การเมืองโคราชคึก! ชาติพัฒนากล้า เปิดป้ายที่ทำการใหม่พร้อมอนุสรณ์น้าชาติ ประกาศสู้ศึกเลือกตั้ง ชู สุวัจน์ แคนดิเดตนายกฯ
เมื่อเวลา 09.39น. วันนี้ (12 ต.ค.) ที่พรรคชาติพัฒนากล้า เลขที่ 2222 /2 ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลภ ประธานที่พรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค นายกรณ์ จาติกวณิช กรรมการบริหารพรรค และหัวหน้ายุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจของพรรคและกรรมการบริหารพรรคเช่น นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคฯ อดีต รมว.อุตสาหกรรม , นายวัชรพล โตมรศักดิ์ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า ส.ส.นครราชสีมา ได้ร่วมกันเปิดป้ายที่ทำการสำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนากล้า อย่างเป็นทางการและทำพิธีเปิดอนุสรณ์สถานพลเอกชาติชายชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ โดยมีประชาชนชาวนครราชสีมาเข้าร่วมพิธีกว่า 1,000 คน เพื่อร่วมกันรำลึกถึงคุณงามความดี ที่อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาทำไว้ให้กับตังหวัดนครราชสีมาและประเทศชาติ
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวภายหลังเสร็จพิธีว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวโคราชที่ตั้งใจมาหลายพันคนเพื่อร่วมในพิธีเปิดปฏิมากรรมรูปปั้นอนุสรณ์สถานพล.อ.ชาติชาติ ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีรวมทั้งเปิดป้ายสำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนากล้า และด้วยความน่ารักของแต่ละคนที่ไม่ได้มาด้วยมือเปล่าก็จะมีดอกไม้ติดมือมาจากบ้าน เตรียมมาเพื่อวางแสดงออกถึงความอาลัยรักที่มีต่อพล.อ.ชาติชาย อดีตนายกรัฐมนตรีขวัญใจชาวโคราชที่ได้สร้างคุณูปการผลงานยิ่งใหญ่จำนวนมากมายให้กับประเทศชาติและคนโคราช จากนี้ไปเรื่องความพร้อมสู่สนามเลือกตั้ง เรามีความพร้อมอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติเราเตรียมมานานแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร มีความชัดเจนการเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็พร้อมที่จะลงสู่สนามเลือกตั้ง การเลือกเปิดป้ายพรรคพร้อมกับการเปิดอนุสาวรีย์น้ำชาตินั้นมีนัยอะไรหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า อย่างน้อยวันนี้ท่านชาติชายฯก็คัมแบ็คแล้ว ท่านชาติชายฯคัมแบ็คกลับมาโคราช ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของลูกหลานของสมาชิกพรรคฯกล้าที่จะทำให้การคัมแบ็คเกิดขึ้นเต็มตัว เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เพื่อประโยชน์ของชาวโคราชเราก็ตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด ยิ่งวันนี้พล.อ.ชาติชายฯมาอยู่กับพวกเราที่นี่ก็มีกำลังใจและระลึกถึงท่านเสมอ สิ่งที่ท่านทำอะไรไว้ก็อยู่ในความทรงจำที่พวกเราต้องทำสิ่งดีๆอย่างที่ท่านชาติชายฯทำเอาไว้ให้ชาวโคราชตลอดไป ส่วนต้องได้เก้าอี้ ส.ส.ของพรรคชาติพัฒนามาเป็นพรรคฯกล้าแบบเดียวที่น้าชาติฯทำไว้นั้น ตนคิดว่าถ้าได้ก็ดี เพราะสมัยที่พล.อ.ชาติชายฯเป็นหัวหน้าพรรคฯ 16 เขตท่านได้มา 15 ส.ส. ส่วนตนจะได้เท่าไหร่ตนไม่ทราบตนก็จะทำให้ดีที่สุด ยิ่งวันนี้หลังจากเปิดอนุสรณ์สถานฯตนเชื่อว่าพวกเรามีกำลังใจแล้วที่จะทำงานให้ชาวโคราช
