ผู้ว่าฯ โคราชเรียกประชุมด่วนหน่วยงานความมั่นคงและภาคเอกชนเจ้าของห้างฯ ใหญ่ กำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยหวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยบึ้มราชประสงค์ จี้ให้เจ้าของสถานที่ตรวจเช็คระบบกล้องวงจรปิดให้พร้อมใช้งาน กำชับ นอภ.ดูแลสถานที่ราชการ จุดท่องเที่ยวสำคัญระดับสูงสุดหากไม่เพียงพอให้ขอกำลังทหารและตำรวจเข้าเสริม
วันนี้ ( 18 ส.ค.58) ที่ห้องประชุมอาเซียน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง นายอำเภอ ผู้นำองค์กรเอกชน เจ้าของห้างสรรพสินค้า ขนส่งจังหวัด ท่องเที่ยวจังหวัด ผู้นำท้องถิ่น ตำรวจ และทหาร รวมถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการในการเฝ้าระวังป้องกันเหตุการณ์หลังเกิดเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
ทั้งนี้นายธงชัย ได้กำชับให้ทุกภาคส่วนระดมกำลังเฝ้าระวังสถานที่ราชการ บ้านพักบุคคลสำคัญอย่างเข้มงวด และให้เข้มงวดในการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่ พร้อมเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนเพื่อป้องกัน ป้องปรามการก่อเหตุร้าย รวมทั้งประเมินพื้นที่ที่มีความเสี่ยงและอาจตกเป็นเป้าหมายการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ของผู้ไม่หวังดี โดยให้เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยเฉพาะในพื้นที่ตั้งของหน่วยราชการ สถานที่มีคนมาชุมนุมกันจำนวนมาก เช่น ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) , ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ สวนสัตว์นครราชสีมา ตลาด โรงเรียน มหาวิทยาลัย สถานีขนส่งทุกแห่ง รวมถึงสถานที่จัดงานที่มีประชาชนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เช่น การจัดงานแจกข้าวสารแก่ผู้ยากไร้ของมูลนิธิต่างๆ และตลาดนัดขนาดใหญ่ เช่น เซฟวัน ไนท์บ้านเกาะ ไนท์วัดบูรพ์ ไนท์บาร์ซ่า ให้มีการตรวจเช็คกล้องวรจรปิดให้มีความพร้อมในการใช้งาน หากไม่มีกล้องวงจรปิดให้ติดตั้งให้เรียบร้อย
ส่วนสถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟ ให้เพิ่มมาตรการในการตรวจเข้มและสังเกตบุคคลต้องสงสัยต่างๆ รวมถึงตรวจเช็คระบบกล้องวงจรปิดให้พร้อมใช้งานเช่นกัน ส่วนการดูแลบ้านพักบุคคลสำคัญ เช่น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษที่บริเวณถนนสืบศิริ เขตเทศบาลนครนครราชสีมาได้มอบหมายให้ตำรวจเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ และหากพื้นที่ใดมีปัญหาหรือต้องการกำลังเสริมทั้งตำรวจและทหาร ให้ทำหนังสือบันทึกมายังจังหวัดเพื่อจัดกำลังลงไปเสริมและวางมาตรการร่วมกันต่อไป
สำหรับกรณีการเกิดเหตุระเบิดครั้งนี้ สันนิษฐานเบื้องต้นว่าอาจจะมาจาก 2 ปัจจัย คือ การก่อการร้ายสากล ฉะนั้นให้เฝ้าระวังดูแลกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนซึ่งอาจเป็นเป้าหมายได้ ส่วนอีกปัจจัย คือเรื่องการเมือง ให้มีการดูแลกลุ่มการเมืองเก่า โดยเกาะติดหาข่าวความเคลื่อนไหวทุกมิติ เพื่อประเมินสถานการณ์ พร้อมเฝ้าระวังจุดเสี่ยงและจุดล่อแหลมต่าง ๆ สำหรับด่านความมั่นคงที่มีการสนธิกำลังทำงานแบบบูรณาการณ์นั้น ขณะนี้มีอยู่ทั้งสิ้น 3 จุด คือ ที่ อ.สีคิ้ว , สี่แยกอวยชัย ถนนสาย 24 อ.ปักธงชัย และ สี่แยกหนองบัวโคกให้เพิ่มมาตรการตรวจเข้มรถทุกคันโดยเฉพาะการตรวจหาวัตถุระเบิดและอาวุธต่าง ๆที่อาจจะนำมาใช้ในการก่อเหตุได้
