by

“คลังคาซ่า” ยักษ์อสังหาฯ อีสาน กางแผนลงทุนปี 59 เตรียมผุดอีก 5 โครงการรุกตลาดแนวดิ่ง   ตั้งเป้ากวาดยอดขายกว่า 1,050 ล้าน ขณะที่ยอด Backlog มีกว่า 1,260 ล้านบาท  เร่งเดินหน้าโอนกรรมสิทธิ์รวมมากกว่า 900 ล้าน ชี้ศักยภาพโคราชยังเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลต่อธุรกิจอสังหาฯ โดยเฉพาะการลงมือก่อสร้างเมกกะโปรเจกต์ของรัฐบาลทำให้คนหลั่งไหลเข้าโคราชเพิ่มแน่

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้บริหารบริษัท คลังคาซ่า จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของ จ.นครราชสีมาและภาคอีสาน  นำโดยนายไพจิตร  มานะศิลป์ กรรมการผู้จัดการ นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ รองกรรมการผู้จัดการ และนายวีรพล จงเจริญใจ กรรมการบริหาร และสถาปนิก ได้จัดงานโรดโชว์ เปิดแผนการลงทุนของบริษัทคลังคาซ่า ในปี 2559 ให้กับกลุ่มคู่ค้าและสถาบันการเงินได้รับทราบ

นายไพจิตร มานะศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลังคาซ่า จำกัด  เปิดเผยว่า  คลังคาซ่า ประสบความสำเร็จในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาอย่างต่อเนื่อง และยังคงเดินหน้าสร้างโปรเจ็กต์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกเซกเม้นท์ หวังให้พื้นที่ของบริษัทผืนใหญ่ผืนสุดท้ายกลางเมืองกว่า 250 ไร่ ริม ถ.มิตรภาพ เป็นแหล่งธุรกิจใหม่ของเมืองโคราช

โดยผลประกอบการของปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัท ฯ ประสบความสำเร็จสูงเกินกว่าแผนการที่ตั้งไว้ โดยสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 1,035   ล้านบาทส่วนใหญ่ลูกค้าใช้เงินสดในการซื้อที่อยู่อาศัย ทั้งนี้เป็นผลมาจากความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และการบริหารงานอย่างมืออาชีพ ทำให้ลูกค้าไว้วางใจในคุณภาพทั้งบ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ และคอนโดมิเนียม ของ กลุ่ม“คลังคาซ่า”  และให้การตอบรับที่ดี

ด้านนายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ  รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คลังคาซ่า จำกัด กล่าวว่า  จากความสำเร็จแบบก้าวกระโดดในการเดินหน้าชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งในหลาย ๆ เซกเมนต์ จนทำให้ กลุ่ม“คลังคาซ่า” เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา  และเพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่องในปี 2559 “คลังคาซ่า” ได้วางแผนการดำเนินธุรกิจ ด้วยการรุกพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อตอบสนองทุกความต้องการที่อยู่อาศัย ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า รวมทั้งขยายการพัฒนาโครงการสำหรับรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในตลาด และกลุ่มลูกค้าต่างชาตินักลงทุน สอดรับกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ทั้งนี้ “คลังคาซ่า” เตรียมเปิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ อีก 5 โครงการ ทั้งแนวราบและแนวดิ่งด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 2 แท่ง รวม 158 ยูนิต  , HomeOffice ใหม่ 30 ยูนิต   อาคารพาณิชย์ Biz Link 100 ยูนิต, อาคารพาณิชย์ VeniceSquare รวม 30 ยูนิต และ Community ใหม่ภายใต้ชื่อ B-Link จำนวน 12 ยูนิต โดยตั้งเป้ายอดขายรวมในปี 2559 ไว้ กว่า 1,050 ล้านบาท  จากตัวเลขยอดรอรับรู้รายได้ ( Back Log) ที่มีอยู่กว่า 1,265 ล้านบาท  โดยมาจากโครงการ เดอะเวนิส พาร์ค (The Venice Park) 374 ล้านบาท , เวนิส สแควร์ (Venice sqare)  กว่า 102 ล้านบาท, โมเดิร์น ลิ้งค์ (Modern Link)  138 ล้านบาท ,ซิตี้ลิงค์ คอนโด (City Link Condo ) กว่า 241 ล้านบาท เดอะ เวสต์ พาร์ค  (The West Park) 320 ล้าน และ Biz Link จำนวน 90 ล้านบาท  และในปีนี้ คาดว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งแนวราบ และแนวดิ่ง ให้กับลูกค้าได้ กว่า 900 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามเชื่อว่านครราชสีมายังมีศักยภาพสูงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้มีปัจจัยบวกที่จะส่งผลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ คือ การกระตุ้นหนุนเนื่องของภาครัฐในเรื่องการลงทุน Mega Project ที่จะเห็นก่อสร้างเป็นรูปธรรม หรือแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทำให้เกิดการหมุนเวียนของการใช้จ่าย และ การจ้างงาน  แต่มีปัจจัยลบเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่นิ่งมากนัก   และยังคงมีการแข่งขันกันรุนแรงมีโครงการใหม่เกิดต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ยังเป็นตลาดแนวราบ  ซึ่งคลังคาซ่ามีพื้นที่จะพัฒนาต่อเนื่องอีกกว่า  100 ไร่ ในปี 2559 จะเน้นไปที่ตลาดแนวดิ่ง

“ ทั้งนี้เป้าหมายดำเนินธุรกิจของคลังคาซ่าในปีนี้ได้คำนึงถึงปัจจัยบวกดังกล่าว รวมถึงสถานการณ์การเมืองและภาวะเศรษฐกิจในภาวะไร้รัฐบาลในปัจจุบันแล้ว ซึ่งหากไม่มีปัญหาดังกล่าวจะทำให้เป้าหมายยอดขายของคลังคาซ่าโตมากกว่านี้แน่นอน จะดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทางการปรับตัวเพื่อต่อยอดความสำเร็จและสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาวต่อไป