28 March 2024


คอคาราโอเกะกดไลค์รัวๆ! ผลวิจัย วพบ.โคราชยัน “ร้องเพลง” เป็นประจำทำอายุยืนยาว

Post on: Sep 15, 2020
เปิดอ่าน: 560 ครั้ง

 

ทีมนักวิจัยวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีโคราชสุดยอด!  พัฒนาโปรแกรมการออกกำลังกายด้วยการร้องเพลง กับกลุ่มผู้สูวัย ชี้ทำให้ออกซิเจนเข้าปอดมากส่งผลให้สุขภาพดี แข็งแรง อายุยืนยาว ร้องแค่วันละ 40 นาทีติดต่อกัน 12 สัปดาห์จะเห็นผลลัพธ์อย่างมหัศจรรย์ ด้านผู้นำท้องถิ่นฯ เปิดโรงเรียนผู้สูงอายุให้นำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์กับผู้สูงอายุในชุมชน

นางหฤทัย  กงมหา  นักวิจัยและอาจารย์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา เปิดเผยว่า ปัญหาที่มักพบบ่อยกับกลุ่มผู้สูงอายุคือการหายใจเหนื่อยหอบและความทนต่อกิจกรรมทางกายลดลงเพราะรู้สึกเหนื่อยง่าย เป็นอาการแสดงต่อสมรรถภาพการทำหน้าของปอด เนื่องจากผู้สูงอายุจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างร่างกายที่มีผลต่อการหายใจ พบการโก่งและงอของกระดูกสันหลังระดับอก ทำให้ช่องอกมีปริมาตรลดลง และกระดูกอ่อนบริเวณรอยต่อระหว่างกระดูกซี่โครงกับกระดูกหน้าอกแข็งมากขึ้นเกิดการจำกัดต่อความยืดหยุ่นของทรวงอก ทำให้การขยายและยุบตัวของทรวงอกในขณะหายใจเข้าและหายใจออกลดลง การเปลี่ยนแปลงของร่างกายยังส่งผลให้ปริมาตรอากาศของการหายใจต่อครั้งลดลง ปริมาตรปอดลงลง การขยายทรวงอกลดลง การฝึกการหายใจแบบลึก เป็นการหายใจเข้าลึกทำให้เกิดแรงดันให้ปอดขยายเพิ่มขึ้น แล้วกลั้นหายใจไว้ในช่วงที่หายใจเข้าลึก สูดให้นานที่สุด จะส่งผลให้ปอดขยาย นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการขยายทรวงอก เพราะช่วยให้ข้อต่อมีการเคลื่อนไหวและเป็นการออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหายใจ ทำให้มีการขยายทรวงอกเพิ่มขึ้น การแลกเปลี่ยนก๊าซในปอดเพิ่มขึ้น

นางหฤทัย   กล่าวอีกว่า ทีมงานวิจัย  ได้นำวิธีการออกกำลังการด้วยการร้องเพลงประยุกต์การร้องตามรูปแบบการหายใจแบบลึก คือการหายใจเข้าลึก กลั้นลมหายใจนานจนไม่สามารถทนได้ จากนั้นเปล่งเสียงร้องเพลงตามเนื้อเพลงจนหมดลมหมายใจเนื่องจากการร้องเพลงเป็นนันทนาการอย่างหนึ่ง และ กิจกรรมที่ผู้สูงอายุให้ความสนใจ ร่วมมือในการทำกิจกรรม  ทีมงานวิจัยจึงมาจัดทำเป็น “โปรแกรมการออกกำลังกายด้วยการร้องเพลงต่อการขยายทรวงอกและปริมาตรปอดในผู้สูงอายุ”  เพื่อช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางด้านร่างกายในผู้อายุ ช่วยการขยายทรวงอกและปริมาตรปอดให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นผลการศึกษาจะเป็นแนวทางในการส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ  โดยจะต้องร้องเพลงฯ ตามโปรแกรมเป็นเวลา 40 นาทีต่อวัน  ทำ 3 วันต่อสัปดาห์ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 12 สัปดาห์หรือประมาณ 3 เดือนก็จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของการหายใจในผู้สูงอายุโดยจะพบว่าหายใจได้ยาวขึ้น

