23 April 2024


โอละพ่อ!ซากโบอิ้ง 30 ล.จอดกลางไร่มันฯ ที่แท้ได้มาฟรี จ่ายแค่ค่าขน

Post on: May 5, 2016
เปิดอ่าน: 13,331 ครั้ง

โอละพ่อ!นักธุรกิจหนุ่มโคราชยอมรับไม่ได้ควักเงิน 30 ล.ซื้อซากเครื่องบินโบอิ้ง 747  จริง ยันได้มาฟรีเพราะผู้ใหญ่เมตตาหวังให้นำซากเครื่องบินไปใช้ประโยชน์เพื่อส่วนรวม จ่ายแค่ค่าขนย้ายเท่านั้น  ด้านคนดูแลฉุนจัดให้ข่าวเพื้ยนจากความจริง ขณะที่ ผอ.ท่าอากาศยานโคราชระบุเดิมซากเครื่องบินเป็นของ “เจษฏา” เจ้าของพิพิธภัณฑ์ชื่อดังระดับเอเชีย เชื่อถ้าซื้อขายไม่น่าถึง 10 ล้านชี้ค่าขนย้ายอาจจะแพงกว่าด้วยซ้ำ

ซื้อโบอิ้งทำแหล่งท่องเที่ยวใหม่-web1

วันนี้ (5 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นักธุรกิจชาวจังหวัดนครราชสีมาควักเงิน 30 ล้านบาทซื้อซากเครื่องบินโบอิ้ง 747  มาสร้างแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ “โบอิ้งแลนด์”  หวังเป็นแลนด์มาร์คของเมืองโคราชดึงดูดนักท่องเที่ยวจนเป็นที่ฮือฮาและเป็นที่สนใจของประชาชนตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุดข่าวดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้แก่เจ้าของโรงแรมรายใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมาซึ่งเป็นผู้ดูแลเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นอย่างมาก พร้อมบอกผ่านสื่อมวลชนว่า เครื่องบินลำดังกล่าวนี้มีผู้ใหญ่มอบให้และเห็นว่านายปราโมทย์ มีแนวคิดที่จะนำเครื่องบินลำนี้ไปใช้ประโยชน์เพื่อส่วนรวมและเพื่อการศึกษาสร้างชื่อเสียงให้แก่จังหวัด จึงได้มอบให้โดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด  แต่ข่าวกลับออกมาว่าควักเงินหลายสิบล้านบาทซื้อเครื่องบินลำดังกล่าวไปซึ่งไม่เป็นความจริง โดยตนเองได้พูดคุยกับนายปราโมทย์ในการให้ข่าวต่อสื่อไปแล้ว

นายปราโมทย์-web1

ด้านนายปราโมทย์ ริมใหม่ กรรมการผู้จัดการ หจก.ริมใหม่ คอนสตรัคชั่น ผู้จำหน่ายเครื่องจักรกลหนักในการทำธุรกิจเหมือง ดำเนินกิจการท่าทราย และรับเหมาก่อสร้าง  ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า  ซากเครื่องบินโบอิ้งดังกล่าวไม่ได้ซื้อมาจริงแต่เป็นความกรุณาของผู้ใหญ่ที่เห็นว่าตนเองจะนำซากเครื่องบินไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมและการศึกษา จึงได้มอบให้โดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดและคาดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการเสนอข่าวที่ผิดพลาดของสื่อมวลชน ซึ่งตนเองไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่าซื้อเครื่องบินลำนี้มาแต่อย่างใด  เพียงแต่มีการประมาณการเรื่องตัวเลขการลงทุนที่จะสร้างแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่หลังจากนำเครื่องบินไปตั้งไว้ในที่ดินกว่า 100 ไร่แล้ว  ส่วนการขนย้ายตนได้ให้พนักงานของบริษัทซึ่งพอมีความรู้และยืมรถเครนขนาดใหญ่จากเพื่อนธุรกิจมาทำการขนย้ายซึ่งค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นยังไม่สรุปชัดเจนว่าจำนวนมากน้อยเพียงใด

