ตำรวจภูธรภาค 3 รวบพลตำรวจโท ดีเอสไอ เก๊ พร้อมยึดของกลางอาวุธปืน 12 กระบอก เครื่องกระสุน ยุทธภัณฑ์จำนวนมากและหมวกเครื่องแบบตำรวจเพียบ แหกตาหลอกเหยื่อชาวโคราชและ ปชช.ภาคเหนือมานานกว่า 25 ปี สารภาพชอบเครื่องแบบตำรวจมาตั้งแต่เด็ก ขณะเมียอ้างหน้าตาเฉยไม่รู้ผัวเป็น ตร.เก๊ ด้าน ตร.แท้ไม่ปักใจเชื่อ และ ฝาก ปชช.ที่เคยตกเป็นเหยื่อให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่ม
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (25 ส.ค.) ที่ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต. สุวรรณ เอกโพธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปกรณ์ เสริมสุวรรณ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมบุคคลแอบอ้างเป็นนายตำรวจยศ พล.ต.ท. ตระเวนหลอกประชาชนทั่วประเทศมานานกว่า 25 ปี ได้ผู้ต้องหา 1 รายคือ นายภูมิพัฒน์ เลิศธนาอนันต์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 302/2-3 ถนนอัษฎางค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา อาวุธปืนพกสั้นขนาดต่างๆ จำนวน 12 กระบอกมีทะเบียน 9 กระบอก และไม่มีทะเบียนอีก 3 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 65 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 25 นัด และ เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 197 นัด เสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว หมวกและเครื่องแบบตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง วิทยุสื่อสาร 2 เครื่อง ซองพกปืนอีก 12 ซอง เครื่องแบบคอพับแขนยาวสีกากีติดเครื่องหมายแสดงยศบนบ่า “พลตำรวจโท” ติดป้ายชื่อ ภูมิพัฒน์ เลิศธนาอนันท์ แพรแถบพร้อมเครื่องราช
โดยขณะแถลงข่าวประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างมามุงดูหน้านาย ภูมิพัฒน์ เป็นจำนวนมาก บางคนบอกว่าหลงเชื่อมาตั้งนานไม่คิดว่าจะเป็นตำรวจปลอม
ทั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีบุคคลแต่งกายเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ พล.ต.ท. และนำรูปถ่ายแต่งเครื่องแบบเต็มยศ นำไปเป็นรูปประจำตัวในเฟซบุ๊คโดยใช้ชื่อว่า พล.ต.ท.ภูมิพัฒน์ เลิศธนาอนันท์ Phum Loeb เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนและขอศาลออกหมายจับในข้อหา “แต่เครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ” และเข้าทำการจับกุมตัวนาย ภูมิพัฒน์ เลิศธนาอนันต์ ได้ขณะกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านพักกลางเมืองนครราชสีมา โดยนายภูมิพัฒน์ ให้การรับสารภาพ พร้อมนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพัก พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมากดังกล่าว เจ้าหน้าที่ จึงได้แจ้งข้อเพิ่ม มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
จากการสอบสวนทราบว่า นายภูมิพัฒน์ มักแต่งกายเลียนแบบตำรวจติดยศพลตำรวจโทไปร่วมงานพิธีต่างๆ และบางงานได้รับเชิญเป็นประธานในพิธี โดยอ้างว่าเป็นตำรวจสังกัด กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่าเป็นนายตำรวจยศพลตำรวจโทจริง และยังมีพฤติกรรมหลอกหลวงประชาชนด้วยการนำพระเครื่องราคาถูกไปขายในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ โดยอ้างว่าเป็นพระเครื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหลอกว่าจะสามารถวิ่งเต้นให้เข้ารับราชการตำรวจหรือให้ลื่อนยศตำแหน่งของข้าราชการตำรวจได้ โดยมีผู้เสียหายอยู่ในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ เช่น พิษณุโลก สุโขทัย รวมกว่า 20 รายที่ตกเป็นเหยื่อ
นายภูมิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ตนเองชื่นชอบเครื่องแบบตำรวจมาตั้งแต่เด็ก และภรรยากับลูกสาวอีก 2 คน ไม่ทราบเรื่องที่ตนเองเป็น พล.ต.ท.เก๊ และไม่มีส่วนรู้เห็นใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเนื่องจาก ทุกครั้งที่นายภูมิพัฒน์ แต่งเครื่องแบบตำรวจออกตระเวนหาหลอกเหยื่อ จะมีนางอาภรณ์ ภรรยาขับรถให้ทุกครั้ง แต่เนื่องจากเกรงว่าจะมีความผิดจึงปฏิเสธว่าภรรยาและลูกไม่มีส่วนรู้เห็น จากการสอบประวัติ อาชญากรรมไม่พบถูกจับกุมดำเนินคดีมาก่อน โดยนายภูมิพัฒน์ เคยเป็นอดีตประธานชุมชนวัดอิสาน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา และปัจจุบันให้นางอาภรณ์ ภรรยา รับตำแหน่งประธานชุมชนแทนเนื่องจากนายภูมิพัฒน์อ้างว่ามีภารกิจมาก ซึ่งทุกคนในชุมชนวัดอิสานเชื่อว่านายภูมิพัฒน์ เป็นตำรวจมาโดยตลอด เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหากใครเคยตกเป็นเหยื่อหรือถูกนายภูมิพัฒน์หลอกสามารถมาดูตัวและแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา