คืบหน้าวางยาฆ่าสุนัขตำรวจสอบปากคำพยานครบแล้ว รอผลพิสูจน์ยาเม็ดที่พบในกระเพาะสุนัขที่ตาย ก่อนออกหมายเรียกหนุ่มนักศึกษาแพทย์เจ้าของสุนัขมารับทราบข้อกล่าวหาทารุณกรรมสัตว์
เมื่อช่วงบ่าย วันนี้ (13 กันยายน 2560) พันตำรวจโทพิชัย เชิดชู รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีหนุ่มนักศึกษาแพทย์วางยาฆ่าสุนัขหวังเงินประกันว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยล่าสุดได้สอบปากคำพยานไปครบแล้วทั้งหมด 3 ปาก ประกอบด้วย สัตวแพทย์รัชภูมิ เขียวสนาม นายสัตวแพทย์หัวหน้ากลุ่มสุขภาพสัตว์ , สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา ผู้แจ้งความร้องทุกข์ , สัตวแพทย์หญิงอนงค์นาถ สุตธรรม สัตวแพทย์ผู้ผ่าพิสูจน์สุนัข และนายไพโรจน์ สมศรี พนักงานขับรถขนส่งสุนัข โดยหลังจากนี้ต้องรอศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา ดำเนินการตรวจชนิดเม็ดยาที่พบในกระเพาะสุนัขมาประกอบสำนวนคดี ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาอีกอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ จากนั้นพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกหนุ่มนักศึกษาแพทย์เจ้าของสุนัข ให้มารับทราบข้อกล่าวหาทารุณกรรมสัตว์ต่อไป
“คดีนี้ไม่มีอะไรยุ่งยากหรือสลับซับซ้อนเป็นเพียงคดีธรรมดา ขั้นตอนขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานส่วนหนึ่งแล้ว ไม่มีอะไรมาก ตอนนี้รอผลการตรวจจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เท่านั้นเอง เบื้องต้นตอนนี้ต้องตั้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์ เนื่องจากทางปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมาได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ”พันตำรวจโทพิชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก ผบก.ภ.นครราชสีมาผู้บังคับบัญชาการได้กำชับหรือสั่งการลงมาพิเศษอย่างไร พ.ต.ท.พิชัย ตอบว่า ไม่มีอะไร ตนได้รายงานขึ้นไปยัง ผบก.ภ.นครราชสีมา ,ผบช.ภ.3 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามลำดับแล้ว
ตอบข้อ ถามว่าคดีนี้อัตราโทษอย่างไร พ.ต.ท.พิชัย ตอบว่า จริงๆแล้ว พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ มีโทษตามมาตรา 20 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คืออัตราโทษตามกฎหมายบัญญัติไว้ ส่วนศาลจะพิจารณาจะลงโทษอะไรต่างๆก็เป็นดุลยพินิจของศาล