กระทรวงคมนาคมาเดินหน้ารถไฟความเร็วปานกลาง เปิดเวทีรับฟังความเห็นชาวโคราช เพื่อร่วมพัฒนารถไฟไทย-จีน พัฒนาระบบโลจิสติกส์ขนส่งสินค้า พร้อมเปิดประตูการค้าสู่อาเซียน ขณะที่รถไฟทางคู่คืบหน้า ล่าสุดสายมาบกะเบา-จิระโคราช ผ่าน EIA แล้ว สรุปการก่อสร้างเจาะอุโมงค์ ใช้งบประมาณร่วม 3 หมื่นล้านบาท
วันนี้ (1 มี.ค. ) ที่ โรงแรมดุสิตปริ้นเซสโคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อการพัฒนาโครงการก่อสร้างรถไฟขนาดรางมาตรฐาน โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐเอกชนเข้าร่วมการสัมมนาครั้งนี้กว่า 300 คน ทั้งนี้เพื่อให้ความรู้ สร้างความเข้าใจต่อการพัฒนาโครงการ และรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน
นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมามีความตื่นตัวในการพัฒนาจังหวัดให้สอดรับกับโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล ทั้งโครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟขนาดทางมาตรฐาน และโครงการมอเตอร์เวย์ ที่จะเชื่อมต่อมายังจังหวัดนครราชสีมา หากประชาชนในพื้นที่ไม่พัฒนาหรือมีแผนรองรับความเจริญที่กำลังจะมาถึงอาจจะเกิดปัญหาได้ในอนาคต ฉะนั้นการลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชน โดยจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย และมีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ เป็นประตูทางการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวเชื่อมโยงสู่อินโดจีน เป็นฐานการผลิตและส่งออกข้าวหอมมะลิ ผลิตภัณฑ์จากไหม ศูนย์กลางการพัฒนาพลังงานทดแทน รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ อารยธรรมขอม แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
การพัฒนาและปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะระบบราง จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรม การค้า และบริการ เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตผลเกษตร ซึ่งจะส่งเสริมให้โคราชเป็นศูนย์กลางคมนาคมในภาคอีสน เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพพัฒนาให้เป็นย่านกองเก็บและขนถ่ายตู้สินค้า ได้แก่ สถานีบ้านกระโดน สถานีกุดจิก และ สถานีชุมทางบัวใหญ่ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนยุทธศาสตร์ของจังหวัดในอีก 10 ปีข้างหน้า ให้เป็นประตูเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ และกระจายสินค้าสำคัญในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสีเขียว ประวัติศาสตร์อารยธรรมขอมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
ด้านนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าว่า โครงการก่อสร้างรถไฟขนาดทางมาตรฐาน 1.435 เมตร (Standard Gauge) มีแนวเส้นทางเบ่งเป็น 4 ช่วย คือ ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ (บางซื่อ) –แก่งคอย ระยะทาง 118 กม. ช่วงที่ 2 แก่คอย-มาบตาพุด ระยะทาง 239 กม. ช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 134 กม. และช่วงที่ 4 นครราชสีมา – หนองคาย ระยะทาง 354 กม. รวมระยะทางทั้งหมด 845 กม. โดยเกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการก่อสร้างรถไฟขนาดทางมาตรฐาน ตามกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทยปี 2558-2565 ซึงจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางและขนส่งสินค้าที่ต้องการความเร็วสูงขึ้นในอนาคต และทำให้ประเทศไทยสามารถเชื่อมโรงระบบรางไปถึงจีนได้ โดยผ่าน สปป.ลาว รวมทั้งช่วงสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ และเป็นโอกาสสำคัญในการกระจายความเจริญ และสร้างรายได้สู่ภูมิภาคตลอดแนวเส้นทางที่รถไฟวิ่งผ่าน
ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถสรุปรูปแบบการก่อสร้างและงบประมาณได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ โดยในเส้นทางโคราช-หนองคาย ซึ่งมีข่าวว่าทางจีนเสนอให้สร้างรางเดียวไปก่อนหากมีความจำเป็นค่อยสร้างเพิ่มอีกนั้น เรื่องนี้ยังตกลงกันไม่ได้ และยังมีความเห็นต่างกันอยู่ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเป็นการก่อสร้างรางคู่ขนาดกันในทุกเส้นทาง
นายวรวุฒิ กล่าวถึงโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ระยะทาง 131 กม. ซึ่งเป็น 1 ใน 7 เส้นทางตามแผนดำเนินการพัฒนาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วนของรัฐบาล โดยมีขนาดรางรถไฟ 1 เมตร (Meter Gauge) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 โดยล่าสุดแนวทางการก่อสร้างเส้นทางนี้จะมีการเจาะอุโมงค์บริเวณหลังสถานีคลองขนานจิตร บริเวณ กม..198+400 ถึง กม. 199+550 และสร้างสะพานสูง และผ่าน EIA เรียบร้อยแล้ว ใช้งบประมาณก่อสร้าง 29,968.62 ล้านบาท คาดจะเปิดประมูลหาผู้รับเหมาและลงมือก่อสร้างได้ในเร็ว ๆ นี้