ผู้ว่าโคราชสั่งปิดสถานบันเทิง 2 แห่ง “อัมพวา-ร้านเสริมสวย” 5 ปีหลังปล่อยเยาวชนเข้าใช้บริการ ศาลแขวงสั่งลงโทษผู้ดูแลโดยจำคุก 3 เดือน ปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา ขณะ จนท.ลงปิดประกาศ อดีตนายตำรวจวิ่งเคลียร์อ้างเด็กแอบเข้าหลังร้านทั้งที่เข้มงวดเต็มที่ พบตู้แดงตำรวจติดอยู่หน้าร้าน ด้านผู้ประกอบการโอด ขายไม่ดีแล้วยังถูกรัฐรังแก เตรียมยืนอุทธรณ์เพราะทำให้เดือดร้อน ลูกจ้างตกงานอื้อ เผยปีนี้โคราชสั่งปิดไปแล้ว 3 แห่ง
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (30 ต.ค.) ที่ร้านอัมพวา เลขที่ 264 ถ.ยมราช ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ ตำรวจพร้อมฝ่ายปกครอง อ.เมือง นครราชสีมา นำโดยนิสิต วงศ์หทัย ปลัดอำเภอเ มืองนครราชสีมา และ พ.ต.ท.ธรณ์เทพ ประคองกลาง สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนครราชสีมา ได้นำกำลังเข้าปิดสถานบริการ 2 แห่งที่ทำผิดกฎหมาย ตามคำสั่งของ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หลังกระทำผิดกฎหมาย และศาลแขวงนครราชสีมามีคำพิพากษา
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ส.ค.2558 ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมนครราชสีมา และชุดปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมอำเภอเมืองนครราชสีมา ได้ออกตรวจตราและกวดขันสถานบริการและสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะคล้ายสถานบริการในเขตพื้นที่ อำเภอเมืองนครราชสีมาพบสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะคล้ายสถานบริการชื่อ “ร้านอัมพวา” ตั้งอยู่เลขที่ 264 ถ.ยมราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้กระทำผิดกฎหมายโดยยินยอมให้หรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุตำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้าไปใช้บริการรวมทั้งจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ มีนายณัฐดนัย มาหมื่นไวย อาย 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185 ซอยกิ่งสวายเรียง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา แสดงตนเป็นผู้ดูแลสถานประกอบการ จึงได้จับกุมแลดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาศาลแขวงนครราชสีมามีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 4282/2558 คดีหมายเลขแดงที่ 4241/2558 ลงวันที่ 8 ส.ค. 2558 ว่า นายณัฐดนัย จำเลยกระทำผิดตามฟ้องลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 29 ,40 จำคุก 3 เดือน และปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 1 ปี
อาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 228/2558 ลงวันที่ 22 ก.ค. 2558 เรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางหรือการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ข้อ 4 จึงสั่งปิดสถานประกอบการ “ร้านอัมพวา” และห้ามมิให้มีการเปิดสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายสถานบริการในสถานที่ดังกล่าวอีกเป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. 2558 ถึง 29 ต.ค. 2563 หากผู้ประกอบการฝ่าผืนคำสั่งนี้ถือว่าขัดคำสั่งเจ้าพนักงานมีความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 368 อนึ่งคำสั่งให้ปิดสถานประกอบการดังกล่าวให้เป็นที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่ลงไปปิดประกาศและแจ้งให้ผู้ดูแลสถานประกอบการทราบ ได้มีอดีตนายตำรวจเกษียณอายุราชการ มาคอยประสานงานให้ พร้อมอ้างว่า มาดูแลงานให้นาย หากสถานประกอบการผิดก็พร้อมรับผิด แต่กรณีที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีเยาวชนอายุ 19 ปี แอบเข้ามาด้านหลังร้านและเป็นช่วงจังหวะที่เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจพอดี ทั้งที่ทางร้านเข้มงวดแล้ว แต่มาเจอเรื่องเช่นนี้ก็อยากขอความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะทางร้านดูแลและใส่ใจเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังสังเกตเห็นว่าร้านดังกล่าวมีตู้แดงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ติดไว้หน้าร้านด้วย
จากนั้นคณะของนายนิสิต ได้เดินทางไปปิดประกาศดังกล่าวที่ “ร้านเสริมสวย” เลขที่ 235/2 ถ.สรรพสิทธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีความผิดลักษณะเดียวกัน โดยมี น.ส.ปรีย์วรา เจตจรูญวิวัฒน์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 458/14 ถ.สืบศิริ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา แสดงตนเป็นผู้ดูแลสถานประกอบการ ศาลแขวงนครราชสีมามีคำพิพากษาเช่นเดียวกับกรณีแรกพร้อมสั่งปิดสถานประกอบการดังกล่าวรวม 5 ปีเช่นกัน
ขณะที่ผู้ประกอบการทั้ง 2 รายบอกตรงกันว่า โดยปกติร้านขายไม่ค่อยดี แล้วยังมาถูกทางการดำเนินการเช่นนี้อีก โดยความจริงแล้วน่าจะมีการตักเตือนก่อนที่จะปิดเพราะลูกจ้างที่มีอยู่ในร้านรวมกว่า 50 คน จะต้องตกงานกะทันหัน และสินค้าที่ซื้อตุนไว้ก็เสียหาย ทั้งหมด ความจริงภาครัฐเองควรจะเห็นใจผู้ประกอบการบ้างในสภาวะเศรษฐกิจซบเซา ขายสินค้าไม่ได้ และยังมาถูกสั่งปิดอีกปิดทางทำมาหากินของประชาชน ยืนยันว่าจะยืนอุทธรณ์ศาลปกครองแน่นอนเพื่อขอความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปีนี้ ผู้ว่าฯ ได้ลงนามสั่งปิดสถานบันเทิงไปแล้วรวม 3 แห่ง โดยก่อนหน้านี้สั่งปิดที่ อ.พิมาย 1 แห่ง นอกจากนี้ยังมีสถานบันเทิงที่เต็มใจเลิกกิจการไปเอง คือร้านเมาเมา บริเวณซอย 30 กันยา ถ.สุรนารายณ์ ซึ่งถูกแจ้งข้อหาไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุรา มีโทษปรับ แต่ทางผู้ประกอบการขอปิดกิจการไปเอง และร้าน 30 ดีกรี ที่อยู่ในย่านเดียวกันยอมปรับร้านใหม่จากเดิมเปิดขายสุราช่วงกลางคืนเป็นไม่ขายสุราเลย แต่จะประกอบกิจการขายอาหารเพียงอย่างเดียว