เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาษีที่ดินและ ที่อยู่อาศัยซึ่งขณะนี้นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง พิจารณาอัตราที่จะจัดเก็บและได้ปรับลดลงมาครึ่งหนึ่งจากอัตราที่เสนอมาตั้งแต่แรก และนอกจากอัตราภาษีที่จะประกาศจะลดลง การจัดเก็บจริงก็จะผ่อนผันลงจากที่ประกาศเพดานสูงสุด ทั้งนี้ คาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบได้ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
“เมื่อที่ประชุม ครม.เห็นชอบและส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาแล้ว กฎหมายนี้จะยังไม่มีผลบังคับใช้ทันที แต่จะมีระยะเวลาเว้นการใช้กฎหมายประมาณ 2 ปี เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศเป็นรายแปลง” รองนายกฯ กล่าว
รองนายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับหลักเกณฑ์ยกเว้นและผ่อนปรนในการจ่ายภาษีที่ดินและภาษีที่อยู่อาศัย คาดว่าจะมีความชัดเจนเมื่อ ถึงขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น บ้านราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทไม่ต้องเสียภาษี ส่วนที่เข้าข่ายจะต้องเสียภาษีแม้จะมีเพดานสูงสุด เช่น ที่ดินสำหรับทำเกษตร เสียภาษี 0.25% หรือบ้านจัดสรรที่ราคาไม่สูงเสียภาษี 0.5% ซึ่งเป็นเพดานสูงสุดแต่ในขั้นตอนการจัดเก็บจริงจะมีขั้นต่ำอยู่ด้วย เช่น เริ่มจัดเก็บภาษีที่อัตรา 0.1% แต่ในส่วนที่จะต้องเสียภาษีในอัตราสูงจะเป็นที่ดิน ว่างเปล่า เพื่อส่งสัญญาณให้เจ้าของที่ดินนำที่ดินที่ครอบครองไปใช้ประโยชน์หรือขายต่อให้คนอื่นไปใช้ประโยชน์ต่อไป รมว.คลังพยายามปรับลดลง ไม่ให้คนตกใจ ตอนนี้อัตราสูงสุดลดลงมาครึ่งหนึ่งแล้วแต่เวลาเก็บจริงจะลดลงมาอีก
ด้านนายสมหมายรมว.คลังกล่าวว่า คลังจะเสนอภาษีที่ดินให้ครม.พิจารณาแน่นอน เพราะทั่วโลกมีกว่า 40 ประเทศ ที่เก็บภาษีที่ดิน สำหรับคนที่ไม่เคยเสียภาษีและต้องมาเสียและคิดว่าต้องเสียค่าเช่าบ้านตัวเองอยู่นั้นเป็นการคิดที่ผิด หากประเทศไทยยังไม่ยอมเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างก็ไม่มีทางเป็นประเทศพัฒนาแล้วได้
“ตราบใดที่ผมยังเป็นรมว.คลังอยู่จะต้องเสนอร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหากไม่ต้องการให้เสนอเรื่องนี้ก็ต้องให้ออกจากตำแหน่ง ส่วนใครจะต่อว่าหรือต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องชี้แจงให้เข้าใจว่าเป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ”รมว.คลังกล่าว
จากนั้นรมว.คลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการปฏิรูปภาษี ว่า คณะกรรมการมีข้อถกเถียง ร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ยังมีปัญหา เพราะต้องดูรายละเอียดในส่วนของราคาที่ดินที่ราคาปรับแพงขึ้น ซึ่งต้องหาแนวทางมาเพื่อสรุปในการจัดเก็บอีกครั้ง แต่เบื้องต้นจัดเก็บอัตรา 0.1% ของราคาประเมิน หรือล้านบาทละ 1,000 บาท ส่วนบ้านที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี บ้านที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท เสีย 50% ของ 0.1% และบ้านที่เกิน 3 ล้านบาท ในส่วน 3 ล้านบาทแรก เสีย 50% ของ 0.1% ส่วนที่เกิน 3 ล้านบาท เสียเต็ม 0.1%
“หากบ้านมีมูลค่าเกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป จะเสียภาษีล้านละ 1,000 บาท เช่น บ้านมีมูลค่า 5 ล้านบาท จะเสียภาษีอยู่ที่ 3,500 บาท แบ่งเป็น ช่วง 3 ล้านบาทแรก เสียภาษี 1,500 บาท ส่วนที่เกินจากนั้นอีก 2 ล้านบาท จะต้องเสียในอัตรา 0.1% หรือเท่ากับ 2,000 บาท โดยยืนยันว่าจะไม่แพงกว่าภาษีรถยนต์ ซึ่งการดำเนินการภาษีในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้คนไทยต้องรู้ว่ามีหน้าที่เสียภาษี”รมว.คลังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีบ้านซึ่งได้รับมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษโดยอาจเป็นบ้านที่อยู่กลางเมืองซึ่งซื้อไว้หลายสิบปีก่อนแล้วปัจจุบันราคาพุ่งสูงขึ้น อาจประสบปัญหากับรุ่นลูกหรือรุ่นหลานที่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน นายสมหมายกล่าวว่า อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