by

ที่บ้านหนองสนวน ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา  นายทวี มาสขาว รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานเปิดงาน รณรงค์ (Kick off) เพื่อป้องกันและกำจัดโรคใบด่างในมันสำปะหลัง ครั้งแรกของประเทศ หลังจากที่มีการพบการระบาดของโรคในด่างในมันสำปะหลังซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส Cassava mosaic virus ในพื้นที่ประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา  สร้างความเสียหายให้กับผลผลิตมันสำปะหลังของไทยไปแล้วกว่า 88,000 ไร่ มูลค่าความเสียหายกว่า 9 หมื่นล้านบาท

โดยภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลและการป้องกันกำจัดโรคใบด่างในมันสำปะหลังจากผู้เชี่ยวชาญ  พร้อมกับการสาธิตวิธีการสังเกตและกำจัดการแพร่ระบาดของโรค โดยเน้นที่การทำลายท่อนพันธุ์ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเชื้อของโรคใบด่าง อาทิ การฝั่งกลบท่อนพันธุ์ และการสับท่อนพันธุ์เพื่อนำไปแปรรูปเป็นปุ๋ยหรืออาหารสัตว์ เป็นต้น

นายทวี มาสขาว รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพบการระบาดของโรคใบด่างกระจายอยู่ทั่วประเทศสร้างความเสียหายไปแล้วกว่า 88,000 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 9 หมื่นล้านบาท  แต่ล่าสุดกรมส่งเสริมการเกษตร สามารถหยุดวงจรโรคใบด่างมันสำปะหลังได้แล้ว 6 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ มหาสารคาม ระยอง ศรีสะเกษ สำหรับสถานการณ์ของโรคใบด่างมันสำปะหลัง ตามข้อมูล ณ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ยังคงเหลือพื้นที่ระบาด จำนวน 55,560.94 ไร่ ใน 11 จังหวัด และส่วนใหญ่สามารถควบคุมพื้นที่การระบาดได้  สำหรับพื้นที่ระบาด คิดเป็นร้อยละ 0.66 ของพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั้งประเทศ 8.43 ล้านไร่ และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการดำเนินงานโครงการป้องกันและกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลัง เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรคฯ ที่จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและภาคอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของประเทศไทยแล้ว

ขณะที่ทางกรมส่งเสริมการเกษตร ได้มีมาตรการควบคุมโรคใบด่างมันสำปะหลัง อย่างต่อเนื่อง ทั้งเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับแผนการขับเคลื่อนการปราบใบด่างมันสำปะหลัง ได้ วางไว้ 4 แนวทาง สำรวจ ชี้เป้า ทำลาย และชดเชย ซึ่งจะต้องทำ โดยรัดกุม พร้อมทั้งปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัด และการทำลาย จะต้องถูกต้อง ตามหลักวิชาการ ได้แก่ 1. วิธีฝังกลบ  โดยฝังกลบต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรค และต้นข้างเคียง 2. วิธีใส่ถุงหรือกระสอบ  โดยนำต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคตัดเป็นท่อนใส่มัดปากให้แน่นแล้วนำไปตากแดดไม่น้อยกว่า 7 วัน หรือจนกว่าต้นมันสำปะหลังจะตาย 3. วิธีบดสับ โดยนำต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคเข้าเครื่องบดป่นหรือเครื่องสับย่อยแล้วตากให้แห้ง เพื่อนำไปใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นอย่างเช่นทำปุ๋ย เป็นต้น

ทั้งนี้ ขอย้ำให้เกษตรกร และสั่งการเจ้าหน้าที่ให้ทุกพื้นที่ ที่พบการระบาด รวมถึงพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง ไม่ใช้ท่อนพันธุ์ ที่เป็นโรคซ้ำ เด็ดขาด และขอความร่วมมือ เจ้าหน้าที่เกษตรกร สร้างการรับรู้ให้เกษตรกร เฝ้าระวัง และ หมั่นสำรวจแปลงอยู่เสมอ เพื่อหยุดยั้งการระบาดของโรคให้ได้อย่างถาวร