25 April 2024


ซินโครตรอนเยือนสวิสศึกษานวัตกรรมรักษามะเร็งปรับใช้กับเครื่องเร่งฝีมือคนไทย

Post on: Dec 22, 2015
เปิดอ่าน: 719 ครั้ง

ผอ.สถาบันวิจัยแสดงซินโครตรอน นำนักฟิสิกส์เยือน PSI สมาพันธรัฐสวัส ศึกษานวัตกรรมใหม่เครื่องโปรตอนรักษามะเร็ง หวังนำเทคโนโลยีปรับใช้กับเครื่องเร่งบำบัดมะเร็ง ฝีมือคนไทย
OPTIS facility ที่ PSI เพื่อทำการฉายแสงเนื้องอกในดวงตาด้วยอนุภาคโปรตอน1

ศาสตราจารย์ นาวาอากาศโท ดร.สราวุฒิ สุจิตจร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “สถาบันฯ ได้นำนักฟิสิกส์ศึกษาดูงาน ณ  Center for Photon Therapy ภายใต้การดูแลของ Paul Scherrer Institute (PSI)  สมาพันธรัฐสวิส เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้เครื่องเร่งอนุภาคแนวตรง (LINAC) ในทางการแพทย์  โดยสถาบัน PSI ได้จัดการบรรยายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะของสถาบันฯ มีการบรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญ Prof. Dr. Tony Lomax, Head of Medical Physics, และ Prof. Dr. Jacobus Maarten Schippers, Head of Section Medical Cyclotron and Beam Lines ซึ่งได้ให้ความรู้ในการเร่งอนุภาคบวก เช่น โปรตอน ที่ถูกเร่งโดย LINAC ลำเลียงผ่านท่อสุญญากาศหลักแยกออกเป็นสามสถานีย่อยสำหรับการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งสถานีดังกล่าวถูกออกแบบโดยทีมนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ และนักฟิสิกส์การแพทย์  โดยมีหลักการทำงานคือ ลำอนุภาคโปรตอนจะถูกฉายไปยังผู้ป่วยด้วยปริมาณความเข้มที่ต่างกันขึ้นอยู่กับความหนาแน่น รูปร่างลักษณะของก้อนเนื้อเยื่อที่ผิดปกติ (tumor) ซึ่งอาจจะเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็ง เพื่อทำลายเซลล์ที่ผิดปกติเหล่านั้น  จะสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้จนหมดถึงระดับความลึก 23 เซนติเมตร”

OPTIS facility ที่ PSI เพื่อทำการฉายแสงเนื้องอกในดวงตาด้วยอนุภาคโปรตอน2    การฉายแสงเนื้องอกบริเวณคอ อก สมองและกระดูกสันหลังด้วยอนุภาคโปรตอน

“ขณะนี้ทาง PSI ได้มีการพัฒนาการคำนวณสำหรับบอกตำแหน่งเนื้องอกที่เป็นเนื้อร้ายที่มีการเคลื่อนที่ในแนวดิ่งตลอดเวลา สัมพันธ์กับอัตราการหายใจให้มีความแม่นยำมากขึ้น เพื่อจะได้ส่งผ่านลำโปรตอนมายังเนื้องอกได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพ ในการส่งลำโปรตอนมายังเนื้องอกนั้นจะใช้เทคนิคที่เรียกว่า Pencil Beam Scan หรือ Spot Scanning    จากความรู้ทางด้านเทคโนโลยีการใช้รังสีโปรตรอนรักษามะเร็ง (Photon Therapy) ดังกล่าวนั้น สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเครื่องเร่งบำบัดมะเร็งที่จะพัฒนาโดยฝีมือคนไทยต่อไปในอนาคต” ผู้อำนวยการ กล่าวทิ้งท้าย