18 April 2024


คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน! สุวัจน์สวมบทเชฟควงตะหลิวขั่วหมี่โคราช-ผัดกระเพราแจกชาวบ้านได้รับผลกระทบโควิด-19ผ่าน “ครัวหลวงพ่อ”

Post on: May 1, 2020
เปิดอ่าน: 473 ครั้ง

 

เชฟ “สุวัจน์” จับตะหลิวขั่วหมี่โคราชผัดกระเพราไข่ดาวเปิด “ครัวหลวงพ่อ”ประกอบอาหารแจกปชช.สู้โควิด-19 แนะคลายล็อกคู่ขนานแบบมีเงื่อนไข เพื่อสู้ 2 วิกฤตใหญ่ทั้งวิกฤตด้านสาธารณสุขและวิกฤตเศรษฐกิจติดลบทั้งโลก ชี้นับเป็นครั้งแรกกลับมาสู่โลกของยุคเศรษฐกิจถดถอยเหมือนสมัยสงครามโลก

วันนี้ ( 30 เม.ย. ) ที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนา เลขที่ 2222/2 ริมถนนมิตรภาพ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนาและ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการ“ ครัวหลวงพ่อ” ของศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 โดยมี นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล และ นายประเสริฐ บุญชัยสุข , นางเยาวภา บุรพลชัย หรือ น้องวิว และนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาร่วมกิจกรรม ร่วมประกอบอาหารแจกจ่ายให้ประชาชนคนยากจน ผู้ยากไร้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19


โดยครัวดังกล่าวมีที่มาจากโรงครัว (โรงบุญ) วัดบ้านไร่ ตำบลกุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นลูกศิษย์พระเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ จัดทำเป็นข้าวกล่องแจกจ่าย อาทิ ข้าวผัดหมูยอ น้ำพริกเผา-ไข่ดาว , ข้าวกะเพราะไก่-ไข่ดาว , ขั่วหมี่โคราช , ไอศกรีมมะพร้าวสด โดยมีประชาชน ผู้เดือดร้อน อุ้มลูกจูงหลานมาเข้าคิว นั่งรอเว้นระยะห่าง 2 เมตร เพื่อรับอาหารกว่า 300 คน
นายสุวัจน์ กล่าวว่า จ.นครราชสีมา นอกจากที่เราได้ดำเนินการจัดทำหน้ากากอนามัยผ้าทางเลือก พร้อมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือป้องกันโควิด-19 ประมาณวันละ 3,000 ชุด และพ่นย่าฆ่าเชื้อโควิด-19 วันละหมื่นตารางเมตร ทำมาได้กว่า 1 เดือน จนตอนนี้ประชาชนมีความต้องการมากขึ้น เราจึงมีกิจกรรมช่วยเหลือสังคมเพิ่มเติมคือด้านอาหาร ก็มีทางกลุ่มแม่บ้านวัดบ้านไร่ ลูกศิษย์หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ซึ่งช่วงโควิด-19 ทำให้ว่างงานกันเลยมาร่วมกันทำอาหารช่วยเหลือประชาชนชาว จ.นครราชสีมา ด้วการจัดตั้งโครงการ “ครัวหลวงพ่อ” ประกอบอาหารที่เป็นชื่อเสียงหรือสัญลักษณ์ของโคราช คือ ขั่วหมี่โคราช และอาหารประจำวันคือ ข้าวกะเพราไก่-ไข่ดาว โดยแจกทุกวันเวลา 11.00-14.00 น.


โดยทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมากำกับดูแล การกำหนดระยะห่างการรับแจกข้าวกล่องเป็นไปตามมาตรฐาน โดยแจกจ่ายวันละ 1,000 ชุด และจะมีการเพิ่มการผลิตอาหารข้าวกล่องมากขึ้นๆ ทุกวันให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นน้ำใจและเป็นการส่งกำลังใจถึงกันและกัน ฉะนั้นศูนย์ฯ ของเราถือว่าจะช่วยกันตอบสนองในการสร้างน้ำใจในกลุ่มคนไทยด้วยกัน เพื่อฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19

ส่วนการเยียวยาเงิน 5,000 บาท มีประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้รับ และหลายคนคิดสั้นฆ่าตัวตายนั้น ตอนนี้เท่าที่ดูมาตรการของรัฐบาลพยายามที่จะให้มากที่สุดเท่าที่จะคลอบคลุมได้ แต่เนื่องจากคนมากกว่า 20 ล้านคน บางทีอะไรที่เริ่มต้นใหม่ๆ อาจติดขัดปัญหาบ้าง ฉะนั้นเป็นเรื่องที่หน่วยงานต่างๆจะต้องรีบไปแก้ไข เพื่อให้คลอบคลุมและสะดวก สามารถรับเงินช่วยเหลือเงินจากทางรัฐบาลได้รวดเร็วขึ้น


