by

ผอ. สพป.เขต 1 โคราช เต้นสั่งตั้ง กก.สอบ กรณีโรงเรียนปล่อย รุ่นพี่ ม.3 ลวงข่มขืนนักเรียนหญิง  ม.1 ในห้องน้ำโรงเรียน ย้ำเร่งรัดให้สรุปผลเร็วสุด พร้อมส่งทีมเข้าช่วยเหลือเหยื่อ ขณะแม่เด็กพาลูกสาว ให้ สหวิชาชีพสอบ ระบุอยากให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญดำเนินการกับคนผิด

วันนี้ (25 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี  “น้องบี” (นามสมมติ) นักเรียนหญิงอายุ 13 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ( ม.1)  โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ถูกรุ่นพี่นักเรียนชาย อายุ 16 ปี ชั้น ม.3 โรงเรียนเดียวกัน ลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา ในห้องน้ำโรงเรียน ครูปิดเรื่องเงียบซ้ำให้นักเรียนกินยาคุมฉุกเฉิน ไม่พาแจ้งความตำรวจและไม่แจ้งให้ผู้ปกครองทราบ ผ่านไป 1 เดือนผู้ปกครองเค้นถามจึงทราบเรื่อง  ก่อนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน  สภ.โนนสูงและเข้าร้องเรียนมูลนิธีปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว นั้น

ล่าสุดนางนก (นามสมมติ) อายุ 30 ปี แม่ของน้องบี (นามสมมติ) ได้พาลูกสาวเดินทางมาที่สำนักงานอัยการจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อให้สหวิชาชีพได้ทำการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดย นางนก แม่น้องบี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกสาวตนรู้สึกเสียใจมาก ซึ่งนับตั้งแต่รับลูกสาวจากพ่อเขาคืออดีตสามีตนที่เลิกลากันแล้ว จากเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มาอยู่ด้วยกับตนที่ อ.โนนสูง เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมย้ายโรงเรียนมาเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวด้วย ตนก็ไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียนทุกวัน โดยพยายามดูแลลูกให้ดีที่สุดเพราะเป็นลูกสาว

ในวันเกิดเหตุ (11 มิ.ย.) เห็นว่า ลูกสาวเดินเข้าไปหานักเรียนหญิงรุ่นพี่ก่อนจะเข้าไปในโรงเรียน จากนั้นมาตอนเย็นขณะไปรับที่โรงเรียนเพื่อกลับบ้านก็เห็นรอยจ้ำ ๆ ที่คอ และ มีอาการซึมเศร้า หวาดกลัว และมียากลับมากินที่บ้าน 2 เม็ด เขาบอกว่าครูเอาให้ เพราะเห็นว่าไม่สบาย นอกจากนั้นลูกก็ไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง จนเวลาผ่านไปร่วม 1 เดือนตนพยายามเค้นสอบถามลูกสุดท้ายลูกก็ยอมรับว่าถูกรุ่นพี่ข่มขืน และโชคดีที่เก็บซองยาคุมไว้ จึงเอาไปตรวจสอบที่ร้านขายยาจนทราบว่า เป็นยาคุมฉุกเฉิน

จึงเข้าไปสอบถามครูนุช (นามสมมติ) เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นทางโรงเรียนได้ให้เข้าไปพบ ผู้อำนวยการโรงเรียน และเรียกเด็กทั้ง 2 คน มาสอบถามเรื่องดังกล่าว เด็กนักเรยนฝ่ายชายบอก ว่า ไม่ได้รักลูกสาวและไม่ได้ข่มขืนจึงปล่อยตัวไป จากนั้นลูกสาวตนมีอาการซึมเศร้ามากและกรีดข้อมือทำร้ายตัวเอง จนตนต้องตัดสินใจถามเอาความจริงและเข้าแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งในวันนี้ตนอยากให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับการดำเนินการเอาผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษ

ด้าน นายพิสิษฐ์ ชดกิ่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชี่ยวชาญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถามศึกษานครราชสีมา เขต 1 (สพป.นม.1) กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ได้สั่งการให้ทางโรงเรียนตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เพื่อให้รู้ที่ไปที่มา และมีใครเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ พฤติกรรมของเด็กเป็นอย่างไร ให้รวบรวมข้อมูลทุกด้านเพื่อประกอบการในการพิจารณาดำเนินการต่อไป

ขณะเดียวกัน ได้ส่งคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือนักเรียน (ฉก.ชน.) จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ เข้าไปช่วยเหลือนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นทีมที่ปรึกษาของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของโรงเรียนด้วย

  สำหรับแหตุการณ์ดังกล่าว จากรายงานเบื้องต้นทราบว่า ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้เรียกเด็กนักเรียนทั้ง 2 คนเข้ามาสอบถามแล้ว และเด็กทั้ง 2 ให้การตรงกันว่า ไม่ได้มีเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้น แต่ได้เข้าไปในสถานที่แห่งนั้นจริง  เมื่อนักเรียนยืนยันเช่นนี้ทางโรงเรียนโดย ผู้อำนวยการโรงเรียนได้กล่าวตักเตือนไป แต่เพิ่งมาทราบภายหลังว่าเด็กยอมรับว่ามีเหตุการณ์ข่มขืนด้วย

ดังนั้นต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงให้รอบด้านและได้สั่งกำชับให้คณะกรรมการฯ เร่งรัดดำเนินการให้มีความชัดเจนเร็วที่สุด และขณะนี้ทางผู้ปกครองของนักเรียนหญิงได้เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจแล้ว ฉะนั้นการดำเนินการจากนี้ไปคงจะต้องรอผลการสอบสวนในส่วนของโรงเรียนก่อนเพื่อพิจารณาเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องและต้องมีผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ส่วนการดำเนินคดีอาญาก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่าเราจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย