16 April 2024


ต้องอย่างนี้สิ! เปิด “ดอนกระชาย โมเดล” โคราช ต้นแบบชุมชนชุบชีวิตใหม่ เยียวยาราษฎรบุกรุกที่ดินรัฐอย่างยั่งยืน(ชมคลิป)

Post on: May 1, 2018
เปิดอ่าน: 1,668 ครั้ง

ต้องให้ได้อย่างนี้ซิ! เปิด “ดอนกระชาย โมเดล” โคราช ต้นแบบชุมชนชุบชีวิตใหม่ เยียวยาราษฎรบุกรุกที่ดินรัฐอย่างยั่งยืน

ดอนกระชายโมเดล1

การบุกรุกพื้นที่รัฐเป็นปัญหาสำคัญระดับชาติของไทย ที่รัฐบาลทุกยุคสมัยพยายามแก้ไข โดยเฉพาะรัฐบาล  พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา  และปัญหาแต่ละแห่งแตกต่างกันไป มีทั้งราษฎรไม่เคยรู้ตัวมาก่อนว่าบุกรุกพื้นที่รัฐเพราะบรรพบุรุษทำกินสืบทอดกันมา และเป็นที่ดินเพียงผืนเดียวที่ใช้อยู่อาศัยและทำกินเลี้ยงคนในครอบครัว อีกทั้งไม่เคยมีหน่วยงานรัฐดำเนินการผลักดันออกจากพื้นที่มาก่อน

และอีกกลุ่มคือ ตั้งใจเข้าบุกรุกเพื่อนำมาเป็นของตัวเอง อาจด้วยความยากจน หรือ ทำเลที่ตั้งอันสวยงามและเห็นคนอื่นทำแล้วไม่มีปัญหาจึงเข้ายึดครอง จนกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยที่นับวันยิ่งสลับซับซ้อนและลุกลามไปทุกแห่งหน จนการแก้ปัญหากลายเป็นเรื่องยากและอ่อนไหวอย่างยิ่ง

ดอนกระชายโมเดล1-1 ดอนกระชายโมเดล1-2เช่นเดียวกับ “กลุ่มชาวบ้านหนองโบสถ์” หมู่ 16 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา  จำนวน 36 ครอบครัว ที่เข้าใจมาตลอด ว่า พื้นดินที่ตนเองอาศัยอยู่นั้น เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี( ครม.)  30 มิ.ย.2541  ที่ให้คนอยู่กับป่า จึงอาศัยทำกินยอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าครบุรี มาโดยตลอด กระทั่ง ปี 2558 ยุคการปกครองของรัฐบาลทหาร พล.อ.ประยุทธ์  จันโอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  ได้ประกาศยุทธการทวงคืนผืนป่า

ทำให้ราษฎรกลุ่มนี้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐ จับกุมดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ จำนวน 22 ราย ซึ่งล้วนเป็นชายฉกรรจ์หัวหน้าครอบครัว โดยศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก รายละ 7 ปี 6 เดือน และในชั้นศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษาจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา  จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ผลักดันราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ป่าออกไปทั้ง 36 ครอบครัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เด็ก และ คนชรา

 เมื่อราษฎรกลุ่มนี้ ไร้ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย  ทางจังหวัดนครราชสีมา จึงได้เข้าไปเยียวยา ช่วยเหลือด้วยการจัดสรรที่ดินทำกินให้ใหม่  โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาขณะนั้น ได้มอบหมายให้สำนักงานปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) จังหวัดนครราชสีมา ใช้เงินกองทุนปฏิรูปที่ดินกว่า 200 ล้านบาท ดำเนินการจัดซื้อที่ดินเนื้อที่  527 ไร่ ในพื้นที่ “หมู่บ้านดอนกระชาย หมู่ที่ 9 ”  ต.ครบุรีใต้  อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา

ดอนกระชายโมเดล1-3 ดอนกระชายโมเดล2มาดำเนินการจัดสรรที่ดินให้ราษฎรกลุ่มนี้เช่า เป็นรายปี ๆ ละ 105 บาทต่อไร่ โดยจัดสรรให้ครอบครัวละ 5 ไร่ แบ่งเป็นแปลงที่ดินสำหรับที่อยู่อาศัยรายละ 2 งาน สำหรับทำการเกษตรตามฤดูกาล รายละ 3 ไร่ 2 งาน และแปลงสำหรับปลูกผัก จำนวน 1 ไร่

พร้อมกันนี้ได้มีการจัดสรรที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวนี้ ให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนคนจนไว้ ซึ่งไม่มีที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกิน อีกจำนวน 90 ครัวเรือน เพื่อเข้ามาอยู่ร่วมกัน รวม 126 ครอบครัว

จากนั้นได้ให้ทางอำเภอครบุรี  เข้าไปดำเนินการออกเลขประจำบ้าน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลดำเนินการเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ เช่น ไฟฟ้า, น้ำประปา , ถนนใช้สัญจรเข้า-ออกหมู่บ้าน แก้ปัญหาการรับ-ส่งนักเรียน ซึ่งมีบุตรหลานเรียนอยู่ห่างไกลจากการย้ายที่อยู่ใหม่ และ ปัญหาเรื่องสุขภาพของประชาชน ได้ประสานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลครบุรี และ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เข้ามาตรวจสุขภาพอนามัยราษฎร เดือนละ 2 ครั้ง

ดอนกระชายโมเดล2-2 ดอนกระชายโมเดล2-3นอกจากนี้ทางจังหวัดฯ ยังส่งเสริมให้ราษฎรได้มีอาชีพเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว โดยมอบหมายให้ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา เข้าไปส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสุกรชีวภาพ (หมูหลุม) ซึ่งได้รับการสนับสนุนพันธุ์ลูกสุกร จากผู้ประกอบการเลี้ยงสุกรในจังหวัดนครราชสีมา นำไปมอบให้กับราษฎรจำนวน 36 ตัว  และทางอำเภอครบุรียังได้สร้างโรงเรือนเลี้ยงสุกรชีวภาพ (หมูหลุม)  โดยใช้งบประมาณจำนวน 80,000 บาท ให้แก่ราษฎรด้วย ขณะที่หน่วยงานด้านเกษตรได้สนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชผักต่างๆ ให้เกษตรกรได้นำไปเพาะปลูกในพื้นที่ที่ได้รับการจัดสรรจาก ส.ป.ก.

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  กล่าวว่า ที่ผ่านมาราษฎรที่ถูกผลักดันออกจากป่าและเข้ามาอยู่ใน “หมู่บ้านดอนกระชาย” หมู่ที่ 9   ต.ครบุรีใต้  อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งขึ้นใหม่  สภาพพื้นที่แห้งแล้งมาก และมีสภาพไม่พร้อมในด้านต่างๆ   ตนจึงให้หน่วยงานของรัฐทั้งทางอำเภอ ที่ดิน ปศุสัตว์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือในการจัดหาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ  และ ส่งเสริมอาชีพ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน

ดอนกระชายโมเดล3 ดอนกระชายโมเดล4จากการลงพื้นที่ 3 ครั้งหมู่บ้านดังกล่าวเดิมเป็นที่โล่งแห้งแล้งกันดาร ที่พักเป็นเพิงชั่วคราว มีกองวัสดุจากบ้านหลังเดิมถูกทิ้งไว้  จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า ผู้นำครอบครัวถูกจับกุมดำเนินคดีไม่มีคนสร้างบ้านให้  จึงต้องอยู่แบบนี้ ตนจึงประสานของบประมาณจากกองทุนยุติธรรมจังหวัด ในการประกันตัวราษฎรที่ถูกดำเนินคดีออกมา 9 ราย เพื่อให้ได้มีโอกาสมาดูแลครอบครัว มาสร้างที่พักให้กับสมาชิกในครอบครัว ขณะนี้การดำเนินคดีอยู่ในชั้นฎีกา แต่สิ่งที่ได้คือครอบครัวมีความอบอุ่นมากขึ้น อยู่พร้อมหน้า พ่อแม่ลูก ช่วยกันทำมาหากิน

มาวันนี้ หมู่บ้านใหม่แห่งนี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจและดีใจที่มีความก้าวหน้า อยากให้ประชาชนบ้านดอนกระชาย หมู่ที่ 9 รวมกลุ่มกันให้เข้มแข็ง การช่วยเหลือของทางราชการนั้น หวังที่จะให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน และถือเป็นหมู่บ้านต้นแบบในการช่วยเหลือจากหน่วยงานของส่วนราชการและประชาชนมีความร่วมมือที่จะสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็ง เพื่อบรรลุเป้าหมายของรัฐคือ ให้ประชาชนสามารถดูแลตัวเองได้

“ในอนาคตพื้นที่แห่งนี้จะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ของเกษตรกรจากที่อื่น ๆ ทั้งทางด้านเกษตร  พืชสวน พืชไร่ และปศุสัตว์ เพราะจากพื้นดินที่แห้งแล้งว่างเปล่าโล่ง ๆ ปลูกอะไรไม่ได้เลย มาวันนี้แตกต่างไปมาก จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ อย่างยิ่ง ” นายวิเชียร กล่าว

ดอนกระชายโมเดล5นอกจากนี้ทางจังหวัดยังนำโมเดลการแก้ไขปัญหาของราษฎรในบ้านดอนกระชาย ไปดำเนินการในพื้นที่อื่น ๆ ที่มีปัญหาลักษณะเดียวกัน เช่นที่ อ.ชุมพวง มีราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก หนองขี้แต้  และ อ.ปากช่อง มีราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการทวงคืนผืนป่า  ซึ่งจุดประสงค์หลักของการเยียวยาราษฎรคือให้ราษฎรมีความสุขและมีความรู้สึกที่ดีกับทางราชการ นายวิเชียร กล่าวในตอนท้าย

ดอนกระชายโมเดล6ด้าน นางจำปา  สายเครื่อง  อายุ 42 ปี แกนนำราษฎรบ้านดอนกระชาย หมู่ที่ 9 กล่าวว่า  วันนี้เหมือนได้ชีวิตใหม่ สามีที่อยู่ในเรือนจำ ได้รับการประกันตัวออกมาช่วยกันทำมาหากิน สร้างหมู่บ้านชุมชนที่เข้มแข็งร่วมกัน การช่วยเหลือของ นายวิเชียร  จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่อำนวยความสะดวกโดยสั่งการให้หน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือประชาชนนั้น นับเป็นการ คืนชีวิตที่มีความสุขกลับมาอีกครั้ง บนที่ดินผืนใหม่แห่งนี้ ซึ่งพวกเราขอปฏิญาณตนว่า จะมุ่งมั่นตั้งใจทำทุกอย่าง ทุกโครงการที่ท่านช่วยเหลืออย่างดีที่สุด

ดอนกระชายโมเดล7วันนี้ชุมชนจัดตั้งใหม่  “หมู่บ้านดอนกระชาย หมู่ที่ 9 ”  ที่เคยเป็นผืนดินโล่งว่างเปล่า แห้งแล้งกันดาร ห่างไกลความเจริญ กำลังกลายเป็นแผ่นดินทอง ที่ราษฎรใช้ชีวิตอย่างมีความสุข บนพื้นฐานแห่งความพอเพียง มีที่ดินทำกิน มีอาชีพมั่นคงยั่งยืน และอนาคตจะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ให้เกษตรกรจากทั่วสารทิศ ได้มาศึกษาต้นแบบการสร้างชุมชนชุบชีวิตใหม่ “ดอนกระชาย โมเดล” แห่งนี้

ดอนกระชายโมเดล8 ดอนกระชายโมเดล9 ดอนกระชายโมเดล10 ดอนกระชายโมเดล11 ดอนกระชายโมเดล12