เอไอเอส เดินหน้ามอบโอกาส สร้างอาชีพให้แก่ผู้พิการ ในโครงการ “เอไอเอส สร้างอาชีพ คอลล์ เซ็นเตอร์ แด่ผู้พิการ” เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น ล่าสุดเปิด “ศูนย์ปฏิบัติการ เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ แด่ผู้พิการทางสายตา” ขึ้นเป็นแห่งที่ 11 ณ มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จ.ขอนแก่น ตอกย้ำผู้พิการมีศักยภาพในการทำงานไม่ต่างจากคนปกติ
นางสาวใจพร ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ คอนแท็ค เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ กล่าวถึงนโยบายในการจัดทำโครงการเพื่อสังคมของเอไอเอสว่า “เอไอเอสให้ความสำคัญเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR (Corporate Social Responsibility) มาโดยตลอด รวมถึงการสร้างคุณค่าและประโยชน์ร่วมกันระหว่างองค์กรและสังคม หรือ CSV (Creating Shared Value) เพื่อสร้างมูลค่าและการเติบโตที่ยั่งยืนให้แก่องค์กรและสังคมไปพร้อมๆ กันโดยการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและประเทศไทย ให้มีคุณภาพและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “ครอบครัวไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง” ด้วยแนวทางสานรัก สนับสนุนสถาบันครอบครัว, สานรักคนเก่งหัวใจแกร่ง, สานรักสานสังคมไทย และสานรักหัวใจอาสา โดยเฉพาะในแนวทางสานรัก สานสังคมไทย ซึ่งในสังคมประกอบไปด้วยประชาชนหลากหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือผู้พิการ ที่เอไอเอสให้ความสำคัญ และดูแลมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเอไอเอสเชื่อว่าผู้พิการก็มีศักยภาพไม่ต่างจากคนปกติ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน จนสามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้
เอไอเอสจึงจัด โครงการ “เอไอเอส สร้างอาชีพ คอลล์ เซ็นเตอร์ แด่ผู้พิการ” ด้วยการจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการ เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ แด่ผู้พิการ” เพื่อให้ผู้พิการเหล่านี้มีอาชีพ โดยเริ่มแห่งแรกเมื่อปี พ.ศ.2550 และขยายจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน มีศูนย์ปฏิบัติการฯแล้ว จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ มูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กรุงเทพฯ, อาคารพหลโยธินเพลส กรุงเทพฯ, โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชินูปถัมภ์ จ.เชียงใหม่, มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ จ.ชลบุรี, โรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ จ.หนองคาย, โรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่
จ.เชียงใหม่, มูลนิธิพิทักษ์ดวงตา จ.ลำปาง, โรงเรียนศรีสังวาลย์ จ.ขอนแก่น, โรงเรียนสันติจินตนา จ.แพร่ และมูลนิธิผู้พิการไทยเพื่อสังคม กทม.”
นางวิลาสินี พุทธิการันต์ ที่ปรึกษา บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด หรือ
เอไอเอส กล่าวเพิ่มเติมว่า “เอไอเอสเล็งเห็นถึงศักยภาพของคนพิการ ที่มีผลการทำงานในระดับที่ดีเยี่ยม มีประสิทธิภาพไม่ต่างจากคนปกติ ทั้งในแง่ของการให้บริการและความพึงพอใจของลูกค้า เอไอเอสจึงเดินหน้าส่งมอบโอกาสสร้างอาชีพให้ผู้พิการอย่างต่อเนื่อง โดยขยายศูนย์ปฏิบัติการให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น ล่าสุด เอไอเอสจึงเปิด“ศูนย์ปฏิบัติการ เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ แด่ผู้พิการ” แห่งที่ 11 ขึ้น ณ มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดแห่งประเทศไทย จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีพนักงานผู้พิการทางสายตา ทำให้ปัจจุบันมีพนักงานเอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ผู้พิการจากศูนย์ปฏิบัติการที่เปิดให้บริการแล้ว รวมจำนวนทั้งสิ้น 104 คน
โดยเอไอเอสได้ออกแบบงานให้คนกลุ่มนี้อย่างเหมาะสม เพื่อการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับความสามารถ อาทิ ผู้พิการทางสายตาและพิการทางร่างกาย จะมีหน้าที่โทรติดต่อลูกค้าเพื่อแจ้งสิทธิพิเศษและเสนอบริการรวมทั้งแคมเปญต่างๆ ของเอไอเอส, ให้บริการรับ-ส่ง และยกเลิก SMS แทนลูกค้า ส่วนผู้พิการทางการได้ยินจะให้บริการด้วยภาษามือผ่านทาง Web Cam เป็นต้น นอกจากนี้เอไอเอสยังนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการปฏิบัติงาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน อาทิ ติดตั้งโครงข่ายออนไลน์, นำเทคโนโลยีดักจับความเคลื่อนไหวที่คีย์บอร์ด หรือสิ่งที่แสดงผลบนหน้าจอ และเปลี่ยนเป็นเสียงพูด ซึ่งต้องใช้ควบคู่กับโปรแกรมตาทิพย์จากสถาบันคนตาบอดแห่งชาติเพื่อการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น”
“เอไอเอสพร้อมที่จะนำเทคโนโลยี ทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ รวมทั้งศักยภาพขององค์กรมาช่วยเหลือสังคม และสร้างโอกาสทางด้านอาชีพให้แก่คนไทยทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้พิการ ซึ่งถือเป็นหนึ่งสมาชิกของครอบครัวในสังคมไทยได้เป็นจำนวนมาก เพราะเราเชื่อว่าหากทุกคนได้รับโอกาสในการแสดงศักยภาพของตนเอง ก็จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทุกคนแข็งแรง ส่งผลให้ครอบครัวไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง อย่างยั่งยืนต่อไป” นางสาวใจพร กล่าวสรุป