29 March 2024


 MBACโคราชโต้ไม่เคยคิดปิดวิทยาลัย พอใจงบรัฐอุดหนุนยันเดินหน้า พัฒนาการศึกษาสู่สากลดันนศ.โกอินเตอร์

Post on: Mar 22, 2023
เปิดอ่าน: 370 ครั้ง

 

วิทยาลัยเทคโนโลยีมารีย์บริหารธุรกิจ หรือ MBACโคราชออกโรงโต้เดือดสื่อเสนอข้อมูลบิดเบือน ไม่เคยคิดปิดสถานศึกษาเหตุเพราะนักศึกษาน้อย  พร้อมเดินหน้าพัฒนาโรงเรียนให้ทุกยอมรับ ล่าสุดส่งนักศึกษาโกอินเตอร์ญี่ปุ่นแล้ว 30 คนย้ำยืนยันเดินหน้า พัฒนาการศึกษาสู่สากล 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าว “วิกฤตโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ ขาดงบประมาณ จ่อปิดตัว ลงหลายแห่ง ” ผ่านสื่อมวลชนช่องหนึ่งโดยใช้ภาพของทางวิทยาลัยฯ ประกอบข่าวและนำเสนอคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงของทางวิทยาลัยฯ ส่งผลให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดและเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียง ของวิทยาลัยฯ นั้น

ล่าสุดวันนี้ (22 มี.ค.) ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีมารีย์บริหารธุรกิจ  ชุมชนบ้านพักรถไฟ อ.เมือง จ.นครราชสีมา คณะผู้บริหารวิทยาลัยเทคโนโลยีมารีย์บริหารธุรกิจ นำโดย ดร.สมยศ ชิณโคตร ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีมารีย์บริหารธุรกิจ พร้อมด้วยนายสมเกียรติ ชินโคตร รอง ผอ.ฝ่ายแผนงานและความร่วมมือฯ และนายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีต ผอ.สำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(ผอ.สช.)ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเ เรื่องที่เกิดขึ้นว่า “วิทยาลัยเทคโนโลยีมารีย์บริหารธุรกิจ หรือ MBAC ยังคงมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง มีผลประกอบการและงบประมาณที่เพียงพอ สามารถพัฒนาการจัดการเรียนการสอนได้อย่างเต็มที่ โดยได้รับงบประมาณ เพื่อจัดการศึกษา จากภาครัฐ และ จากค่าเทอมของนักเรียน นักศึกษา ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียน นักศึกษาทั้งในระดับ ปวช. และ ปวส. จำนวน เกือบ 1,000 คน ซึ่งเพียงพอในการบริหารจัดการวิทยาลัยฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดร.สมยศ ชิณโคตร ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีฯ กล่าวว่า ภาพรวมสถานศึกษาเอกชนมีนักเรียนลดลงตนคิดว่าน่าจะเกิดจากเด็กเยาวชนมีอัตราการเกิดลดลงก็คือเด็กเกิดน้อย แต่ว่าโรงเรียนเอกชนทุกโรงก็พยายามที่จะพัฒนาตนเองให้มีคุณภาพ อย่างวิทยาลัยฯ ของเราก็ลดลงแต่ไม่มาก เรายังยืนยันว่าเราเป็นสถานศึกษาที่มีคุณภาพ เพราะเราเองได้รับรางวัลโรงเรียนพระราชทาน 3 ปีต่อเนื่องและรางวัลโล่พระราชทาน และยังเป็นสถานศึกษาคุณธรรมต้นแบบจากศูนย์คุณธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจ.นครราชสีมาอันนี้ถือเป็นการยืนยันว่าสถานศึกษาของเรามีคุณภาพ โดยใช้คุณธรรม จริยธรรมพัฒนานักเรียนลูกๆของเราที่เป็นเสมือนบุคคลในครอบครัวให้เป็นคนดี คนเก่งและพร้อมที่จะอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เราเปิดมาอย่างเข้าปีที่ 25 แล้วผลิตนักศึกษาไปแล้วกว่า 5,000 คนหรือ 23 รุ่น โดยให้ทุกคนมีส่วนร่วมรวมทั้งครู อาจารย์ บุคลากร และผู้ปกครองทุกคนมีส่วนร่วม โดยในปีนี้คาดว่าจะมีนักศึกษามาเรียนเพิ่มอีกกว่า 600 คน ส่วนกรณีที่เปิดข่าวนั้น ทางวิทยาลัยฯ ได้รับผลกระทบอย่างมาก แต่เราจะใช้วิกฤติให้เป็นโอกาสคือ การสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ปกครองและเด็ก ๆ โดยเรา0แสดงให้เห็นว่าสถานศึกษาของเราไม่เคยคิดจะหยุดการเรียนการสอน ไม่เคยคิดที่จะถอย เพราะเราจัดการการศึกษาตามเจตนารมณ์ของการจัดตั้งวิทยาลัยฯ ซึ่งขณะนี้มีนักศึกษาเรียนอยู่รวม 822 คน ลดลงจากปีที่แล้วไม่ถึง 20 คน และครู บุคลากรรวม 52 คน ที่นี่ครู อาจารย์ทุกคนมีคุณภาพ มีการพัฒนาเทคโนโลยี พัฒนาครู อาจารย์ พัฒนาอาคารสถานที่ ซึ่งเราได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลต่อปีกว่า 10 ล้านบาทซึ่งเพียงพอต่อการบริหารจัดการและพัฒนา เราพอใจในส่วนนี้ ขอยืนยันกับผู้ปกครองและนักเรียนนักศึกษาว่าวิทยาลัยฯของเราเดินหน้าจัดการศึกษาที่มีคุณภาพต่อไป ปีนี้จัดโควต้าให้กับนักเรียนนักศึกษาลูกๆของเราพร้อมจัดส่วนลดให้ อาทิ ปวช.ค่าเรียน 5,371 บาทเราให้ส่วนลดจ่ายแค่ 3,000 บาทเท่านั้นจนจบ ปวช. ส่วน ปวส.เทอมแรก 1,900 บาท เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง และเป้าหมายการส่งเสริมพัฒนาให้นักศึกษาทุกคนมีทักษะฝีมือและจบแล้วมีงานทำ เพื่อเป็นหลักประกันในเรื่องวิชาชีพให้กับพวกลูกๆของเรา ดร.สมยศ กล่าว.

