โคราชชงแนวทางแก้ปัญหารุกป่า “วังน้ำเขียว” ให้รัฐบาลพิจารณา หวังให้เป็นโมเดลต้นแบบให้ทั่วประเทศใช้ ย้ำเป็นแนวคิดของคนในพื้นที่เสนอให้รัฐบาลถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาที่ยืดเยื้อยาวนาน เผยเสนอ 3 แนวทางแก้ปัญหาตามพื้นที่ ยึดเจตนารมณ์กฎหมายให้คนจนทำเกษตร ชี้รีสอร์ท และบ้านพักหรูของนายทุนต้องทำให้สอดคล้องกับการเกษตร
วันนี้ (23 ก.ย.) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินและใ ช้ประโยชน์ในที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง อุทยานแห่งชาติทับลาน และพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องถิ่นอำเภอวังน้ำเขียวจังหวัดนครราชสีมา ว่า ปัญหาการบุกรุกพื้นที่รัฐในเขต อ.วังน้ำเขียว เป็นปัญหายืดเยื้อมายาวนาน และไม่มีการแก้ไขปัญหาที่จริงจัง ในช่วงที่ตนมาเป็นผู้ว่าฯ ได้ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานฯ ขึ้นมาดำเนินการ โดยการประชุมนัดสุดท้าย เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมาได้มีข้อสรุปเพื่อเสนอเป็นเบื้องต้นไปยังคณะรัฐมนตรีโดยผ่านคณะเลขานุการคณะรัฐมนตรี ว่า แนวคิดดังกล่าวนี้เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมอย่างไร ขอย้ำว่าแนวทางที่ทางจังหวัดนครราชสีมาไม่ใช่ข้อยุติ แต่เป็นแนวคิดของคนในพื้นที่เพื่อจะจัดการปัญหาของตัวเองไปยังรัฐบาล ถ้ารัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นพ้องด้วยก็จะออกมาตามนี้หรือเห็นบางส่วนไม่เห็นด้วยบางส่วนจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไรก็จะต้องมีการพูดคุยกันอีกทั้งตัวแทนระดับพื้นที่กับผู้บริหารระดับบน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่ข้อยุติที่ดีในวันข้างหน้า ดีกว่าไม่มีการคิดริเริ่มอะไรเลย ต่างคนต่างเห็นก็ทำไปไม่เกิดผลดีอะไร โดยคณะกรรมการชุดนี้ ประกอบไปด้วยหลายหน่วยงาน ทั้งตำรวจ ทหาร องค์กรภาคเอกชน
สำหรับข้อสรุปของคณะกรรมการฯ ที่จะนำเสนอเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาไปยังรัฐบาลคือ 1. ในส่วนของอุทยานแห่งชาติทับลานให้ยึดแนวเขตปี 2543 เป็นสำคัญ โดยผู้ที่เข้ามาอยู่ก่อนปี 2550 จะจัดสรรให้คนละไม่เกิน 35 ไร่ ใครที่ถือครองผืนใหญ่อยู่ 500-600 ไร่ต้องนำกลับคืนมาให้รัฐ เพื่อจะได้จัดสรรเป็นเขตปฏิรูปให้แก่คนจน และ ผู้ยากไร้ 2.ส่วนป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง จะยึดถือแนวกันไฟผสมผสานกับร่องน้ำธรรมชาติในส่วนที่ไม่มีคนยึดถือครอบครองอยู่ก็จะยึดถือร่องน้ำซึ่งมีพื้นที่ลาดชันซึ่งจะเขียนรายละเอียดลงไปในแผนที่ไม่กระทบกับประชาชนมากนัก ต้องยอมรับว่าอาจจะมีผลกระทบต่อประชาชนบ้างบางส่วนแต่จากที่ผิดกฎหมายหมด 100% ท่านได้คืนมา 50 % แต่ถูกกฎหมายก็ทำให้มีความสุขขึ้นอีกมากและอยู่ได้อย่างยั่งยืนถาวรนี่คือการถอยคนละก้าวเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จได้
ส่วนพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก. อย่างที่ทราบว่าเขตปฏิรูปตามกฎหมายปี 2518 คือต้องการให้ผู้ยากไร้ ไม่มีที่ดินทำกินได้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ได้มีที่ดินทำกินเพราะเป็นรากฐานความมั่นคงของชาติต้องนำเอาเจตนารมณ์ของกฎหมายปฏิรูปมาเป็นที่ตั้งด้วยอาจจะยกเว้นให้ทำนอกเหนือจากอาชีพเกษตรกรรมแต่ต้องเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องหรือคู่กันของคนยากไร่ตามกฎหมายมาตรา30 (5) หรือให้ทำเท่าที่จำเป็นและให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักรวม คือต้องดูการได้มาของการถือครองครั้งแรกด้วยว่าได้มาในสถานะอะไร ก็จะนำไปสู่ข้อยุติในที่สุด ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวนี้จะเป็นบรรทัดฐานให้กับพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศได้ใช้ หรือ เป็น “วังน้ำเขียวโมเดล”
ต่อข้อถามที่ว่ากรณีการสร้างรีสอร์ท หรือบ้านพักหรูของกลุ่มนายทุนที่เกิดขึ้นจำนวนมากในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียวนั้นจะเสนอให้มีการดำเนินการอย่างไร นายธงชัย กล่าวว่า ต้องไล่ดูว่า การได้มาครั้งแรกได้มาโดยชอบหรือไม่ชอบ เช่นบางรายได้มาครั้งแรกปลูกข้าวโพด และมีการพัฒนาตัวเองจนกลายมาเป็นร้านอาหาร เป็นรีสอร์ท ก็ได้มาโดยชอบตั้งแต่เป็นเกษตรกร และมีการพัฒนาตัวเองขึ้นมา กรณีเช่นนี้ตนเองสนับสนุน ถือเป็นเรื่องดี คนที่มีการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นไม่ใช่ผ่านไปกี่ปีก็ยังปลูกข้าวโพดอยู่เช่นเดิมอย่างนี้ก็ไม่ไหว ส่วนนายทุนที่มาซื้อที่จากเกษตรกรไปนั้น ต้องมาดูกันว่าจะปรับตัวอย่างไร มีเงื่อนไขในการใช้พื้นที่อย่างไร ซึ่งจะเอาให้เหมือนคนแรกที่ได้มาคงเป็นไปไม่ได้ แต่เงื่อนไขปลีกย่อยต้องไปหารือกัน