“เมื่อผู้สูงอายุหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปได้เต็มปอดก็จะส่งให้ระบบในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม และเป็นผู้สูงวัยที่อารมณ์ดี แจ่มใส สุขภพแข็งแรง อายุยืนยาว   ซึ่งในโปรแกรมนี้ ไม่ได้เน้นให้ผู้สูงอายุร้องเพลงเพราะ และไม่จำเป็นต้องร้องจบเพลง อาจจะร้องเฉพาะท่อนเพลงที่เราชอบ และออกเสียงได้ง่ายเน้นการนำออกซิเจนเข้าไปในปอดให้ได้มากที่สุด และนำเอาอากาศเสียออกจากปอดให้หมด ซึ่งโปรแกรมนี้นำไปใช้กับผู้สูงอายุในพื้นที่  ต.พังเทียม อ.คง และโรงเรียนผู้สูงอายุอีกหลายแห่งในจังหวัดนครราชสีมาเป็นผลชัดเจน และมีเป้าหมายที่จะให้ผู้สูงอายุในทุกพื้นที่นำไปใช้โดยทีมนักวิจัยได้สอนวิธีการตามโปรแกรมฯ ผ่านกลุ่ม อสม. ประธานชุมชน หมู่บ้าน และโรงเรียนผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาให้ได้มากที่สุด”

ด้านนายชัยศิริ  ศิริรุ่งสกุลวงษ์  นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบ้านโพธิ์  กล่าวว่า ในพื้นที่ ต.บ้านโพธิ์ มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากและเป็นกลุ่มที่จะลูกหลานจะให้เฝ้าบ้าน ทางเทศบาล ฯ จึงเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุขึ้น เพื่อให้เป็นพื้นที่ของกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนได้มาศึกษาเรียนรู้ เข้าสังคม และทำกิจกรรมร่วมกัน โดยประสานความร่วมมือกับทางองค์กรรัฐและเอกชนที่จะเข้ามาให้ความรู้ผู้สูงวัย เช่น วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ที่จะเข้ามาให้ความรู้ด้านวิชาการ หรือนำงานวิจัยมาใช้กับกลุ่มผู้สูงอายุได้ทำให้ผู้สูงอายุที่นี้มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี

ขณะที่ดร.พรฤดี  นิธิรัตน์    ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา เปิดเผยว่า  บทบาทของวิทยาลัยฯ มีทั้งเรื่องการเรียนการสอนและด้านการวิจัย โดยงานวิจัยจะมุ่งเน้นการนำไปใช้ได้จริง  เช่น งานวิจัยเกี่ยวกับกลุ่มผู้สูงอายุในเรื่องระบบการหายใจ เราต้องตอบให้ได้ว่า เรื่องที่เราวิจัยนี้เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แค่การไปสอนแล้วจบ แต่เรายังมีงานวิจัยมารอบรับก็จะเป็นตัวตอบว่าดีจริง ด้วยขบวนการทางวิทยาศาสตร์  ดังนั้นการที่เราจะนำงานวิจัยมาบอกกันแค่ในวิทยาลัยฯ หรือมาสอนนักเรียนเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ทางวิทยาลัยฯ จึงส่งเสริมว่าต้องนำไปใช้ให้ชุมชน ท้องถิ่นหรือส่วนราชการได้ใช้ประโยชน์ เช่นสถานสงเคราะห์คนชรา โรงเรียนผู้สูงวัย และตัวอย่างของความสำเร็จในงานวิจัยยังสามารถนำไปทำเป็นสื่อการเรียนการสอนและส่งไปยังวิทยาลัยพยาบาลอื่น ๆ ได้ด้วย ถือเป็นการแบ่งปันทรัพยากร ไม่ต้องทำงานวิจัยทุกที่  เพราะงานวิจัยไม่ได้อยู่บนหิ้งแต่เราสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง หรือปัจจุบันสามารถนำไปสู่ห้างฯ ก็มีเพราะงานวิจัยบางอย่างสามารถต่อยอดไปทำนวัตกรรมได้ด้วย ซึ่งทางวิทยาลัยก็ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เช่นกัน

ติดต่อทีมงานนักวิจัย ได้ที่ อาจารย์ ดร.วิไลพร รังควัต โทร 090-2503826  อาจารย์ประทุ่ม กงมหา โทร 081-0511646  อาจารย์หฤทัย กงมหา  โทร 087-2442855