เปิดเบื้องลึก! การล่มสลายของของห้างท้องถิ่นโคราช “คลังพลาซ่าอัษฏางค์”  เป็นการปิดตำนาน 36 ปีที่ยืนหยัดคู่เมืองโคราช วันนี้ต้องพับเสื่อจากพิษเศรษฐกิจซบและโควิด-19 ระบาด เปิดใจเถ้าแก่รุ่นสุดท้ายของคลังพลาซ่า

หลายวันที่ผ่านมาคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ข่าวการปิดตัวของห้างท้องถิ่นรายใหญ่อย่าง “คลังพลาซ่า” กลายมาเป็นข่าวโด่งดังอีกครั้งที่กระหึ่มสื่อโซเชียล อย่างต่อเนื่อง และเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ (พ.ค.) คลังพลาซ่าก็ประกาศปิดตัวห้างคลังพลาซ่าสาขาจอมสุรางค์ยาตร์ หรือ คลังใหม่ไปแล้ว หลายคนยังรำลึกถึงวันที่ได้ไปเดินไปช็อปที่ห้างฯ แห่งนี้ และต่อมาวันนี้ (4มิ.ย.)เราก็ต้องมาตกใจกับข่าวกับการแจ้งปิดตัวของ“คลังพลาซ่าอัษฏางค์” หรือ คลังเก่า อีกครั้ง

โดยนายไพรัตน์ มานะศิลป์ รองประธานกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท คลังพลาซ่า จำกัด ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า 3 สาขา ประกอบด้วย “คลังพลาซ่าอัษฎางค์” “คลังพลาซ่าจอมสุรางค์” และ “คลังวิลล่าสุรนารายณ์” ได้ออกหนังสือประกาศเรื่อง แจ้งปิดการให้บริการห้างสรรพสินค้า “คลังพลาซ่าสาขาอัษฎางค์” อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า
เรียน เพื่อนพนักงานทุกท่าน

เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยมีการชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจการค้าโลก ประกอบกับวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่ปลายปี 2562 ถึงปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะมีความยากลำบากมากขึ้น จากสงครามและมาตรการคว่ำบาตรซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกในขณะนี้ จากภาวะดังกล่าวส่งผลต่อธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้าเป็นอย่างมากบริษัท คลังพลาซ่า จำกัด ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะประคับประคองสถานการณ์ แต่จากระยะเวลาที่ยาวนาน บริษัทประสบภาวะขาดทุนสะสมมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสถานการณ์อยู่ในภาวะวิกฤต ขาดสภาพคล่องทางการเงินในการดำเนินธุรกิจ

คณะผู้บริหารได้พิจารณาเห็นว่ามีความจำเป็นต้องปิดการให้บริการห้างสรพสินค้าคลังพลาซ่าและเลิกจ้างพนักงาน ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป และการจ่ายค่าจ้างและชดเชย พนักงานทุกท่าน บริษัทได้มอบหมายให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลเป็นตัวแทนดำเนินการดูแลและประสานงานต่อไป หากสถานการณ์ดีขึ้น บริษัทหวังว่าจะได้มีโอกาสร่วมงานกับท่านอีก”

เปิดประวัติ! กว่าจะเป็น คลังพลาซ่า

ทั้งนี้ คลังพลาซ่า ถือเป็นตำนานห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นโดยเจ้าของเป็นคนโคราช ได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่รุ่นพ่อ นายไพศาล มานะศิลป์ ตั้งแต่ปี 2501 จากร้านขายอุปกรณ์การเรียนในชื่อ “คลังวิทยา” ข้างวัดพายัพ พระอารามหลวง ได้ขยายสาขาและย้ายมาอยู่ที่ ถนนอัษฏางค์ โดยเป็น “คลังวิทยาดีพาร์ทเม้นท์สโตร์” ปี 2519 ซึ่งมีบันไดเลื่อนเป็นแห่งแรกของภาคอีสาน

จากนั้นได้ขยายสาขาเพิ่มและย้ายมาอยู่บริเวณตรงข้ามโรงภาพยนตร์เฉลิมวัฒนารามา เยื้องลานย่าโม ริม ถนนจอมสุรางค์ยาตร์ เป็นห้างสรรพสินค้า ”คลังพลาซ่าอัษฏางค์” เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2534 ถือเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภาคอีสานในขณะนั้น ซึ่งได้รับการตอบรับจากชาวโคราชและคนอีสานเป็นอย่างดี ใครมากราบไหว้ย่าโมต้องแวะมาเดินคลังพลาซ่า

ในปี 2553 ได้เพิ่มสาขา “คลังวิลล่า” เยื้องมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.) นครราชสีมา แม้ผลกระทบจากการแข่งขันดุเดือดของทุนใหญ่จากส่วนกลาง ทั้ง “เดอะมอลล์” “เทอร์มินอล 21” “เซ็นทรัลพลาซ่า” คลังพลาซ่ายังคงยืนหยัดต่อสู้ได้อย่างแข็งแกร่ง

