ชาวโคราชประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญเสาเอกพระเมรุมาศจำลอง และประกอบโครงสร้างสูง 23 เมตรเสวตฉัตร 9ชั้น
วันนี้( 9 ก.ย. ) เวลา 09.09 น. ที่มณฑลพิธี สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญเสาเอกพระเมรุมาศจำลอง และประกอบโครงสร้างพระเมรุมาศจำลอง เพื่อใช้ในพิธีสำคัญการถวายดอกไม้จันทน์ ในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพรัชกาลที่ 9 ในช่วงระหว่างวันที่ 25-26-27-28 และ 29 ตุลาคม 2560 โดยมีนายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ , นายธนพล จันทรนิมิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา และนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครราชสีมา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมใจกันสวมชุดขาวเข้าร่วมพิธีสำคัญครั้งนี้ ซึ่งพิธีบวงสรวงอัญเชิญเสาเอกนี้ถือเป็นวันสำคัญตามประเพณีธรรมเนียมโบราณทุกประการคือ การลงเสาเอก พิธีบายศรีหลัก บายศรีพรหม บายศรีเทพ ในการบอกกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่าทวยเทพทั้งหลาย เทพทุกชั้นฟ้ามาเป็นสักขีพยานประกอบพิธี
สำหรับการดำเนินการสร้างพระเมรุมาศจำลอง ณ มณฑลพิธี ท้องสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ใช้พื้นที่จำนวน 8 ไร่ โดย 2 ไร่ ถูกเนรมิตให้เป็นสวนดอกไม้สีเหลือง(ดอกดาวเรือง เรียงเป็นเลข ๙ ) ตามกำหนดการณ์จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2560 เพื่อเตรียมงานให้ประชาชนร่วมถวายดอกไม้จันทน์ ในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นขั้นตอนดำเนินการจัดประดับตกแต่งสถานที่ให้เหมาะสม มีความสะอาดเรียบร้อย พร้อมจัดกองอำนวยการความสะดวกให้แก่ประชาชนอย่างดีที่สุด
ทั้งนี้พระเมรุมาศจำลอง มีความสูงจากพื้นถึงยอดรวม 23 เมตร ฐานวงกลมรัศมี 16 เมตร ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครราชสีมาเร่งงานประกอบโครงการให้เสร็จภายใน 2 วัน โดยทางกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ออกแบบ และได้ส่งแบบมาให้จังหวัดนครราชสีมาสร้างเป็นทรงปราสาท ยอดเสวตฉัตร 9 ชั้น ปรางค์มีลักษณะคล้ายพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มีทางขึ้น-ลง 3 ทางเพื่อให้ประชาชนได้เดินขึ้นไปถวายดอกไม้จันทน์ โดยทั้งจังหวัด 32 อำเภอได้จัดเตรียมดอกไม้จันทน์ไว้จำนวนกว่า 2.7 ล้านดอก เพื่อให้เพียงพอกับประชาชนที่เดินทางไปร่วมพิธี พร้อมกันนี้บริเวณสถานที่ต่างๆ ทั่วจังหวัดนครราชสีมา และอำเภอต่างๆ เริ่มมีการประดับประดาดอกดาวเรืองสีเหลืองเพื่อแสดงความจงรักภักดีทั่วเมืองแล้ว
