ยามนี้สับสนจริงๆ บางวันเขียว บางวันแดงซะงั้น เล่นเอานักลงุทนมือใหม่อย่างเราทำอะไรไม่ถูกเลยคะ หันไปทางไหนดูเหมือน ภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยเป็นใจ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจในประเทศที่หลายคนกังวลว่าจะเติบโตหรือไม่ เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงมากมาย เช่น ภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง การลงทุนภาคเอกชนต่ำ อีกทั้งต่างประเทศก็แย่ ทุกวันดูแต่กรีซ ว่าท่านยุโรปจะเอาอย่างไร ทำให้เรากรี๊ด กรี๊ด สลบไปด้วย แต่ยังโชคดีกระแสเงินต่างประเทศทะลักเข้ามาในไทยบ้าง แต่ไม่รู้ชั่วคราว หรือถาวร
นี่แหละเป็นโอกาสของนักลงทุน จะฉกฉวยกำไรได้ เพราะมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้น เราต้องมาดูตัวเอง พร้อมเลือกกลยุทธ์ ซึ่งเตรียมไว้รับมือ ดังนี้
ค่ายกลแรก : ขี่พายุทะลุฟ้า
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ ตัดขาดทุนเป็น เน้นหุ้นที่พร้อมกลับตัวขึ้น สังเกตุจาก
1.หุ้นที่ตกลงมาอย่างแรงๆๆ หรือหุ้นที่ตกต่อเนื่องมานาน 5 วัน หรือ 7 วัน โดยไม่มีสาเหตุ มูลค่าซื้อขายเริ่มน้อยลง เตรียมเฝ้า พร้อมหาจังหวะซื้อ เมื่อหุ้นกลับตัว ตัดสินใจให้ไว
2.หุ้นที่เคยขึ้นแรงๆๆ หรือ ลงแรงๆๆ แล้ว นิ่งอยู่นานกว่า 1-2 สัปดาห์ ไม่มีใครสนใจ มูลค่าซื้อขายน้อย เฝ้าดูเช่นกัน
3.หุ้นที่มีราคาสูงของวันนี้ สูงกว่า 3 – 5- 7 วันก่อน (New High) นั่นก็ต้องดูแบบนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่อายุต่ำกว่า 35 ปี กล้าตัดสินใจ มีเวลาดู ไม่กลัวขาดทุน พอมีกำไรขายทำรอบ ผิดทางต้อง ขายทิ้ง นั่นหมายถึงหาจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) ไว้ด้วยทุกครั้งที่วางกลยุทธ์
จุด Stop Loss คือ การกำหนดจะยอมขาดทุน 1-5% หรือขายภายในวัน หรือถือข้ามวันแล้วขาย หรือขายต่ำกว่าราคา Low ของสองวันก่อน(หุ้นมี New Low) เป็นต้น
ค่ายกลสอง : เสือซุ่ม ตะครุบเหยื่อ
1.ตั้งเป้าหมายจะลงทุนระยะยาว หัวใจสำคัญที่จะทำให้เรารอดพ้นจากความผันผวนของตลาดในระยะสั้น ต้องเลือกลงทุนหุ้นในดวงใจ โดยเน้นหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี ที่เรารู้จัก เชื่อมั่น ถ้าเกิดอะไรขึ้น บริษัทนี้ไม่เสียหาย
2.ถึงแม้ว่าเราจะวางแผนอย่างไร ความผันผวนเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก ดังนั้นเราควรเลือกเน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีที่มีความคงทนต่อความผันผวนสูง เช่น หุ้นกิจการขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำตลาด มีฐานะการเงินที่มั่นคง ผลิตสินค้าอุปโภค บริโภค เช่น หุ้นไฟฟ้า หุ้นน้ำ หุ้นโรงพยาบาล หุ้นอาหารการกิน เป็นต้น
3.เน้นลงทุนในหุ้นที่ปันผลดี เพื่อว่าแม้ราคาหุ้นอาจยังไม่ปรับตัวจากภาวะตลาดที่ซบเซาแต่ด้วยกิจการที่ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดี เราก็ยังได้รับเงินปันผลที่มากกว่าการฝากเงินกับธนาคาร ให้เน้นที่กำไรดี จ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง หุ้นกลุ่มนี้มักเรียกหุ้นชุดกลุ่มหลบภัย หาได้ไม่ยาก
4.มองวิกฤติ คือ โอกาส คนรวยหุ้นเกือบทุกคน ลงทุนในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ เพราะคนเรามักจะตกใจต่อเหตุการณ์ภายนอกจนอยู่ในภาวะกระต่ายตื่นตูม ฮาๆๆๆเสร็จเราซื้อหุ้นดี ช่วงชั่งโมงเลวร้าย
5. หลักการบริหารความเสี่ยง ด้วยการกระจายการลงทุน ทั้งการกระจายความเสี่ยงไปยัง หุ้นต่างอุตสาหกรรมกัน หรือประเภทหุ้นที่แตกต่างกัน ประเภทสินทรัพย์การลงทุนที่แตกต่างกัน รวมถึง การลงทุนประเทศที่แตกต่าง
เห็นมั้ยคะช่วงเวลาตลาดผันผวนเช่นนี้มีเรื่องที่สร้างกลยุทธ์ต่อยอดการลงทุนมากมาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ใจนักลงทุนเท่านั้น
จะสู้หรือไม่ อย่างไรขอให้ท่านโชคดีมีทรัพย์นับแสนล้าน ตลอดปีนี้ทั้งปี เราจะมั่งคั่งไปด้วยกัน
ผู้เขียน: นฤมล บุญสนอง CFP®
รองกรรมการผู้จัดการ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด และ วิทยากรตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย