by

โคราชเร่งหาทางออกผลกระทบก่อสร้าง “มอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช” ค่ากวา่า 8 หมื่นล้าน เรียกประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาข้อเรียกร้องของราษฎร  ด้านกรมทางหลวงยัน ยกถนนคร่อมมิตรภาพช่วง อ.ปากช่องเป็นไปไม่ได้ แต่จะปรับแก้ Service Center และปรับรูปแบบทางแยกต่างระดับใหม่ให้แทน  พร้อมทำ EIA ซ้ำในจุดที่มีปัญหา เผยโคราชจ่ายค่าทดแทนสิ่งปลูกสร้างและพืชไปแล้วกว่า 74 ล้านบาท   เตรียมยกคณะลง พท. แจงชาวบ้านให้ถึงตัวเพื่อไขความกระจ่างให้โครงการเดินหน้าได้

วานนี้ (15 มี.ค.) ที่ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน- นครราชสีมา โดยมีนายอดุลย์  เชาว์วาทิน ผู้อำนวยการทางหลวงที่ 10 นครราชสีมา ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม ซึ่งมีคณะกรรมการหลายฝ่ายเข้าร่วมทั้ง ฝ่ายทหารจาก มทบ. 21 กองทัพภาคที่ 2, การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ,แขวงการทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 , กรมทางหลวง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง แต่ไม่มีกลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้แต่อย่างใด

โดยที่ประชุมได้หารือกันถึงประเด็นของราษฏรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา จากพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ยืนหนังสือร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้มีการการยกระดับคร่อมบนถนนมิตรภาพแทนการสร้างบนทางเรียบ, การจ่ายค่าเวนคืนที่ดินที่ไม่สะท้อนราคาที่แท้จริง, การทำประชาพิจารณ์ไม่ครอบคลุม การออกแบบสร้างทางของกรมทางหลวงใช้ข้อมูลเก่ามากกว่า 10 ปี , ชาวบ้านที่ถูกเวนคืนที่ดิน ไม่สามารถไปหาซื้อที่ดินแปลงใหม่ได้ เพราะราคาตลาดสูงกว่าค่าทดแทนจากการเวนคืน  เป็นต้น

ทั้งนี้นายเสน่ห์  นิ่งใจเย็น ผู้อำนวยการสำนักจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม  ได้ชี้แจงรายละเอียดของโครงการดังกล่าวว่า โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน- นครราชสีมา มีระยะทาง 196 กม.  เริ่มต้นที่บริเวณทางแยกต่างระดับถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันออก (ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9) อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา สิ้นสุดที่ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีด่านเก็บค่าผ่านทางทั้งหมด 9 แห่ง มีศูนย์บริการทางหลวง 1 แห่ง สถานีบริการทางหลวง (Service Area) 2 แห่ง และที่พักริมทางหลวง (Rest Area) 5  แห่ง  มูลค่าการก่อสร้างโครงการทั้งหมดกว่า 8 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าก่อสร้างกว่า 7.7 หมื่นล้านบาท และหากการก่อสร้างเป็นไปตามกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2562  ส่วนการเวนคืนที่ดินใช้งบประมาณกว่า 6.6 พันล้านบาท  ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา พ.ศ. 2556 ในส่วนของ จ.นครราชสีมา มีเขตที่ดินที่จะเวนคืนตาม พรฎ. ได้แก่ อ.ปากช่อง, สีคิ้ว,สูงเนิน, ขามทะเลสอ, เมืองนครราชสีมา มีส่วนที่แคบที่สุด 400 เมตร และส่วนที่กว้างที่สุด 2,500 เมตร

สำหรับการจ่ายเงินค่าทดแทนในการเวนคืนทางหลวงพิเศษหมายเลข 6  ประกอบด้วย ที่ดิน, สิ่งปลูกสร้างและพืชผล กรมทางหลวงได้รับงบประมาณค่าสิ่งปลูกสร้างและพืชผลแล้ว จำนวน 334,101,600 บาท เป็นค่าสิ่งปลูกสร้างจำนวน 372 ราย และพืชผล 537 ราย ได้ดำเนินการจ่ายไปแล้ว 2 งวด เป็นเงินกว่า 75.4 ล้านบาท คงเหลือที่จะจ่ายในงวดต่อไปอีกกว่า 70.6 ล้านบาท

ส่วนการดำเนินการตามข้อเรียกร้องของกลุ่มราษฎรนั้น ที่ผ่านมากรมทางหลวงไม่ได้นิ่งนอนใจ นำเอาปัญหาทุกเรื่องที่ราษฎรเรียกร้องไปหารือ เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดและได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยการประชุมของกรมทางหลวงล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2559 ที่ผ่านมามีมติให้มีการแก้ไขปรับปรุงแบบในส่วนของพื้นที่ที่ผ่านจังหวัดนครราชสีมาหลายจุด

โดยเฉพาะจุดที่กลุ่มราษฎรร้องเรียนไปยังนายกรัฐมนตรี ช่วง กม. 107- กม.110 รวมทางแยกต่างระดับปากช่อง ซึ่งนายลออง ศาลา แกนนำกลุ่มราษฎรที่เคยยื่นข้อเรียกร้องไปก่อนหน้านี้นั้น  ที่ประชุมเห็นว่า เมื่อมีการพิจารณาข้อดี-ข้อด้อยของรูปแบบแนวเส้นทางที่เป็นไปได้ โดยการพิจารณาเปรียบเทียบในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งสรุปได้ว่ารูปแบบที่ออกแบบไว้เดิมมีความเหมาะสมมากที่สุด และที่ผ่านมาได้มีการประสานงานหารือกับผู้ร้องเรียนรวมทั้งลงพื้นที่พบปะประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยได้พิจารณาปรับปรุงรูปแบบต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสมเพื่อลดผลกระทบ เช่น ออกแบบแก้ไขปรับลดขนาดพื้นที่ของ Service Center ปากช่อง รวมถึงออกแบบแก้ไขปรับรูปแบบทางแยกต่างระดับใหม่เพื่อลดผลกระทบการเวนคืนที่ดินและพิจารณาออกแบบปรับปรุงส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ส่วนการจ่ายค่าทดแทนที่ดินนั้น  ได้มีการพิจารณาให้สูงกว่าราคาประเมินขั้นต่ำประมาณ 70 %  แต่จะให้เท่ากับราคาตลาดที่ซื้อขายกันคงเป็นไปไม่ได้ และหากราษฎรคนใดไม่พอใจค่าทดแทนที่ได้รับสามารถยืนอุทธรณ์เข้ามาได้ ส่วนผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือ EIA นั้นกรมทางหลวงได้อนุมัติงบประมาณ 12.5 ล้านบาท ในการทำ EIA ซ้ำอีกจุดที่มีปัญหาการร้องเรียนทุกจุด ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.นี้ นายเสน่ห์ กล่าวในที่สุด

ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ลงพื้นที่ชี้แจงประชาชนใน อ.ปากช่อง เพื่อทำความเข้าใจต่อกรณีที่ร้องเรียนเพื่อให้เกิดความกระจ่างและเข้าใจตรงกัน ไม่มีปัญหาร้องเรียนผ่านไปยังหน่วยงานอื่นๆ อีก และเพื่อให้โครงการมอเตอร์เวย์ เดินหน้าต่อไปได้ โดยจะมีการกำหนดวันที่จะลงพื้นที่ให้แน่ชัดอีกครั้ง