ส่วนเงิน 1.9 ล้านล้านที่ใช้อะไรบ้างจะต้องชี้แจงทุก 3 เดือนหรือเปล่านั้น เนื่องจากการกู้เงินออกเป็นพระราชกำหนด วันที่เปิดสภาก็ต้องเข้าสู่ที่ประชุมสภา วันนั้นจะเป็นเวทีที่จะได้สอบถามกัน โดยฝ่ายค้านอาจจะถามรัฐบาลและรัฐบาลก็จะได้ใช้โอกาสนี้ในการที่จะชี้แจง ว่า 1.9 ล้านล้านบาทจะสามารถจะไปกอบกู้เศรษฐกิจ มีรายละเอียดการดำเนินการได้อย่างไร ฉะนั้นได้เกิดได้ชี้แจงทำความเข้าใจแล้วก็เชื่อว่าทุกคนจะเห็นแนวทางในการที่จะแก้ไขหรือเยียวยาพี่น้องประชาชนเวลาที่เราประสบปัญหาได้ ส่วนที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเชิญ 20 มหาเศรษฐีเมืองไทยไปหารือจะเรื่องอะไรและต้องชี้แจงความชัดเจนอะไรนั้น ตนคิดว่า ในมุมของลำพังเรื่องเงินรัฐบาลก็มีเรื่องของ พ.ร.ก.ที่ออกมาให้รัฐบาลมีเงินสามารถมาแก้ไขปัญหา แต่ว่าขณะนี้วิกฤติของประเทศมี 2 วิกฤติ ตนคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราประสบปัญหาอย่างรุนแรงและไม่ใลช่เป็นปัญหาระดับประเทศ แต่เป็นปัญหาระดับโลก และทุกประเทศได้รับผลกระทบเหมือนกันหมดก็คือมีทั้งวิกฤติด้านสาธารณสุขเป็นวิกฤติในเรื่องของโรคระบาดกับวิกฤติเรื่องเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปีหน้าเขาประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะติดลบหมดเลย เศรษฐกิจเอเชียก็จะติดลบ ประเทศไทยก็จะติดลบ ฉะนั้นจะเป็นครั้งแรกที่กลับมาสู่โลกของยุคเศรษฐกิจถดถอยเหมือนสมัยสงครามโลก ฉะนั้นวันนี้คนไทยตั้งสู้กับ 2 วิกฤติ วิกฤติในเรื่องของชีวิต ก็คือวิกฤติด้านสาธารณสุขคือ วิกฤติโควิด วิกฤติเรื่องของปากท้องคือวิกฤติเศรษฐกิจ ฉะนั้นตนเชื่อว่ารัฐบาลพายามที่จะแสวงหาแนวทางในการรับข้อคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ ฉะนั้นเรื่องเศรษฐกิจมันเป็นเรื่องที่ว่าถ้าเกิดเราได้รับข้อคิดเห็นจากนักธุรกิจใหญ่ๆที่มีเครือข่ายเศรษฐกิจที่คลอบคลุมทุกกลุ่ม ฉะนั้นรัฐบาลรัฐบาลคงอยากรับฟังความคิดเห็นของนักธุรกิจใหญ่ๆเขาจะมีข้อเสนอแนะอะไรมายังรัฐบาลเพื่อรัฐบาลจะได้รวบรวมและเป็นเจตนาที่อยากจะได้ข้อคิดเห็นแนวทางจากท่านเหล่านั้นซึ่งเป็นคนที่มีประสบการณ์ เพื่อให้มาตรการต่างๆของรัฐบาลออกมาใช้ในการรแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพ

