กลุ่มสุราชุมชนโคราชเดือดร้อนหนักถูกสรรพสามิตบีบ เตรียมบุกร้อง “นายกฯ”

กลุ่มวิสาหกิจสุราชุมชนโคราช เดือดร้อนหนักร้องรัฐบาลช่วยเหลือหลังถูกสรรพสามิตบีบให้ปิดกิจการอ้างมีหอกลั่นสุราผิดแปลนที่ยื่นขออนุญาตไว้ ส่งผลให้ขาดรายได้ เลี้ยงครอบครัว  เตรียมรวมพลบุกพบนายกรัฐมนตรี  และยื่นฟ้องศาลปกครองเอาผิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ (28 ส.ค.) นายสมคิด  หอมเนตร ทนายความ พร้อมด้วย นางกรรณลิภา ดื่มพุดซา  และ นายธวัช สังข์สุข แกนนำกลุ่มวิสาหกิจสุราชุมชนบ้านพุดซา อ.เมือง จ.นครราชสีมา และสมาชิกวิสาหกิจ ได้ร่วมกันแถลงเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเข้ามาให้การช่วยเหลือ หลังเดือดร้อนจากการเพิกถอนใบอนุญาต

นางกรรณลิกา ดื่มพุดซา   หนึ่งในแกนนำกลุ่มวิสาหกิจสุราชุมชนบ้านพุดซา เปิดเผยว่า  ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาได้รวมกลุ่มกันตั้งวิสาหกิจสุราชุมชนขึ้นและเข้าร่วมเป็นหนี่งในสมาคมสุราชุมชนแห่งประเทศไทย โดยในจังหวัดนครราชสีมามีผู้ประกอบการผลิตสุรากลั่นชุมชนที่ได้รับใบอนุญาตรวม 23 แห่ง จ่ายค่าอากรแสตมป์ให้แก่สรรพสามิตพื้นที่ นครราชสีมาปีละกว่า 500 ล้านบาทดำเนินธุรกิจมานานร่วม 10 ปี เริ่มจากกิจการขนาดเล็กและพัฒนาปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง มีการจ้างแรงงานในพื้นที่ เกิดเงินหมุนเวียนในชุมชนทำให้เศรษฐกิจระดับล่างมีการจับจ่ายใช้สอย

ทั้งนี้เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาทางสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครราชสีมา ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบสถานที่ทำสุรากลั่นชุมชนของผู้ประกอบการ และมีหนังสือแจ้งกลับมายังผู้ประกอบการเมื่อต้นเดือน ก.ค.2558 อ้างว่าผู้ประกอบการสุรากลั่นชุมชนรวม 18 แห่ง  สถานที่ทำสุราไม่เป็นไปตามแบบแปลนแผนผังที่ได้ยื่น พร้อมคำขออนุญาตก่อสร้างสถานที่ทำสุรา โดยได้มีการก่อสร้างหอกลั่นสุราซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบแปลนแผนผังสถานที่ทำสุราโดยไม่ได้ยื่นขออนุญาตต่อสรรพสามิตพื้นที่ล่วงหน้า จึงจะทำการเพิกถอนใบอนุญาต

นางกรรณลิกา กล่าว่า จากปัญหาดังกล่าวข้างตนส่งผลให้ผู้ประกอบการสุราชุมชนไม่มั่นใจในการประกอบกิจการ บางรายชะลอการผลิตสุรากลั่นชุมชนทำให้ลูกจ้างและธุรกิจที่เป็นห่วงโซ่ เช่น คนล้างขวด คนงานพับลังเหล้า คนขายฝืน ขาดรายได้ส่งผลให้ทุกส่วนเดือดร้อน ซึ่งการดำเนินการของภาครัฐทำเกินกว่าเหตุ ทุกปีจะมีการขอต่อใบอนุญาตในช่วงที่มีการก่อสร้างเจ้าหน้าที่รัฐกลับไม่โต้แย้งหรือตักเตือนเลย  เพราะการทำหอกลั่นก็เพื่อต้องการให้เหล้าที่กลั่นออกมามีความสะอาด ปลอดภัย และรสชาติดี เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค ซึ่งใช้เงินลงทุนสูงมาก  และหากภาครัฐเห็นว่าไม่ถูกต้องก็น่าจะมีการตักเตือนก่อน ไม่ใช่เพิกถอนใบอนุญาต เหมือนการรังแกผู้ประกอบการรายย่อยให้ล้มตายไปในที่สุด

นายสมคิด  หอมเนตร ทนายความกลุ่มวิสาหกิจสุราชุมชน กล่าวว่า ตนจะรวบรวมข้อมูลของผู้ประกอบการสุรากลั่นชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินการของภาครัฐ จากนั้นจะเดินทางเข้ายืนหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพื่อให้การช่วยเหลือ ซี่งกลุ่มวิสาหกิจสุรากลั่นชุมชนเกิดและเติบโตมาจากมิติคณะรัฐมนตรีที่ต้องการให้ประชาชนในชุมชุนต่างๆ ได้มีการผลิตสุราชุมชนขึ้นมาเพื่อสร้างรายได้และอาชีพให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย โดยนัดหมายวันที่ 3 ก.ย.นี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล นอกจากนี้จะยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อเอาผิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การคุ้มครองชั่วคราวกลุ่มวิสาหกิจชุมชุนเพื่อให้สามารถประกอบกิจการต่อไปมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัวแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเบื้องต้น นายสมคิดกล่าว