“นิปปอนเพนต์” จับมือ ก.แรงงาน มอบศูนย์ฝึกอบรมช่างสีรถยนต์โคราช มูลค่า 1.6 ล้านบาท หวังผลิตช่างสีรถยนต์ป้อนตลาดแรงงาน ที่มีความต้องการสูงกว่า 2.5 หมื่นคน
นายธีรพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดศูนย์ฝึกอบรมช่างสีรถยนต์ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ซึ่งศูนย์ดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับ บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด ในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานที่อยู่ในภูมิภาคให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล พร้อมกันนี้ ได้มอบวุฒิบัตรแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกยกระดับฝีมือ สาขาเทคนิคการซ่อมสีรถยนต์เบื้องต้น จำนวน 20 คน โดยมี ว่าที่ ร.ต.นิรันดร์ ดุจจานุทัศน์ ปลัดจังหวัดนครราชสีมา และนายทวีชัย ตังธนาวิรุตม์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มธุรกิจสีพ่นซ่อมรถยนต์ ร่วมในพิธี
นายธีรพล กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดมีความต้องการช่างสีรถยนต์ประมาณ 25,000 คน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) จึงร่วมมือกับเอกชนซึ่งเป็นบริษัทผลิตสีรถยนต์รายใหญ่ของประเทศ ผลิตช่างสีรถยนต์เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด โดยจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมช่างสีรถยนต์ ในสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.) 12 แห่งทั่วประเทศ สำหรับศูนย์ฯ ของ สพร.นครราชสีมา ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกยกระดับฝีมือ สาขาเทคนิคการซ่อมสีรถยนต์เบื้องต้น ระยะเวลาการฝึก 18 ชั่วโมง มีผู้ผ่านการฝึกอบรม 20 คน โดยแรงงานที่ผ่านการฝึกอบรมจะได้รับวุฒิบัตรร่วมของสองหน่วยงาน และหากผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติระดับ 1 จะได้รับอัตราค่าจ้างวันละ 400 บาท ระดับ 2 วันละ 465 บาท และระดับ 3 วันละ 530 บาท ซึ่งสูงกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
ด้านนายทวีชัย กล่าวว่า นิปปอนเพนต์ประเทศไทยได้ริเริ่มโครงการ “Protégé Project” ร่วมกับ กพร. ในการยกระดับฝีมือช่างพ่นซ่อมสีรถยนต์ไทยสู่สากล ปัจจุบันให้การอบรมแก่ผู้สนใจไปแล้ว 31 รุ่น จำนวน 500 คน สำหรับ จ.นครราชสีมา ถือเป็นเมืองใหญ่ที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัว และมีกำลังแรงงานจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีศูนย์ฝึกอบรมที่มีมาตรฐาน เพื่อเพิ่มทักษะวิชาชีพ รองรับเศรษฐกิจของพื้นที่ที่กำลังเติบโต โดยนิปปอนเพนต์ทุ่มงบประมาณกว่า 1.6 ล้านบาท ในการปรับปรุงพื้นที่ และติดตั้งวัสดุอุปกรณ์มาตรฐานที่ใช้ในการเรียนการสอน ทั้งนี้ สาขาช่างสีรถยนต์กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอย่างมาก เชื่อว่าผู้ที่ผ่านมาอบรมนี้จะมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงต่อไปในอนาคต