ยายวัย 68 ปีชาวโคราชสะสมภาพพระบรมฉายาลักษณ์ “ในหลวง ร.๙” กว่า 500 ภาพ มานานร่วม 60 ปี สะสมเกือบทุกพระราชกรณียกิจที่พระองค์เสด็จ หวังให้เป็นแสงสว่างนำทางชีวิต และเป็นเครื่องยึดเหนียวจิตใจให้ดำรงชีวิตอย่างพอเพียง เก็บสะสมไว้ให้ลูกหลานเป็นมรดกชิ้นสำคัญ
วันนี้ (31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนว่า พบคุณยายวัย 68 ปี ทราบชื่อ นางละบอบ สัมฤทธิ์รินทร์ ชาว จ.นครราชสีมา เก็บสะสมรูปภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช เป็นจำนวนมาก โดยติดไว้ในบ้าน หน้าร้านและในร้านขายของชำ ชื่อร้าน ต้นไทร ข้างทางรถไฟ ถนนเลียบนคร ชุมชนหลังบ้านสุวัจน์ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ร้านขายของชำ ร้านต้นไทร บ้านเลขที่ 2156 ถนนเลียบ ริมทางรถไฟ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยนางละบอบ กล่าวว่า สะสมภาพมหามงคลจำนวนมากกว่า 500 ภาพมานานหลายปีแล้ว มีทั้งภาพที่ใส่กรอบแขวนไว้ และภาพที่นำมาจากปฏิทิน , นิตยสาร , หนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่จะติดและแขวนไว้บริเวณหน้าร้านขายของชำ อีกส่วนหนึ่งอยู่ในบ้าน โดยภาพพระบรมฉายาลักษณ์ภาพแรกที่สะสมคือ ภาพรัชสมัยแห่งธรรมราชาทรงขึ้นครองราชย์สมบัติ โดยทุกภาพเป็นภาพประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นภาพพระราชกรณียกิจ นานานับประการที่ทรงเหน็ดเหนื่อยพระวรกายตราตรำทรงงาน เพื่อพสกนิกรประชาชนชาวไทย
นางละบอบ เล่าย้อนให้ฟังว่า เมื่อครั้งที่นายเม็ง สัมฤทธิ์รินทร์ สามีซึ่งประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปยังมีชีวิตอยู่ได้สะสมภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระองค์ท่านไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 หรือเกือบ 60 ปี รวมไม่ต่ำกว่า 500ใบ ซึ่งสามีเสียชีวิตเมื่ออายุ 75 ปี ตลอดชีวิตของตนได้กราบสักการะพระองค์ท่านทุกวัน ตอนนี้ก็กราบถวายความอาลัย และพร่ำสอนสั่งลูก ๆ ทุกคนให้ขยัน อดทน นำพระราชดำริของพระองค์มาเป็นแบบอย่าง และเสียสละ ซื่อสัตย์สุจริต ซื่อตรงในหน้าที่การงาน โดยเฉพาะทำมาค้าขายต้องมีความซื่อสัตย์
สำหรับภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่เก็บสะสมไว้ ประชาชนที่เดินผ่านไปมาหน้าร้านก็มักจะเข้ามากราบสักการะเป็นประจำ บางคนมาขอนำไปบูชา ตนไม่ยอมให้ไป จะให้ราคาเท่าไหร่ก็ไม่ให้ แต่มากราบได้ เพราะพระบรมฉายาลักษณ์ทั้งหมดที่สะสมมานานร่วม 60 ปีนี้เพื่อเป็นแสงสว่างนำทางชีวิตให้กับลูกหลาน เหลนโหลน ต่อๆไป ถ้าตนจากโลกนี้ไปแล้ว ก็จะให้ลูกหลานรักษาภาพมหามงคลรัชกาลที่ 9 ให้เป็นมรดกตกทอดชั่วลูกชั่วหลานที่จะได้น้อมนำแนวพระราชดำริ ไปใช้กับชีวิตและครอบครัวทุกคน รวมทั้งประชาชนทั่วไป ตนดีใจมากที่ได้เกิดในรัชกาลที่ 9 จะขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
นางละบอบ กล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่า พระองค์ท่านได้ช่วยเหลือประเทศชาติบ้านเมือง โดยพยายามพัฒนาทุกสิ่งทุกอย่าง มากมาย พระคุณนี้คงจะหาที่เปรียบมิได้ พอทราบข่าวการสวรรคตของพระองค์ท่านก็รู้สึกสะเทือนจิตใจมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ รู้สึกเสียใจมาก ตนเอาแต่นั่งเหม่อลอย ทำอะไรไม่ถูก จะจดจำไปตลอดชั่วชีวิต หากสามารถตายแทนได้ก็จะขอตายแทนพระองค์ ตอนนี้ตนตั้งใจว่า สักครั้งของชีวิตจะเดินทางไปกราบสักการะพระบรมศพพระองค์ท่านให้ได้ และอยากให้คนไทยเป็นคนดีของพ่อ ให้คนไทยทุกคนรักกัน