เหล่ากาชาดโคราชเร่งช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อ ระฆังวัดหล่นทับเด็ก 3 ขวบดับ 1 เจ็บ 2 ราย ด้าน ตร.เร่งสอบยันพ่อแม่เด็กต้องได้รับการเยียวยาเต็มที่ แต่ยังไม่ตั้งข้อกล่าวหาใคร ระบุเสาระฆังมรณะสร้างมากว่า 20 ปี แค่นำศิลาแลงมาต่อกันขึ้นเชื่อมด้วยปูนแล้ววางคานเหล็กแขวนระฆังขนาดใหญ่ ไว้ให้ญาติโยมเคาะเพื่อความเป็นสิริมงคล

วันนี้ ( 16 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี เกิดเหตุระฆังเหล็กขนาดใหญ่หน้าอุโบสถวัดเมืองเก่า หมู่ 12  ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย  จ.นครราชสีมา เสาถล่มหล่นทับเด็กนักเรียนชั้นเตรียมอนุบาลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเมืองเก่า เทศบาลตำบลบัลลังก์ เสียชีวิต 1 รายคือ  ด.ญ.เพียงขวัญ นามกิง อายุ 2 ปี 11 เดือน และบาดเจ็บอีก 2 รายคือ คือ ด.ช.วิริทธ์พล ศิริวงค์อังกูร และ ด.ช.ภูรินทร์ เครือสายคำ อายุ 3 ปี เกิดเหตุเมื่อเช้าที่ผ่านมา นั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกันนี้ นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าบ้านพักเด็กจังหวัดนครราชสีมา นายวิสูตร ชัชวาลวงศ์ นายอำเภอโนนไทย นายกกิ่งกาชาดอำเภอโนนไทย นายกเทศบาลตำบลบัลลังก์ คณะกรรมการ และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเด็กนักเรียนและครอบครัวผู้ประสบเหตุ

โดยได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น แก่ครอบครัวเด็กที่เสียชีวิต เป็นเงิน 15,000 บาท ผู้บาดเจ็บ 2 รายๆ  ละ 6,000 บาท พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บด้วย

ด้าน ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ นามโคตร สารวัตร (สอบสวน) สภ.โนนไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี ว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้วหลายปากทั้ง เจ้าอาวาสวัดเมืองเก่า และ คณะกรรมการวัดเมืองเก่า ทราบว่าเสาระฆังที่เกิดเหตุ ทำจากศิลาแลงที่นำมาเรียงกันขึ้นโดยใช้ปูนซีเมนต์เชื่อมให้ติดกันเพื่อเป็นเสาวางคานเหล็กเพื่อแขวนระฆังเหล็กขนาดใหญ่  จำนวน 3 ใบ โดยสร้างมาตั้งแต่ปี 2538 ประชาชนญาติโยมที่แวะเข้ามาทำบุญที่วัดมักมาเคาะระฆังเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันมาจำวัดที่นี้ได้ประมาณ 8-9 ปี ไม่ได้เป็นผู้ก่อสร้างเสาระฆังดังกล่าว

ขณะนี้รอสอบปากคำพ่อและแม่ของเด็กที่เสียชีวิตซึ่งกำลังอยู่ในอาการโศกเศร้าและยุ่งวุ่นวายอยู่กับการจัดการงานศพของลูก ซึ่งคงต้องให้เวลาทำใจสักระยะและส่วนหนึ่งจะต้องสอบปากคำครูที่นำเด็กมาทัศนศึกษาจนเกิดเหตุสลดดังกล่าวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และพ่อแม่ของเด็กต้องได้รับการเยียวยาให้ได้มากที่สุด

ล่าสุดยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาใคร เพราะต้องทำการสอบรวบรวบข้อมูลพยานหลักฐานอย่างรอบคอบ หากพบว่าใครประมาทเลินเล่อหรือจงใจให้เกิดเหตุการณ์ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดแน่นอน