“หลังจากเป็นข่าวแล้วมีคนโทรเข้ามาสอบถามจำนวนมากโดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายดังกล่าว ซึ่งตนได้ชี้แจงไปตามข้อความข้างต้น และมีแผนที่จะสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ให้โคราชเป็นที่รู้จัก โดยจะสร้างไปเรื่อย ๆ ตามที่งบประมาณมีอยู่ไม่ได้วางเป้าหมายแต่อย่างใด” นายปราโมทย์ กล่าว

ขณะที่นายประวัติ ดวงกันยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครราชสีมา  กล่าวว่า เรื่องตัวเลขการซื้อขายกันนั้นตนไม่ทราบ แต่เครื่องบินโออิ้ง 747 ที่ปลดประจำการลำดังกล่าวเดิมทีเป็นของนายเจษฏา  เดชสกุลฤทธิ์ เจ้าของพิพิธภัณฑ์เจษฏาเทคนิคมิวเซียม ที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่มีชื่อเสียงระดับเอเชีย มาติดต่อขอฝากไว้กับทางการท่าอากาศยานจังหวัดนครราชสีมาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว (พ.ศ.2549) โดยทางการท่าอากาศยานฯ คิดค่าธรรมเนียมในการเช่าจอดอากาศยานที่ปลดประจำการเดือนละ 1,000 บาท ซึ่งทางนายเจษฏาได้ชำระเงินมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเมื่อประมาณ 1 ปีเศษ นายชัชวาล วงศ์จร เจ้าของโรงแรมวีวันโคราช ได้เข้ามาเป็นผู้ดูแลเครื่องบินลำนี้แทน ซึ่งภาคเอกชนมีข้อตกลงกันอย่างไรตนไม่ทราบในรายละเอียดจะซื้อขายหรือมอบให้กันเป็นเรื่องของทั้ง 2 ฝ่ายจะตกลงกันเอง  นายประวัติและนายปราโมทย์-web1

กระทั่งล่าสุดนายโปรโมท ได้เข้ามาพูดคุยเจรจาตกลงกับนายชัชวาล ที่จะนำซากเครื่องบินลำนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ และได้มาติดต่อขอความเห็นจากตน ซึ่งตนเองก็เห็นพ้องหากจะนำไปสร้างมูลค่าและทำให้เกิดประโยชน์กับคนส่วนรวมในจังหวัดนครราชสีมา เพราะหากจอดทิ้งไว้ที่สนามบินก็ไม่มีประชาชนเข้ามาดูเข้ามาศึกษาได้ เพราะเป็นพื้นที่จำเพาะ  ส่วนรายละเอียดเรื่องการซื้อขายกันนั้นตนไม่ทราบ  แต่ตัวเลขที่ลงข่าวไปส่วนตัวคิดว่าอาจจะสูงเกินความเป็นจริงไปมาก  เพราะจากประสบการณ์และการคลุกคลีอยู่ในวางการบิน  คิดว่าราคาขายซากเครื่องบินน่าจะไม่เกิน 7-8 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนค่ารื้อถอนเคลื่อนย้ายหากไม่มีอุปกรณ์เป็นของตัวเองก็อาจจะต้องใช้งบประมาณในการจ้างที่สูงหรืออาจจะสูงกว่าราคาซื้อซากเครื่องบินก็เป็นได้ เนื่องจากเฉพาะปีกเครื่องบินน้ำหนักกว่า 40 ตันจะต้องใช้เครนยกหลายตัวและต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร

นายประวัติ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ภาคเอกชนตกลงกันเรียบร้อยแล้วก็ได้ประสานมาทางการท่าฯ  ซึ่งทางการท่าอากาศยานฯ ได้อำนวยความสะดวกในการขนย้ายออกไป โดยใช้เวลานานร่วมเดือนและทางนายประโมทย์ได้มาทำการขนย้ายซากเครื่องบินออกไปทั้งหมดเมื่อปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา  ตนหวังว่าซากเครื่องบินโบอิ้งจะนำไปสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับคนส่วนรวม โดยอาจจะเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนนักศึกษาที่จะเข้ามาดูโครงสร้างของเครื่องบินก็เป็นไปได้ในอนาคต ซึ่งขึ้นอยู่กับเจ้าของคนใหม่จะดำเนินการไปในรูปแบบใด เพราะไม่เกี่ยวข้องกับทางการท่าอากาศยานแต่อย่างใด