นายสุวัจน์ กล่าวถึงเรื่องการคลายล็อค โดยมีการต่อไปถึง 30 พ.ค. 2563 ว่า การคลายล็อคขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของความคลี่คลายของการแพร่ระบาดของโควิด อย่างหลายประเทศตอนนี้ล็อคดาวกัน แต่พอปัญหาเรื่องโควิดคลี่คลายลง เขาก็จะเริ่มคลายล็อค เริ่มปลดล็อค เพราะเรื่องโควิดยิ่งยาวเท่าไหร่ความเสียหายทางเศรษฐกิจก็จะมาก ถ้าโควิดยิ่งสั้นความเสียหายทางเศรษฐกิจก็ยิ่งน้อย ฉะนั้นพอโควิดเริ่มคลี่คลายเขาก็จะเริ่มมีการปลอดล็อคในลักษณะคู่ขนาน เพื่อลดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจให้น้อยที่สุด ฉะนั้นขณะนี้เริ่มมีการพูดถึงว่า สถานการณ์ของประเทศถึงเวลาที่จะเริ่มปลดล็อคแล้วหรือยัง ซึ่งตนเชื่อว่าจากตัวเลขของผู้ที่ได้รับผลกระทบในการติดเชื้อที่ลดลงๆเรื่อยๆจนกระทั่งเหลือเลข 2 ตัวมาสองสามวัน อันนี้ตนถือว่าเป็นดัชนีที่ชี้วัดความพึงพอใจ และเมื่อตัวเลขดัชนีตัวนี้บอกว่าเราเริ่มเข้าสู่จุดที่เราถือว่าเราพึงพอใจแล้ว ฉะนั้นการที่จะคลายล็อคก็ถือว่าเป็นบรรยากาศที่มีความเหมาะสม เมื่อสถานการณ์โควิดดีขึ้น เราคืดว่าควบคุมระดับหนึ่งได้แล้ว ฉะนั้นพอเราคลายล็อคแล้วมันก็จะทำให้ลดแรงกดดันจากภาคเศรษฐกิจ ลดแรงกดดันจากทางสังคม เพราะบางทีเราให้ร่วมมือมือนานๆเราไม่ได้ปฏิบัติชีวิตเหมือนปรกติ บางทีก็มีแรงกดดันเกิดขึ้น ฉะนั้นการที่จะเริ่มคลายล็อตมันจะลดเพจเช่อร์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ลดเพจเช่อร์ทางด้านสังคม แต่ขณะเดียวกดันจะคลายล็อคแบบไหนที่จะไม่ให้ปัญหาโควิดกลับมา ฉะนั้นมาตรการการคลายล็อคก๋คงจะต้องมีมาตรการว่า จะคลายล็อคด้วยธุรกิจแบบไหน ด้วยสถานที่ไหน และมีมาตรการอะไรที่เจ้าของธุรกิจจะต้องดำเนินควบคู่ไปเพื่อป้องกันโควิดในการกลับมา หรือมาตรการอะไรที่ผู้บริโภคจะต้องปฏิบัติตาม ฉะนั้นจะเป็นการคลายล็อคแบบมีเงื่อนไขประกอบ เพื่อไม่ให้ตัวเลขของการติดเชื้อกลับมา ทุกอย่างจะต้องบริหารควบคู่กันไป ตนเห็นด้วยถ้าจะมีการคลายล็อคก็จะเป็นการส่งสัญญาณที่ดีว่า อย่างน้อยได้ให้กำลังใจกับประชาชน และเป็นการส่งสัญญาณว่าจากนี้ไปเราจะเริ่มฟื้นฟูเศรษฐกิจกันแล้ว เพราะเศรษฐกิจจะเริ่มกลับมา แต่ว่าต้องมีการวางมาตรการควบคู่กันไปว่า เริ่มมาฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการคลายล็อค แต่ว่าอะไรที่ยังเป็นมาตรการที่ทางคุณหมดยังแนะนำอยู่ที่จะต้องปฏิบัติควบคู่เราจะต้องมีความร่วมมือร่วมใจกันเหมือนเดิม เพื่อให้ทุกอย่างคู่ขนานและเราก็สามารถชนะทั้ง 2 สถานการณ์ ชนะเรื่องโควิดด้วย ชนะเรื่องเศรษฐกิจด้วย แต่จะเริ่มเมื่อไหร่ตนคิดว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังคงอยู่ระหว่างการตัดสินใจจากคณะแพทย์ต่างๆ

“ ส่วนการให้กำลังใจผู้ที่คิดสั้นตัดท้อน้อยอกน้อยใจ ผมคิดว่าพวกเราก็ต้องคอยใกล้ชิดกันระหว่างครอบครัว การเป็นกำลังใจให้กันและกัน ข้ามครอบครัว การมอบหน้ากาก ให้เจลล้างมือ มอบอาหาร ข้าวกล่อง เอาไปให้ถึงบ้าน ถุงน้ำใจเหล่านี้กำลังใจที่พวกเราส่งผ่านกันต่อๆไป มันจะลดแรงกดดันทางสังคม และจะแก้ไขปัญหาต่างๆได้ วันนี้น้ำใจของคนไทยจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการจะแก้ไขปัญหาทุกอย่าง “