ผู้การฯ โคราชกำชับพนักงานสอบสวน คดีนักเตะบุกปล้ำ นศ.สาว ให้ทำคดีตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมฝ่ายผู้เสียหาย อย่าให้มีอิทธิพลในทางคดี ชี้ผู้จัดการทีมเคยเป็นอดีตนายตำรวจไม่มีผลต่อการทำคดีแน่น ด้านทนายความฝ่ายผู้เสียหาย ยันสู้คดีให้ถึงที่สุด ยอมรับที่ผ่านมาฝ่ายนักเตะพยายามขอเจรจา แต่ไม่เป็นผล ส่วนอนาคตจะคุยกันได้หรือไม่ขอดูสถานการณ์
วันนี้ (2 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายพร้อมพงษ์ กรานสำโรง อายุ 30 ปี นักฟุตบอลตำแหน่งกองหน้า ทีมสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี หรือ สวาทแคท บุกเข้าไปในบ้านพักเลขที่ 509 หมู่บ้านเทพธานี ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา และพยายามปลุกปล้ำลวนลาม จนกลายเป็นคดีความ ข้อหาบุกรุกเคหะสถานผู้อื่นในยามวิกาล และกระทำอนาจารผู้อื่น ล่าสุดนายพร้อมพงษ์ ได้ออกมาขอโทษแฟนบอลและสโมสรที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย โดยอ้างว่าเป็นความเข้าใจผิดเพียงแค่เป็นตามแฟนที่ทะเลาะกันเท่านั้น โดยสโมสรได้สั่งแข้งเป็นเวลา 1 เดือนและงดจ่ายค่าตอบแทนนั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ไ ด้เรียกประชุมพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เพื่อติดตามคดีสำคัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.จอหอ รวมถึงคดีนักเตะทีมสวาทแคทบุกรุกเข้าไปในเคหะสถานยามวิกาลและกระทำอนาจาร
พล.ต.ต.ฐากูร เปิดเผยว่า ได้กำชับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีให้เร่งรัดการดำเนินคดี เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชน เพราะผู้ต้องหาเป็นนักกีฬาฟุตบอลซึ่งเป็นทีมขวัญใจชาวโคราช จากรายงานทราบว่านายพร้อมพงษ์ ผู้ต้องหา ได้เดินทางพบพนักงานสอบสวนแล้วเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหวา โดยจะขอให้การในชั้นศาล ซึ่งตนได้กำชับให้พนักงานสอบสวนทำคดีอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายด้วย อย่าให้มีอิทธิพลใด้เข้ามาทำให้มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงในทางคดี
ต่อข้อถามที่ว่า ผู้จัดการทีมสโมสรสวาทเคท เป็นอดีตนายตำรวจจะใช้ความสนิทสนมกับข้าราชการตำรวจระดับสูงช่วยคดีนักเตะหรือไม่ พล.ต.ต.ฐากูร กล่าวยืนยันว่า ไม่มีเด็ดขาด ผู้จัดการทีมฯ ก็เคยเป็นอดีตตำรวจเท่านั้น ตอนนี้เกษียณอายุราชการไปแล้ว ไม่มีอำนาจใด ๆในเรื่องคดี ฉะนั้นขอยืนยันว่า คดีดังกล่าวตำรวจจะทำอย่างตรงไปตรงมาแน่นอน
ด้านนายวีระพันธุ์ บำขุนทด ทนายความส่วนตัว น.ส.เอ (นามสมมติ) นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า จากการแถลงข่าวของนายพร้อมพงษ์ ก็ยอมรับชัดเจนว่าได้บุกเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายจริงในเวลา 04.00 น. ส่วนเรื่องอนาจารนั้น ยืนยันว่า ฝ่ายผู้เสียหายมีหลักฐานมัดแน่น และยืนยันว่าจะไม่มีการยอมความเด็ดขาดพร้อมจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่ง ขณะนี้ น.ส.เอ ต้องย้ายไปอยู่กับญาติที่ อ.เฉลิมพระเกียรติก่อน และยอมรับว่าก่อนหน้านี้ทางฝ่ายนายพร้อมพงษ์ พยายามติดต่อที่จะขอเจรจากัน แต่ฝ่ายผู้เสียหายไม่ยอม อย่างไรก็ตามขณะนี้ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากตำรวจมีการนัดหมายไปให้ปากคำเพิ่มเติมก็พร้อมให้ความร่วมมือ ส่วนอนาคตหากทางฝ่ายนายพร้อมพงษ์จะขอเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันได้หรือไม่นั้น ก็ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต แต่ ณ วันนี้ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ พ.ต.ท. วรเชษฐ์ ป้องสุธาธาร พนักงานสอบสวนสภ.จอหอ เจ้าของคดี กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และจะนัดทั้ง 2 ฝ่ายมาให้ปากคำเพิ่มเติมภายในสัปดาห์นี้เพื่อเร่งสรุปสำนวนคดีส่งอัยการฟ้องศาลต่อไป