“ เอไอเอส ย้ำความปลอดภัยเสาส่งสัญญาณ ”
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) เตือนประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์พายุฤดูร้อนที่เกิดทั่วประเทศ ซึ่งมีความเร็วลมประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยโดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเหนือครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร ร้อยเอ็ด ยโสธร ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี เอไอเอสยืนยันความปลอดภัยของเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่มั่นคงแข็งแรงได้มาตรฐาน
นางวิไล เคียงประดู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโสส่วนงานประชาสัมพันธ์ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอสย้ำความปลอดภัยของเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือหรือสถานีฐานว่ามีโครงสร้างที่มั่นคง แข็งแรง เนื่องจากมีการก่อสร้างที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานของหลักวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซึ่งสามารถต้านแรงลมได้ถึง 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่ากับพายุไต้ฝุ่นหรือเฮอร์ริเคน จึงมั่นใจได้ว่าสามารถรองรับกับสถานการณ์ต่าง ๆได้”
จากเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมทางธรรมชาติที่เคยเกิดขึ้น เช่น กรณีคลื่นสึนามิพัดถล่มชายฝั่งในภาคใต้ หรือแม้กระทั่งการเกิดแผ่นดินไหวที่อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ส่งผลให้สิ่งปลูกสร้าง อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือของเอไอเอสที่อยู่บริเวณดังกล่าวกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า เสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือหรือสถานีฐานนั้น สามารถรองรับเหตุการณ์ทางธรรมชาติได้ ด้วยการออกแบบโครงสร้างที่สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือน ทำให้ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น นอกจากนั้นแล้วขณะที่เกิดเหตุการณ์เครือข่ายของเอไอเอสมีการใช้งานได้อย่างปกติ สามารถรับข้อมูลภัยพิบัติได้ตลอดเวลา และติดต่อขอความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาภัยพิบัติได้ทันท่วงที
ทั้งนี้เอไอเอสขอยืนยันว่า ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใด ๆ ขอให้มั่นใจว่าเอไอเอสมีแผนรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทุกรูปแบบ ทั้งในด้านเครือข่ายคุณภาพสัญญาณที่สามารถใช้งานได้อย่างปกติ รวมถึงโครงสร้างเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ได้มาตรฐาน ไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน เพราะภายใต้สถานการณ์ภัยพิบัติรุนแรงนั้นความปลอดภัยและการสื่อสารถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด