สภาเทศบาล “หนองไผ่ล้อม”โคราชเดือด เปิดอภิปรายถล่ม “นายกฯ” ขาดหลักธรรมาภิบาล สร้างความแตกแยกให้ข้าราชการ แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่าไม่กล้ายิ้มให้กัน ซ้ำลุแก่อำนาจข่มขู่จะทำร้ายร่างกายจนท.ถูกแจ้งความดำเนินคดีอื้อ และล่าสุดผู้ว่าฯเรียกเข้าชี้แจง ด้านเจ้าตัวเผยไม่คิดทำร้ายใคร ทำงานยึดกฎระเบียบราชการ ส่วนคดีความขอให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน
วันที่ 1 ก.ค.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้เปิดประชุมสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2558 เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. โดยมี นางเบญจวรรณ วะลัยศรี ทำหน้าที่ประธานสภา มีระเบียบวาระการประชุม 4 วาระ มีสมาชิกสภาเข้าร่วมประชุมกันพร้อมเพรียง รวมถึง นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ นายกเทศมนตรีตำบลหนองไผ่ล้อม และ คณะผู้บริหาร
สำหรับวาระที่ได้รับความสนใจเป็นไฮไลท์ คือ ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องที่เสนอใหม่ มีทั้งสิ้น 4 เรื่อง คือโครงการปรับปรุงซุ้มเฉลิมพระเกียติ ร. 9 หน้าทางเข้ากองบิน 1 และ ทางเข้าค่ายสุรนารี, โครงการปรับปรุงสนามเด็กเล่นดิษยะศริน ชุมชนอากาศโยธิน, การสนับสนุนการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งสมาชิกสภาอภิปรายว่าการดำเนินงานของฝ่ายบริหารมีความไม่โปร่งใส ใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า ไม่สนับสนุนการศึกษา ซึ่งการอภิปรายเป็นไปด้วยความดุเดือด มีการยกมือประท้วงตอบโต้คัดค้านกันไปมาตลอดเวลา
กระทั่งมาถึงเรื่องที่ 4 หัวข้อ การบริหารงานที่ขาดหลักธรรมาภิบาลของนายกเทศมนตรีตำบลหนองไผ่ล้อม กรณีการบริหารงานบุคคล การดำเนินงานให้บริการสารธารณไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โดยนางประภัสสร ไชยมาตย์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อมเขต 2 ได้ลุกขึ้นอภิปรายด้วยการนำหนังสือร้องเรียนขึ้นมาอ่านระบุว่า ตนได้รับหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก นายลักษณา ประสีระเตสัง ผู้อำนวยการกองคลังเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อมว่าได้รับรายงานจาก นางพงษณา พรหมดีสาร เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี สังกัดกองคลังเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม ถึงพฤติกรรมของนายไพบูลย์ นายกเทศมนตรี
โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายไพบูลย์ ได้เรียก ขึ้นไปพบที่ห้องทำงาน ชั้น 2 สำนักงานเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม ซึ่งมีการเตรียมการจะทำร้ายร่างกายนางพงษณา ไว้อย่างรอบคอบ คือ ไล่ให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้าห้องไปที่อื่น ก่อนเรียก นายกฤษฏ ค้ำชู เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขึ้นไปเฝ้าหน้าประตู เมื่อ นางพงษณาไปถึง นายไพบูลย์ ได้ล็อกห้องโดยภายในห้องมี รองปลัดเทศบาลรักษาการแทนปลัดเทศบาลฯ นั่งอยู่รวม 3 คน จากนั้นนายไพบูลย์ ได้ใช้ความเป็นนายกเทศมนตรี ปรี่เข้ามาจะทำร้ายร่างกาย ด่าทอด้วยคำหยาบคาย ข่มขู่บังคับขู่เข็ญให้นางพงษณา ยอมรับว่าได้ลงเฟซบุ๊กด่าตัวเอง แม้พยายามชี้แจ้งแต่นายกเทศมนตรี กลับไม่ฟัง
จากนั้นได้ส่งข้อความเพื่อประจาน นางพงษณา ตามระบบไลน์ ให้เจ้าหนาที่ในเทศบาลฯ อีกหลายคน โดยมีข้อความดูถูกเหยียดหยามใส่ร้ายป้ายสี เพื่อให้เพื่อนเจ้าหน้าที่หรือผู้ได้อ่านไลน์ รังเกียจ ซึ่ง นายพงษณาได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมาแล้ว
นอกจากนี้นายไพบูลย์ นายกเทศมนตรี ยังได้ทำพฤติกรรมลักษณะเดียวกันกับ นายปรียาภรณ์ ทิพย์โสภณ ลูกจ้างทั่วไปกองคลัง โดยนายไพบูลย์ ได้ทำเอกสารอันเป็นเท็จกลั่นแกล้งจนเกิดการฟ้องร้อง ขณะนี้เรื่องอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ และยังมีกรณี นายวุฒิคุณ คำควร เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน ที่ถูกนายไพบูลย์ จะทำร้ายร่างกาย โดยกระชากคอเสื้อจะตบหน้าและพูดจาข่มขู่ กล่าวหาว่าดื่มสุราในเวลาราชการ โดยไม่สอบถามใด ๆ เป็นการกระทำลุแก่อำนาจ จนเจ้าหน้าที่หวาดกลัวต้องไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ขณะนี้อยู่อย่างหวาดผวาไม่มีความสุขแม้มีความเห็นต่างกับนายไพบูลย์ก็ไม่กล้าแสดงออก ต่างเอาตัวรอดแบ่งเป็นก๊ก เป็นเหล่า เดินผ่านไม่กล้ายิ้มให้กันแบ่งเป็นคนละพวกชัดเจน ตั้งแต่รับราชการมาไม่เคยปรากฏเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน จึงอยากให้พิจารณาช่วยเหลือ และรายงานให้นายอำเภอเมืองนครราชสีมาและผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ทราบต่อไป
ขณะที่ นายเดชชนะ ประเสริฐสังข์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อมเขต 1 ได้ลุกขึ้นอภิปรายกรณีโครงการก่อสร้างรางระบายน้ำบริเวณสนามเด็กบริเวณสนามเด็กเล่นชุมชนพัน ขส.22 ว่า รางระบายน้ำตอนนี้กลายเป็นแหล่งเก็บน้ำ สร้างได้ไม่นานพนังก็พังลงมา โดย นายเดชชนะได้นำก้อนเศษปูนขึ้นมาโชว์และหักให้สมาชิกสภาได้ดูเพื่อชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่นำมาแสดงนี้ไม่ใช่ปูนแต่เป็นทรายผสมปูน ต้องการชี้ให้เห็นว่าการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานสร้างความเสียหายให้กับเทศบาล นายกเทศมนตรีไม่ดูแลผลประโยชน์ของเทศบาลส่อไปในทางทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งการอภิปรายเป็นไปอย่างดุเดือดสร้างอารมณ์ฉุนเฉียวให้ฝ่ายตรงข้าม
ด้าน นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ นายกเทศมนตรีตำบลหนองไผ่ล้อม ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ไม่อยากให้สมาชิกกล่าวหาหรือพาดพิงถึงใคร ตนบริหารงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นไปตามกฎระเบียบของทางราชการไม่เคยทำร้ายใคร ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่เมาสุรามาทำงานก็ต้องตักเตือนเป็นเรื่องธรรมดาเพราะจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
สำหรับคดีการฟ้องร้องต่างๆ ขอให้ต่อสู้กันในชั้นศาลให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน แต่ยืนยันว่าตนเองทำงานด้วยหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ ส่วนหรับการก่อสร้างรางระบายน้ำนั้น ได้สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบวินัยข้าราชการพร้อมให้ผู้รับเหมาเข้าไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขแล้วเพราะยังอยู่ในช่วงการประกันงานจ้าง ซึ่งเรื่องการบริหารงานนั้นตนได้เข้าชี้แจงกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาแล้ว