ในปี 2557 ได้ทุ่มเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท รีโนเวต หรือปรับปรุงทุกชั้นทุกแผนกครั้งใหญ่ของ “คลังพลาซ่า จอมสุรางค์” ด้วยสภาวะเศรษฐกิจซบเซาและวิกฤตโควิด 3 ระลอก “คลังพลาซ่าจอมสุรางค์” ต้องปิดตำนานห้างที่ดังที่สุดในยุค 30 ปี

ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นายไพรัตน์ ได้พลิกวิกฤตโดยเปลี่ยนรูปแบบกิจการ “คลังพลาซ่าจอมสุรางค์” เป็น “ARPAYA” หรือจากช้อปปิ้งมอลล์ สู่ มิกส์ยูส “อาภาญา” โครงการที่รวมอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ทั้งอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า รวมทั้งแหล่งเรียนรู้การศึกษา โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ฯลฯ เพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่ภายในอาคารสูง 10 ชั้น ที่จอดรถยนต์ 500 คัน ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ตรงประเด็น แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีอะไรเคลื่อนไหวมากนักจนกระทั่งกลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งวันนี้สำหรับการประกาศปิดกิจการสาขาใหญ่

“เปิดใจเถ้าแก่ใหญ่ถึงเหตุผลการปิดตัวของคลังพลาซ่าอัษฏางค์”

นายไพรัตน์ มานะศิลป์ หรือ “เสี่ยเหลียง” รองประธานกรรมการ บริษัท คลังพลาซ่า จำกัด เจ้าของห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า ห้างท้องถิ่น จ.นครราชสีมา ทั้ง 3 สาขา  เปิดเผยถึงเบื้องหลังการติดสินใจประกาศปิดให้บริการห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า สาขา อัษฎางค์ หรือ เป็นที่รู้ของชาวโคราช มากว่า 36 ปี ในนาม “คลังเก่า” ว่า  สาเหตุสำคัญที่บริษัท คลังพลาซ่า ต้องปิดให้บริการห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า สาขา ถนนอัษฎางค์ หรือ “คลังเก่า” เนื่องจาก สภาวะเศรษฐกิจไทยซบเซาอย่างต่อเนื่องประกอบกับประสบวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 เป็นต้นมา ทำให้บริษัทขาดทุนสะสมและขาดสภาพคล่องทางการเงินในการดำเนินธุรกิจ จนบริษัทตกอยู่ภาวะวิกฤต แบกรับภาระไม่ไหวแม้กระทั่งค่าไฟฟ้าของห้างฯต้องจ่ายเดือนละกว่า 6 แสนบาท  จึงจำเป็นต้องปิดให้บริการ ซึ่งได้แจ้งให้พนักงานทราบล่วงหน้าแล้ว และบริษัทพร้อมดูแลพนักงานนับ 100 คน ตามกฎหมายแรงงานทุกอย่าง

ส่วนอาคารคลังพลาซ่า สาขา อัษฎางค์ แห่งนี้ หลังปิดให้บริการกิจการห้างสรรพสินค้าแล้วเราจะเปิดให้เช่าพื้นที่อาคาร กับผู้ประกอบการหรือนักลงทุนใครที่สนใจอยากเช่า ก็มาคุยกับเราได้เลย โดยเราจะเปิดให้เช่าจำนวน 3 ชั้น คือ ชั้นใต้ดิน ,ชั้น 1 และชั้น 2 ในส่วนที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ต และ ดีพาร์ทเมนต์สโตร์ รวมพื้นที่จำนวน 8, 000 ตารางเมตร (ตรม.)  หรือจะแยกเช่าพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งก็ได้ เนื่องจากอาคารคลังพลาซ่า เป็นทรัพย์สินสร้างบนที่ดินของตระกูลมานะศิลป์ ไม่ได้สร้างบนที่ดินเช่า

สำหรับ ห้างฯคลังวิลล่า ถนนสุรนารายณ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา อีก 1 สาขา ของ บริษัทคลังพลาซ่า ยังเปิดกิจการให้บริการเหมือนเดิม เพราะรูปแบบการบริหารสาขานี้ เป็นรูปแบบใหม่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ แตกต่างจาก 2 สาขา ที่ปิดให้บริการ  ซึ่งคลังวิลล่า สุรนารายณ์ มีผู้เช่าพื้นที่อยู่แล้ว กิจการสามารถเลี้ยงตัวเองได้และยังไปได้อยู่

ขณะที่ ห้างฯคลังพลาซ่า สาขา จอมสุรางค์ยาตร หรือ “คลังใหม่” ขนาด 9 ชั้น พื้นที่กว่า 35,000 ตรม. ที่ปิดให้บริการก่อนหน้านี้ และเปลี่ยนโฉม เป็น “ARPAYA อาภาญา ” ก็เป็นเรื่องของบริษัทน้องสาวของตน (ประภากร มานะศิลป์ หรือ คุณแง็ก) ในการดำเนินธุรกิจทั้งหมด  ในส่วนนี้ตนและบริษัทคลังพลาซ่า เป็นเพียงที่ปรึกษาเท่านั้น

