by

นายกสมาคมโรงแรมอีสานชี้ ปีไก่ธุรกิจโรงแรมเมืองโคราชแข่งเดือดหลัง 2 ยักษ์เปิดบริการ อัดโปรฯ เต็มที่ทำรายเก่าสะเทือน ห่วงอุปทานมากกว่าอุปสงค์โรงแรมล้นแต่คนใช้บริการมีจำกัด ระบุเฉพาะตัวเมืองมีห้องพักมาถึง 4,000 ห้อง ด้าน อบจ. ยิ้มรับมีรายได้เพิ่มจากการจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ ตัวเลขโตทุกปี เผยปี 59 เก็บได้กว่า 3 ล้านบาท

นายประสาน  ไทยแท้ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ผู้จัดการโรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส โคราช เปิดเผยถึงการแข่งขันของธุรกิจโรงแรมในจังหวัดนครราชสีมาว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ธุรกิจโรงแรมในจังหวัดนครราชสีมามีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง และเห็นได้ชัดเจนขึ้น เนื่องจากมีการเปิดตัวใหม่ของโรงแรมขนาดใหญ่ 2 แห่งคือ ฟอร์จูน ราชพฤกษ์ ของเครือซี.พี และ แคนทารี โคราช มีห้องพักรวมกันประมาณ 500 ห้อง และช่วงเปิดตัวใหญ่ ทั้ง 2 ค่ายต้องทุ่มจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าเพื่อแนะนำตัวเอง ทั้งการดั้มราคาห้องพัก และการแจกแถมต่างๆ ทำให้ลูกค้าที่มีอยู่จำกัดนั้น ถูกแชร์ตลาดส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงแรมรายเดิมที่มีอยู่แล้วได้รับผลกระทบแน่นอน โดยเฉพาะโรงแรมขนาดกลางที่ราคาระดับเดียวกันกับทั้ง 2 โรงแรม

ในส่วนของโรงแรมดุสิตปริ๊นเซส โคราช ซึ่งมีความได้เปรียบในชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในแบรนด์อยู่แล้ว พยายามรักษาฐานลูกค้าเดิมให้อยู่กับดุสิตให้ได้มากที่สุดแม้อาจจะรักษาไม่ได้ทั้งหมดแต่ก็ไม่ให้เสียไปมากที่สำคัญรักษาความเป็นมาตรฐานด้านบริการ (Service Standard) และงัดกลยุทธ์ต่าง ๆเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้

นายประสานกล่าวอีกว่า โดยภาครวมเฉพาะในเขตตัวเมืองนครราชสีมา ถือว่ามีโรงแรมกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งรายเก่ารายใหม่ คาดว่ามีห้องพักประมาณ 3,000-4,000 ห้อง ผู้ประกอบการประมาณ 600-700 ราย สิ่งที่เป็นน่าเป็นห่วงคือ อุปสงค์ (Demand) กับ อุปทาน (Supply) ที่ไม่สอดคล้องกันทำให้เกิดปัญหาขณะนี้ Supply อาจจะมากกว่า Demand จึงเกิดการแข่งขันกันสูงในธุรกิจโรงแรม คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี จึงจะทำให้ทั้ง 2 อย่างมีความสมดุลกัน ดังนั้นจึงอยากฝากไปยังภาครัฐให้เร่งดำเนินการด้านแผนการท่องเที่ยวเพื่อเข้ามาช่วยผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานต้องอาศัยหน่วยงานของรัฐเป็นหลัก ทั้งตลาดการประชุมสัมมนาก็ควรให้จัดอยู่ในพื้นที่ให้มากที่สุดเพราะภาคอื่นๆ ไม่นิยมมาจัดสัมมนาในพื้นที่อีสานมากนั้น  และการส่งเสริมการท่องเที่ยวควรทำต่อเนื่องไม่ใช่ทำเฉพาะฤดูหนาวหรือช่วงไฮซีซันเท่านั้น

ด้านนางอนุตรา  มาลัยเปีย นักวิชาการคลังชำนาญการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (อบจ.นม.)  กล่าวว่า  อบจ.นครราชสีมามีรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จากผู้พักในโรงแรม ในอัตรา ร้อยละ 1 ของค่าห้องพัก โดยจัดเก็บสำหรับผู้ประกอบการที่บริการห้องพักตั้งแต่ 4 ห้องขึ้นไปหรือพักได้ตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป  โดนในปีที่ 2559 จัดเก็บได้ทั้งหมดกว่า 3 ล้านบาท   จากผู้ประกอบการจำนวน 646 ราย จาก 32 อำเภอ  และมีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ทั้งนี้ อบจ.ไม่ได้แยกว่าเป็นผู้ประกอบการโรงแรมหรืออพาร์ตเม้นท์ แต่จะเก็บเฉพาะกิจการที่บริการห้องพักรายวันเท่านั้นส่วนการเข้ามาเปิดกิจการใหม่ ๆ ของโรงแรมในพื้นที่ก็จะส่งผลดีทำให้รายได้ของ อบจ.เพิ่มขึ้นด้วย