ด้านนายสมเกียรติ ชินโคตร รอง ผอ.ฝ่ายแผนงานและความร่วมมือวิทยาลัยฯ กล่าวว หลักสูตรการเรียนการสอนของวิทยาลัยฯ จะเน้นให้นักเรียน นักศึกษา ได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง โดยนำนวัตกรร ทางการศึกษาสมัยใหม่ ตลอดจนเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะความชำนาญในวิชาชีพ รองรับโลกยุคใหม่ในอนาคต โดยเป้าหมายสำคัญที่กำลังจะดำเนินการคือ การพัฒนาทักษะใ นักเรียน นักศึกษา สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ 100% เพื่อรองรับการทำงานในต่างประเทศ ทั้งนี้ปัจจุบันท วิทยาลัยฯได้ลงนาม MOU กับโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นเซน จ.อุดรธานี รับนักเรียน นักศึกษา ที่จบการศึกษาไปทํางานที่ประเทศญี่ปุ่นทุกปีการศึกษา และยังมีความต้องการนักเรียน นักศึกษา ของเราอีกเป็นจำนวนมาก

ขณะที่นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารวิทยาลัยฯและอดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า วิทยาลัยฯ มีเป้าหมายส่งผู้สำเร็จการศึกษาไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นทุกปีการศึกษา โดยเฉพาะทางด้านอาหารและภาคการเกษตร จึงได้ลงนามความร่วมมือผลิตนักวิชาชีพกับทางวิทยาลัยฯ แห่งนี้ โดยหากนักเรียนผ่านคุณสม การประเมินทักษะวิชาชีพจากทางบริษัทฯ แล้ว ก็จะรับเข้าทำงานทันทีหลังจากสำเร็จการศึกษา นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการในอีกหลายๆ แห่งทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเลือกสถานประกอบการที่ตนเองสนใจเข้าทำงาน