ส่วนโครงการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่มูลค่า 750 ล้านบาท ของบริษัท คลังพลาซ่า คือ ห้างฯคลังสเตชั่น บนที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย  ย่าน 5 แยกหัวรถไฟ กลางเมืองนครราชสีมา ของ   นั้น ก็ยังดำเนินอยู่แต่ต้องชะลอโครงการทั้งหมดไว้ก่อน หลังจากได้ลงทุนก่อสร้างโครงสร้างของอาคารหลักไปแล้วประมาณ 40% เพราะทำสัญญาเช่ากับทางการรถไฟไว้เรียบร้อยหมดแล้ว เป็นระยะเวลา 30 ปี ทุกวันวันนี้ก็ยังจ่ายค่าเช่าให้กับการรถไฟตามสัญญา

เปิดใจทั้งน้ำตา! พนักงานเก่าแก่ห้างฯคลังพลาซ่า อยู่มานาน 40 ปี ผูกพันเหมือนบ้าน 

นางธนพร เจริญปรุ อายุ 56 ปี หัวหน้าแผนกอาหารสด ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า สาขาอัษฏางค์ ซึ่งทำงานที่อยู่กับ คลังพลาซ่า มานานกว่า 40 ปี  เปิดเผยด้วยน้ำตาคลอ ว่า เมื่อได้รับแจ้งจากบริษัทว่า ห้างฯคลังพลาซ่า อัษฎางค์ หรือ “คลังเก่า” ต้องปิดให้บริการและเลิกจ้างพนักงาน ในวันที่ 31 ก.ค. นี้ ก็รู้สึกใจหาย เพราะรักและผูกพันกับ คลังพลาซ่ามาก  ทำงานอยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตไม่เคยเปลี่ยนงานไปไหน  ที่นี่คือบ้านอีกหลังหนึ่งและเป็นที่ที่ทำให้เรามีทุกอย่าง มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ได้ส่งลูกเรียนหนังสือจนจบปริญญา และมีบ้านจนถึงทุกวันนี้

ตนทำงานที่นี้ นับตั้งแต่วันที่คลังพลาซ่า ยังเป็นร้านเครื่องเขียน “คลังวิทยา” จนเติบโตมาเป็นห้างสรรพสินค้าในปี 2529  เราก็อยู่ที่นี่มาโดยตลอด เถ้าแก่เองดูแลเราเป็นอย่างดี เขาก็เคยพนักงานว่า กิจการก็มีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา ในวันที่เขามีกำไรเฟื่องฟูก็ดูแลพนักงานเป็นอย่างดีไม่เคยทอดทิ้งกัน ตั้งแต่รุ่นพ่อ (นายไพศาล มานะศิลป์) มาจนถึงรุ่นลูกในปัจจุบัน ที่มี “เสี่ยเหลียง” นายไพรัตน์ มานะศิลป์ เป็นหัวเรือใหญ่

นางธนพร กล่าวต่อว่า ในครั้งนี้เราเองก็เห็นใจผู้ เพราะมันไปต่อไม่ไหวจริงๆ จึงจำเป็นต้องปิดกิจการ  ทั้งที่ใจจริงนายจ้างก็ไม่อยากปิด พนักงานเองก็มีการพูดคุยกันมาตลอด ตั้งแต่มีการส่งสัญญาณมาเมื่อครั้งที่ปิดให้บริการห้างฯคลังพลาซ่า จอมสุรางค์ยาตร หรือ “คลังใหม่” เป็นสาขาแรก  เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา  ทุกคนรู้ตัวอยู่แล้วและไม่อยากให้วันนี้มาถึง  แต่เราจะอยู่กับนายจ้างจนวันสุดท้าย ส่วนตัวเองหลังจากนี้คงไปสมัครทำงานที่ไหนไม่ได้แล้วและไม่มีแรงพอที่จะไปเป็นลูกจ้างใครอีก คงจะผันตัวเองไปขายของเล็กๆ น้อย ๆ เพื่อเลี้ยงชีพต่อไปเท่านั้น

ส่วนทางบริษัทจะดูแลชดเชยตามกฎหมายแรงงานอย่างไร ตนยังไม่ทราบและยังไม่ได้มีการคุยรายละเอียดในเรื่องนี้ ยอมรับว่า ใจหายจริง ๆ วันนี้คงจะเหลือแค่ ห้างฯ คลังวิลล่า ถนนสุรนารายณ์ ตนเองคงจะไปเป็นลูกค้าสนับสนุนซื้อสินค้าช่วยให้บริษัทได้ รักษาคลังวิลล่า เอาไว้ให้เดินหน้าต่อไปได้  พร้อมจะบอกลูกหลาน หรือคนรู้จักมาช่วยกันไปสนับสนุนซื้อสินค้าที่ คลังวิลล่า สุรนารายณ์ เพื่อให้ห้างฯของคนโคราช  ได้อยู่คู่กับโคราชต่อไปด้วย  นางธนพร กล่าวในตอนท้าย