกัน 2-3 วัน จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และยังสั่งกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานีทั้ง 32 อำเภอให้ดำเนินการกวาดล้างจับกุมธุรกิจเงินกู้นอกระบบในพื้นที่อย่างเข้มงวด และไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 18.30 น.ช่วงเย็นของวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 พ.ต.ท.มงคล คุปศิริรัตน์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.โพธิ์กลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมหน่วยกู้ภัยฮุก 31 รีบรุดไปช่วยเหลือผู้หญิง 2 รายถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ภายในศูนย์พักรถบัสโดยสาร บริษัท เชิดชัยทัวร์ ตรงข้ามอู่เชิดชัยของนางสุจินดา เชิดชัย ”เจ๊เกียว” นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารแห่งประเทศไทย ริม ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณร้านอาหารภายในศูนย์ฯพบโต๊ะเก้าอี้ข้าวของกระจัดกระจาย โดยตรวจสอบมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ นางดาหวัน ศรีโคกกรวด อายุ 53 ปี แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว ถูกตีด้วยเก้าอี้พลาสติกจนศีรษะแตก เลือดอาบท่วมใบหน้า และลำตัว ทั่วจุดเกิดเหตุมีชิ้นส่วนเก้าอี้แตกหักกระจุยกระจาย ส่วนอีกรายคือ นางสำราญ หมั่นหมื่นไวย อายุ 50 ปี แม่บ้านประจำศูนย์ฯ ถูกดึงผมกระชาก ตบที่ใบหน้าจนมีรอยฟกช้ำ หน่วยกู้ภัยพาทั้งคู่ส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยขณะก่อนเกิดเหตุกำลังเก็บของปิดร้านก๋วยเตี๋ยว มีชายฉกรรจ์แต่งตัวคล้ายนักเลงมีอิทธิพล รูปร่างอ้วน สูงใหญ่ ขับรถเก๋งสีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียน บุกมาทวงหนี้ที่ได้กู้ยืมมาอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อเดือน แต่ผิดนัดจ่ายเพียงไม่กี่วัน จึงถูกตามทวงด้วยวาจาหยาบคาย ท่าทีคุกคาม เสียงดังกระโชกโฮกฮาก จึงใช้หนี้เป็นเงินจำนวนหนึ่งไป แต่คนร้ายยังอารมณ์โมโหร้าย ด่าทอรุนแรง พร้อมกับตบตีที่ใบหน้า ยังไม่หนำใจยังคว้าเก้าอี้ตีที่ศีรษะอย่างแรงแตกมีเลือดอาบ รู้สึกตกใจและงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก โดยมีนางสำราญฯ ได้ตะโกนบอกให้หยุด ขอร้องให้พอแล้ว อย่าทำป้า เลือดออกท่วมตัวแล้ว สงสารแก” จากนั้นคนร้ายมีทาทีคุกคามเอาเรื่อง เดินปรี่มาหาตน บอกว่า “อย่ามายุ่ง” ก่อนเปิดประตูเข้าไปในสำนักงาน แล้วใช้มือจิกผมกระชากตัวออกมา แล้วตบที่ใบหน้า 1 ครั้งจนหน้าชา ก่อนคนร้ายขึ้นรถหลบหนีไปตามที่มีข่าวเสนอไป