“มทภ.2” เผยกองทัพภาค 2 ระดมกำลังพลร่วมเร่งช่วยเหลือปชช.ประสบภัยแล้ง-พายุฤดูร้อนถล่ม มุ่ง จ.ศรีสะเกษ และโคราชแล้งหนักสุด เผยพายุฤดูร้อนถล่ม 13 จังหวัดเดือดร้อนกว่า 829 หมู่บ้าน ขณะโคราชจังหวัดเดียวเดือนเม.ย.พายุซัดพังกว่า 500 หลัง สถานที่ราชการ, ยุ้งฉางข้าว วัดและคอกสัตว์เสียหายอื้อ ราษฎรเดือดร้อนกว่า 1,600 คน
วันนี้ (26 เม.ย.) ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เปิดเผยสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภายหลังเป็นประธานประชุมผู้บริหารงานด้านความมั่นคงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2559 ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อชาวบ้านเดือดร้อนเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องรีบลงไปช่วยเหลือดูแลแก้ไขให้ทันท่วงทีเป็นอันดับแรก และเป็นนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยทางเลขาฯ คสช.คือ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เน้นย้ำลงมาตลอดว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่ว่าภัยพิบัติในรูปแบบใดให้รีบลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด
สำหรับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพื้นที่ประสบภัยแล้งหลายจังหวัด กำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ทำการแจกจ่ายน้ำไปแล้วกว่า 7.9 ล้านลิตรจังหวัด ที่น่าเป็นห่วงไม่มีน้ำกินน้ำใช้นั้น ตอนนี้เราโฟกัสพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และ จ.นครราชสีมา ที่จะต้องให้ความช่วยเหลือ โดยภาพรวมเรามีการเตรียมการตั้งแต่แรกเริ่มไว้แล้ว โดยกองทัพรณรงค์ตามโครงการหยุดภัยแล้งด้วยแสงอาทิตย์เป็นสิ่งยั่งยืนในการตอบโจทย์การแก้ปัญหาเรื่องภัยแล้งได้ส่วนหนึ่ง
แต่ขณะนี้มีปัญหาเรื่องพายุฤดูร้อนเข้ามาอีกยิ่งต้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากรายงานพบว่ามีพื้นที่ประสบวาตภัยแล้วจำนวน 13 จังหวัด 35 อำเภอ 829 หมู่บ้าน จังหวัดได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นและกำลังทหารในพื้นที่ได้เข้าช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนไปแล้วบางส่วน
ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงพื้นที่ประสบวาตภัย (พายุฤดูร้อน) ของ จ.นครราชสีมาว่า จากรายงานของสำนักงานป้องกันและบรรเทาธารณาภัยจังหวัดนครราชสีมา พบว่า มีพื้นที่เกิดวาตภัยตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.จนถึงปัจจุบันรวม 14 อำเภอ 36 ตำบล 109 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 593 ครัวเรือน 1,619 คน ที่อยู่อาศัยพัง 515 หลัง ยุ้งฉางข้างเสียหาย 41 หลัง, คอกสัตว์เสียหาย 28 หลัง สถานที่ราชการเสียหาย 1 แห่ง วัดเสียหาย 4 แห่ง
ประกอบด้วย 1. อ.เสิงสาง 5 ตำบล 15 หมู่บ้าน เสียหาย 60 หลัง 2. อ.โนนไทย 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน เสียหาย7หลัง 3. อ.ขามสะแกแสง 4 ตำบล 16หมู่บ้าน เสียหาย 48 หลัง 4. อ.คง 2 ตำบล 8 หมู่บ้าน เสียหาย 26 หลัง 5. อ.ขามทะเลสอ 2 ตำบล 8 หมู่บ้าน เสียหาย 39 หลัง 6.อ.พระทองคำ 2 ตำบล 11 หมู่บ้าน เสียหาย78 หลัง 7. อ.หนองบุญมาก 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน เสียหาย 83 หลัง
8. อ.สีคิ้ว 1 ตำบล 2หมู่บ้าน เสียหาย 6 หลัง 9. อ.ด่านขุนทด 1 ตำบล 2 หมู่บ้านเสียหาย 13 หลัง 10. อ.เทพารักษ์ 2 ตำบล 10 หมู่บ้าน เสียหาย 70หลัง 11. อ.ประทาย 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน เสียหาย 3 หลัง 12. อ.พิมาย 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน เสียหาย 16 หลัง 13. อ.ชุมพวง 3 ตำบล 10หมู่บ้าน เสียหาย 52 หลัง 14. อ.ห้วยแถลง 5 ตำบล 7 หมู่บ้าน เสียหาย 14 หลัง ล่าสุด อ.ด่านขุนทด ถูกพายุถล่มช่วงเย็นวานนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป