ชาวบ้านปากช่องโคราชพร้อมองค์กรสิ่งแวดล้อมเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง หลังได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ชี้ทำประชาชนเดือดร้อน สูญเสียที่ดินทำกินระบบสิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบรุนแรง เสนอให้ยกระดับถนนมอเตอร์เวย์ขึ้นจากแนวถนนมิตรภาพเดิม ยันจะต่อสู้ให้ถึงที่สุดนัดบุกทำเนียบพบนายก “ตู่” 2 ก.พ.นี้
วานนี้ (26 ม.ค.) ที่ สภ.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบการก่อสร้างโครงการมอเตอร์เวย์สาย 6 บางปะอิน-โคราช อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอำเภอปากช่องประกอบด้วย ชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอำเภอปากช่อง, กลุ่มเครือข่ายคนรักษ์เขาใหญ่ และกลุ่มรักษ์ลำตะคอง รวมกว่า 100 คนนำโดยนายลออง ศาลา อายุ 59 ปี , นายกฤติชัย สุขมังษา อายุ 57 ปี และ นายวิชชุ ชุปวา อายุ 66 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐานกับ พ.ต.ต.จริศักดิ์ แสนบัง พนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง เพื่อคัดค้านการสร้างถนนมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ช่วง ผ่าน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่มีแนวการก่อสร้างในพื้นที่ราบตั้งแต่ ต.พญาเย็น, กลางดง,หนองน้ำแดง, ขนงพระ และ ต.หนองสาหร่าย เนื่องจากกระทบต่อการดำเนินชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทำลายวิถีชีวิตของสัตว์ป่า ห้วยหนองคลองบึง
นายจงกล สมานมิตร ชาวบ้าน หมู่ 7 ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า การก่อสร้างโครงการฯ ดังกล่าวพาดผ่านที่ดินของตนจำนวน 37 ไร่ในพื้นที่ ต.ขนงพระ และต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งปัจจุบันตนเองทำการเกษตรปลูกมันสำปะหลัง ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก และล่าสุดตนได้รับหนังสือแจ้งจากกรมทางหลวงเรื่องให้ไปตกลงเรื่องราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเขตทางหลวง รัฐจ่ายเฉพาะค่าต้นไม้และสิ่งก่อสร้างเพียงไม่กี่บาทแต่ตนเองต้องสูญเสียที่ดินและอาชีพที่เคยทำมาสมัยปู่ย่าตายายบนพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งการกระทำของหน่วยงานรัฐเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ประชาชนชาวอำเภอปากช่องได้รับความเดือดร้อนจำนวนหลายคนโดยรัฐไม่เหลียวแล ฉะนั้นอยากเสนอให้มีการทบทวนโครงการใหม่โดยให้ยกระดับจากถนนมิตรภาพเดิมเพื่อไม่ให้กระทบต่อที่ดินของชาวบ้าน
ด้านสันติ มานะปิยะ ชาวบ้าน ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า รัฐไม่เคยลงพื้นที่มาสอบถามความเห็นชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเลย กระทั่งมีจดหมายมาถึงชาวบ้านให้ไปตกลงเรื่องการเวนคืนโดยคิดให้ในราคาไม่กี่บาท แลกกับความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ต้องการอยู่กับธรรมชาติ ซึ่งชาวบ้านไม่เห็นด้วยที่จะให้ก่อสร้างมอเตอร์เวย์ หากจะทำการก่อสร้างจริงก็ควรจะมีการยกระดับขึ้นบนถนนมิตรภาพเดิมเพื่อไม่ให้ชาวบ้านเดือดร้อน
ขณะที่ Mr.SHO OGA ประธานกรรมการบริหารบริษัท ฮาร์โมนีไลฟ์ ออร์แกนิคฟาร์ม ตั้งอยู่ ต. กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า บริษัททำฟาร์มออแกนิคบนพื้นที่ 50 ไร่มานานกว่า 17 ปีเป็นศูนย์กลางไร่ออแกนิคของประเทศไทยเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องออร์แกนิคของนักเรียนนักศึกษาทั้งในและต่างประเทศ ส่งพืชผลออร์แกนิกไปขายยังต่างประเทศและในประเทศไทยสร้างรายได้เข้าอำเภอปากช่องจำนวนมาก แต่เมื่อโครงการมอเตอร์เวย์จะเข้ามาก่อสร้างทำให้พื้นที่ของฟาร์มหายไป 7 ไร่ โดยผ่ากลางฟาร์มเท่ากับว่าไม่สามารถจะเป็นไร่ออร์แกนิคได้อีกต่อไป ซึ่งการก่อสร้างตลอดเส้นทางที่ผ่านมายกระดับทั้งหมดยกเว้นตั้งแต่ช่วง อ.ปากช่องกลับเป็นแนวราบโดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นธรรมชาติถือเป็นมรดกโลกการสร้างเส้นทางดังกล่าวจะมาทำลายธรรมชาติ และเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลทำเป็นเรื่องไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี จึงอยากเสนอให้รัฐบาลปรับแก้ไขให้มีการยกระดับโดยยึดแนวของถนนมิตรภาพเป็นหลักเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันที่จะต่อสู้คัดค้านให้ถึงที่สุด โดยจะร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรสิ่งแวดล้อมโลก พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้รัฐบาลเห็นใจและฟังเสียงของชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการดังกล่าว โดยจะนัดหมายกันเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลวันที่ 2 ก.พ.นี้