โคราชเร่งฟื้นฟู “มอปลาย่าง” ริมเขื่อนลำตะคอง หลังทวงคืนพื้นที่ภายใต้ยุทธการ“ฟ้าสางที่ลำตะคอง” เสร็จสมบูรณ์ หวังเป็นให้ส่วนรวมใช้ประโยชน์ร่วมกัน ป้องกันบุกรุกซ้ำ “ผู้ว่าฯธงชัย” เผยเป็นการปิดฉากสวยงาม หลังเป็นปัญหามา 20 ปี ระบุร้านสุดท้ายขอรื้อเองไม่ต้องใช้กำลังทุกอย่างเรียบร้อยไร้เหตุรุนแรง ส่วนใหญ่เข้าอยู่พื้นที่รองรับใหม่ เชื่อผู้ว่าฯคนใหม่ทราบดีควรต่อยอดอย่างไร ฝากปชช.ทุกคนช่วยกันดูแล
วันนี้ (30 ก.ย.58) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยในการทำงานวันสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ ถึงการดำเนินการรื้อถอนอาคาร ร้านอาหารและสิ่งปลูกสร้าง บุกรุกที่ราชพัสดุบริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง (มอปลาย่าง) ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นปัญหายืดเยื้อมากว่า 20 ปี ว่า ทางจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทำการจัดระเบียบและรื้อย้ายร้านอาหารที่บุกรุกพื้นที่ราชพัสดุบริเวณมอปลาย่างทั้งที่อยู่ในพื้นที่ อ.ปากช่อง และ อ.สีคิ้ว
โดยเริ่มปฏิบัติการภายใต้ยุทธการ “ฟ้าสางที่ลำตะคอง “ เริ่มรื้อล็อตแรกเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2558 และ ล็อตสุดท้ายที่ใช้เจ้าหน้าที่ส่งกำลังเข้าทำการรื้อถอนเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2558 ที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ยังเหลือร้านค้าอยู่อีก 1-2 แห่ง ที่ครบกำหนดในวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา คือ ร้านไก่ย่างพรทิพย์ ร้านครัวตาตีบ และ ร้านไก่ย่างวิเชียรบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.ปากช่อง และ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งด้วยสำนึกดีของผู้ประกอบการได้แสดงความจำนงที่จะรื้อถอนออกไปเอง โดยขอรับการช่วยเหลือจากทางราชการทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย และเงินทุนประกอบอาชีพ และการช่วยรื้อย้ายจัดหายานพาหนะอำนวยความสะดวกให้
ฉะนั้นจึงถือเป็นการปิดฉากยุทธการ“ฟ้าสางที่ลำตะคอง” การทวงคืนพื้นที่ “มอปลาย่าง” ได้อย่างสวยงามสมบูรณ์แบบ ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด ทุกอย่างเป็นไปด้วยความประนีประนอม ดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในพื้นที่รองรับที่ทางราชการจัดไว้ให้ คือ ที่บ้านคลองทราย ม.19 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
สำหรับกลุ่มผู้ที่ยังแคลงใจว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติโดยมิชอบทราบว่ากำลังดำเนินการฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ตนพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจในการดำเนินการครั้งนี้และคงต้องไปดูที่กระบวนการยุติธรรมอีกทีว่าจะให้ความเป็นธรรมได้แค่ไหนเพียงไร
นายธงชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการฟื้นฟูพื้นที่ “มอปลาย่าง” ริมอ่างเก็บน้ำลำตะคองนั้น ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ที่คณะสถาปัตยกรรมของหลายสถานศึกษาหลายสถาบันกำลังช่วยกันคิดและออกแบบอยู่ เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ซึ่งจะต้องนำเสนอกันอีกครั้งว่าต้องใช้งบประมาณอย่างไรและให้หน่วยงานใดที่จะเข้าไปดูแลพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล หรือหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดการบุกรุกครอบครองขึ้นมาอีก
อย่างไรก็ตามขอย้ำว่า การใช้พื้นที่บริเวณมอปลาย่างนั้น มีผลกระทบหลายด้าน เช่น 1.ผลกระทบสิ่งแวดล้อมชัดเจนมาก เรื่องน้ำเสีย น้ำเน่าไหลลงอ่างเก็บน้ำอย่างแน่นอน และมีขยะมูลฝอยต่างๆ ตามมา โดยเฉพาะธุรกิจทำอาหารเกิดสิ่งปฏิกูลได้ง่าย 2.อุบัติเหตุทางจราจร เพราะเป็นช่วงทางโค้ง และการค้าขายมีคนมายืนโบกรถกลางถนนให้เข้า-ออกร้าน รวมทั้งการจัดให้เช่าพื้นที่ มีการขายสิทธิจากนั้นจะกลายเป็นตึกรามบ้านช่องขึ้น และ กาดไม่ขายสิทธิก็เอาไปแบ่งซอยให้เช่าเกิดขึ้น
“ การแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่อ่างเก็บน้ำลำตะคองบริเวณ “มอปลาย่าง” นั้น ถือว่าเดินมาถึงความสำเร็จแล้ว และเชื่อว่าทุกคนคงทราบดีว่า ต่อไปจะจัดการหรือทำอย่างไรกับพื้นที่ดังกล่าว และคง ไม่ต้องฝากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คนใหม่อะไรมากแล้ว เพราะทุกคนดูออกหมดแล้วว่าควรจะไปอย่างไร และควรต่อยอดอย่างไร แต่ขอให้ทุกคนช่วยกันสอดส่องดูแลและทำให้เรียบร้อย ไม่ให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาได้” นายธงชัย กล่าวในตอนท้าย