ผู้ว่าฯ โคราชเรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาประปาโคราชขาดน้ำดิบ ล่าสุดเหลือน้ำใช้ได้อีกแค่ 4 วัน จี้ทุกหน่วยเร่งช่วย สั่ง นอภ.ประชุมด่วนกำนันผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนที่มีการกักฝายตลอดลำน้ำมูล ร่วมกันเปิดประตูปล่อยน้ำลงมาช่วย พร้อมขอกำลังทหารตำรวจลาดตระเวนตลอดลำน้ำป้องกันลอบสูบ โดยให้เขื่อนลำแชะปล่อยน้ำมาทดแทน
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (7 เม.ย.) ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบ การประปาส่วนภูมิภาคสาขานครราชสีมา ซึ่งเหลือน้ำดิบในการผลิตประปาให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ รวมกว่า 27,000 ครัวเรือนใช้ได้อีกเพียง 4 วันเท่านั้น หลังจากได้ดำเนินการทุกมาตรการ ทั้งการผันน้ำกลับคืนจากลำมูล, การขอใช้น้ำจากบ่อน้ำเอกชน และเทศบาลนครนครราชสีมาปล่อยน้ำจากบ่อพักบ้านใหม่หนองบอนมาเติมให้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
ทั้งนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมจากสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา, โคครางการชลประทานจังหวัดนครราชสีมา, โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบน-ลำแชะ, การประปาส่วนภูมิภาคสาขานครราชสีมา, เทศบาลนครนครราชสีมา, นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ, นายอำเภอเมืองนครราชสีมา, นายอำเภอโชคชัย รวมถึงหน่วยงานทหารและตำรวจเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด
โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันว่าให้เทศบาลนครราชสีมา ส่งน้ำประปาโดยการเชื่อมท่อติดมิเตอร์ เขตพื้นที่ส่งน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคสาขานครราชสีมา 2 จุด คือ 1.จุดต่อท่อประปาบ้านประโดก ประมาณ 800 ครัวเรือน, 2. จุดต่อท่อประปาบ้านเกาะ ประมาณ 500 ครัวเรือน โดยให้ดำเนินการจ่ายน้ำในช่วงเดือน เม.ย.ถึง มิ.ย. 2559 และ ให้เทศบาลนครนครราชมา ส่งน้ำดิบให้การประปาส่วนภูมิภาคสาขานครราชสีมาดังนี้ คือ วันนี้ (ช่วงเย็น) ส่งน้ำจำนวน 1.2 แสน ลบ.ม., สัปดาห์ต่อไปส่งน้ำทุกวันพุธ(ช่วงเย็น) จำนวนสัปดาห์ละ 2.5 แสน ลบ.ม. แต่เนื่องจากได้รับแจ้งจากเทศบาลนครนครราชสีมาว่า เครื่องสูบน้ำของเทศบาลฯ เสียไม่สามารถดำเนินการสูบน้ำได้ และหากจะขออนุมัติงบประมาณซื้อเครื่องสูบน้ำใหม่ซึ่งมีราคาสูงกว่า 6 ล้านบาท จะต้องผ่านความเห็นของที่ประชุมสภาเทศบาลฯ ก่อน
สำหรับการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำดิบให้กับการประปาส่วนภูมิภาค นายวิเชียร ได้ขอความเห็นที่ประชุมในการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่า จะปล่อยน้ำจากลำแชะลงมาตามลำน้ำมูลเพื่อส่งให้กับการประปาส่วนภูมิภาค แต่เนื่องจากการเดินทางของน้ำต้องผ่านหลายอำเภอและมีฝ่ายกั้นจำนวนมากถึง 33 แห่ง จากการสำรวจของชลประทานจังหวัดพบว่าแต่ละฝ่ายมีน้ำคงค้างอยู่ที่ฝาย รวมทั้งสิ้นกว่า 3.6 ล้าน ลบ.ม. ฉะนั้นจึงอาศัยอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ในการสั่งการไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้านให้ทำการเปิดประตูฝายพร้อมกันเพื่อปล่อยน้ำลงมาให้กับการประปาส่วนภูมิภาคนครราชสีมาซึ่งอยู่ปลายน้ำที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้มีน้ำดิบใช้ผลิตประปาประมาณ 2 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะสามารถอยู่ได้ถึง ช่วงฤดูฝนคือต้นเดือน มิ.ย.2559
ทั้งนี้นายวิเชียร ได้สั่งการให้นายอำเภอครบุรี, โชคชัย , เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีฝายกั้นเรียกประชุมด่วนกำนันผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชน เพื่อขอความร่วมมือในการเปิดประตูฝายพร้อมกันในวันอาทิตย์ที่ 9 เม.ย.นี้ โดยทางเขื่อนจะปล่อยน้ำมาเติบให้กับทุกฝ่ายเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่าร้อยละ 30 ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบไปได้ โดยในช่วงที่มีการปล่อยน้ำจากฝายให้แต่ละพื้นที่ขอกำลังทหารและตำรวจเดินตามน้ำอย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้มีการลักลอบสูบน้ำไปใช้เพื่อการเกษตรอย่างเด็ดขาด ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชนชาวโคราชทุกในพื้นที่ดังกล่าวให้ความร่วมมือกับทางราชการเพื่อให้สามารถผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายองรัฐบาลที่ไม่ให้ประชาชนขาดน้ำกินน้ำใช้
