เหยื่อแชร์ตู้คอนเทนเนอร์ โคราชเข้าแจ้งความที่ สภ.ขามสะแกแสงต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้เสียหายแล้วกว่า 140 ราย มูลค่าเสียหายกว่า 100 ล้าน เผยผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายเดียวกับท้องที่ สภ.แหลมฉบังที่ถูกออกหมายจับแล้ว ระบุจ่อเรียก 6 รายมารับทราบข้อหาดำเนินคดี เตือนปชช.อย่าหลงเชื่อธุรกิจให้ผลตอบแทนสูง สุดท้ายถูกหลอก
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2558 พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เปิดเผยถึง คดีแชร์ตู้คอนเทนเนอร์ ว่า จากรายงานพบว่าแชร์ตู้คอนเทนเนอร์ระบาดหนักในพื้นที่ อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา ขณะนี้มีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ขามสะแกแสง แล้วจำนวนกว่า 140 ราย รวมมูลค่าทรัพย์สินเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาว อ.ขามสะแกแสง ไปทำงานที่ จ.ชลบุรี และได้มาชักชวนญาติพี่น้องลงทุนประกอบธุรกิจการเช่าตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งอ้างว่าจะได้ค่าตอบแทน สูงประมาณร้อยละ 10 ต่อเดือน จากนั้นได้ไปชักชวนคนในหมู่บ้าน และพื้นที่ใกล้เคียงให้มาร่วมลงทุนประกอบธุรกิจเช่าตู้คอนเทนเนอร์ ชาวบ้านหลายรายหลงเชื่อนำเงินมาลงทุนคนละ 1-5 แสนบาท บางรายลงทุนเป็นล้านบาท ตั้งแต่ปี 2552 ช่วงแรก ๆ ได้ผลตอบแทนดี แต่มาช่วงหลัง ๆมูลค่าทรัพย์สินมากขึ้นสุดท้ายไม่ได้รับผลตอบแทน จึงกลายเป็นเรื่องการหลอกลวงฉ้อโกงกัน กระทั่งปีนี้ไม่ได้รับผลตอบแทนจึงเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำหรับผู้ต้องหาขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีเฉพาะเครือข่ายที่ร่วมขบวนการกระทำความผิด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัวมาสอบสวนหมดแล้ว เพราะนอกจากเป็นผู้ต้องหาแล้วยังเป็นผู้เสียหายด้วย ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินการที่เป็นเครือญาติกันประมาณ 5-6 ราย เจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามขอฝากไปยังประชาชนว่า การจะนำเงินไปลงทุนทำอะไรต่าง ๆ นั้น ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อน โดยเฉพาะธุรกิจที่ให้ค่าตอบแทนสูง ๆ ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะมีมิจฉาชีพที่ทำธุรกิจลักษณะนี้บังหน้าเยอะ เราต้องช่วยกันระมัดระวังและหากทราบว่ามีความไม่ชอบมาพากลให้แจ้งตำรวจเข้าไปดำเนินการทันที
ด้าน พ.ต.อ.ยงยุทธ์ ซุยสูงเนิน ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ขามสะแกแสง เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียหายจากคดีดังกล่าวเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมาจาก จ.ชัยภูมิ 2 ราย รวมผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์แล้วจนถึงขณะนี้กว่า 140 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยทั้งหมดให้การตรงกันว่า มีผู้มาชักชวนให้ลงทุนซื้อตู้คอนเทนเนอร์ในราคา 130,000-150,000 บาท แล้วทำสัญญาให้เช่ากับทาง บริษัท เค.เอส.มารีน แอนด์ กอฟเวอร์เนอร์ เซอร์วิส จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 71/10 หมู่ 3 ถนนเก้ากิโล ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และ บริษัทฟีนิกซ์คอนเทนเนอร์ซัพพลาย จำกัด เลขที่ 88/62 หมู่ 9ถนนสุขุมวิท อ.ศรีราชา โดยทางบริษัทจะให้ค่าตอบแทนเดือนละ 12,000-13,000 บาท แต่ตั้งแต่เดือนเม.ย.58 ที่ผ่านมากลับไม่ได้รับเช่าหรือค่าตอบแทนตามสัญญา
ส่วนผู้ต้องหาที่มาชักชวนให้มีการลงทุนในแชร์ตู้คอนเทนเนอร์ คือ นายวิชาญ เที่ยงสันเทียะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.5 บ้านครึมม่วง ต.โนนเมือง อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา ซึ่งไปทำงานที่ จ.ชลบุรี เป็นเครือข่ายเดียวกันกับกลุ่มที่หลอกลวงในท้องที่ สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี และ ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี ซึ่ง นายวิชาญ มีหมายจับของ สภ.แหลมฉบัง แล้ว
ทั้งนี้พนักงานสอบสวน สภ.ขามสะแกแสง จะเร่งสอบปากคำให้ได้ครบ 30-40 ปาก จากนั้นในวันจันทร์ที่ 22 มิ.ย.นี้จะออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งเป็นเครือญาติ นายวิชาญ และตัว นายวิชาญ มารับทราบข้อกล่าวหาหากไม่มาจะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และ ยังไม่มาอีกจะขอศาลออกหมายจับต่อไป