นายสุวัจน์ฯกล่าวว่า บวกกับนายกรณ์ จาติกวณิช , นายกอร์ปศักดิ์ฯ และทีมอดีตพรรคกล้ากว่า 80 คนมาร่วมงานด้วย เราก็ยินดี เพระวันนี้ปัญหาของบ้านเมืองคือเรื่องเศรษฐกิจ และนายกรณ์ฯถือว่าเป็นบุคลากรทางการเมือง เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจมีพื้นฐานมีประสบการณ์สูง ฉะนั้นการที่นายกรณ์ฯมาร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนากล้าตนถือว่าจะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพรรคฯและก็จะทำให้บทบาทของพรรคในการเข้าไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นวิกฤติขณะนี้ของพี่น้องประชาชนมีความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ส่วนจะมีการสนับสนุนคุณสุวัจน์ฯเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกัน เป็นไปตามปฏิทินการเมือง
ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช กรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ทีมสมาชิกอดีตพรรคกล้ามาร่วมกับพรรคชาติพัฒนาเป็นพรรคชาติพัฒนากล้ามากันครบหมดกว่า 80 คน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารของพรรค หรือว่าที่ผู้สมัครของพรรค ทุกคนมาที่พรรคชาติพัฒนากล้า อย่างที่นายสุวัจน์ฯพูดวันนนี้ความท้าทายของคนไทยวันนี้หนีไม่พ้นเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ และมั่นใจได้เลยว่าด้วยประสบการณ์ทางการเมือง และการบริหารหลายกระทรวงมาของนายสุวัจน์ฯเองและเพื่อนสมาชิกพรรคชาติพัฒนาเก่าสามารถที่จะรวมพลังกันเพื่อที่จะตอบโจทย์ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี ส่วนกระแสตอบรับสำนักโพลล์ต่างๆให้พรรคชาติพัฒนากล้าขึ้นอันดับมากนั้น ต้องบอกว่าสำหรับตนเป็นคนกรุงเทพฯวันนี้ได้มีโอกาสได้มาร่วมพิธีเปิดอนุสรณณ์สถานพล.อ.ชาติชายฯได้รับการตอบรับโดยพี่น้องประชาชนชาวโคราชอย่างอบอุ่น และได้ฟังเรื่องราวที่ประธานพรรคฯคือนายสุวัจน์ฯได้เล่าให้ฟังเกี่ยวกับประวัติชีวิตและผลงานการทำงานของพล.อ.ชาติชาย ทำให้ตนมีความรู้สึก 2 ความรู้สึก 1.ความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมเล็กๆ ในตำนาน และความรู้สึกว่า องค์กรหรือสถาบันที่มีคุณค่าต่อสังคมไทยมักจะมีองค์กรที่มีตำนานมีที่มาที่ไป ซึ่งวันนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าตัวชาติพัฒนาเองมีบทบาทสำคัญมีตำนานอย่างไร ไม่ใช่เพียงแค่ช่วยพัฒนาโคราช โดยเฉพาะยุคสมัยพล.อ.ชาติชายฯเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นยคุที่รุ่งเรืองจริงๆ ท่านขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีวันที่ 4 สิงหาคม 2538 ตอนนั้นตนเดินทางมาจากต่างประเทศเปิดตลาดหลักทรัพย์ตนอายุ 24 ปี หลังจากนั้นช่วง 1-2 ปีเป็นช่วงที่ทำมาค้าขายได้ดีมากที่สุด ช่วงที่เขาเรียกพวกเราว่า เป็นมนุษย์ทองคำ ภายใต้การบริหารจัดการของพล.อ.ชาติชายฯ นั้นคือเป้าหมายที่ตนกับนายสุวัจน์ฯนำบรรยากาศอย่างนั้นกลับคืนมาให้กับประเทศไทย และเอาบรรยากาศการมีความหวังและมีโอกาสกลับคืนมาให้คนรุ่นใหม่ ให้คนทำงานมีความรู้สึกว่าเขาสามารถที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตเขาและครอบครัวเขาได้ นี่คือแรงบันดาลใจที่ได้จากวันนี้ นั้นคือความตั้งใจของพรรคชาติพัฒนากล้า ส่วนการสนับสนุนนายสุวัจน์ฯเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น นายกรณ์ฯกล่าวว่า ต้องบอกว่าทำไมจะเป็นไปไม่ได้