by

ไม่จบง่าย !รถไฟทางคู่ช่วงผ่านเมืองโคราชยังหาข้อยุติไม่ได้ รฟท.จัดเวทีถกนัดสุดท้ายชาวโคราชยังมีความคิดต่าง ด้านนายกเล็กฟันธงขอให้ทุบสะพานสีมาธานีอย่างเดียวเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเมือง ขณะชาวบ้านอีกส่วนขอให้ยกข้ามสะพานโดยไม่ต้องทุบทิ้งชี้ไม่กระทบจราจรช่วงที่มีการก่อสร้าง

วันนี้(24 ต.ค.)ที่โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา  นายวิเชียร  จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 3 (ปัจฉิมนิเทศโครงการ) งานจ้างปรับแบบรายละเอียดบริเวณอำเภอสีคิ้วและตัวเมือง นครราชสีมา ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 2 คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ โดยมีนายสุรวุฒิ  เชิดชัย นายกเทศมนตรีนคร (ทน.) นครราชสีมา ในฐานะผู้แทนชาวโคราช หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ผู้นำชุมชนและประชาชนกว่า 250 คน เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงข้อมูลผลการศึกษางานปรับแบบ ฯ และเสนอความเห็นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายจุลพงษ์  จุลานนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. ได้ดำเนินการตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 ให้ก่อสร้างโครงการ ฯ เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์ โดยมีรูปแบบช่วงผ่านเขตอำเภอสีคิ้วและเมือง นครราชสีมา เป็นทางรถไฟยกระดับ ต่อมานายวิเชียร ฯ ผวจ.นครราชสีมา และผู้แทนทุกภาคส่วน ได้เรียกร้องให้ปรับรูปแบบก่อสร้างพิจารณาทบทวนรูปแบบโครงการ ฯ ให้สร้างทางรถไฟยกระดับ โดยให้เหตุผลไม่ต้องการแบ่งแยกชุมชนเป็นสองฝั่งและข้อกังวลต่อการจราจรในอนาคตรวมทั้งการระบายน้ำลงคลองสาธารณะ ภายหลังการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21-22 สิงหาคม 2560 พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ตอบรับความต้องการพร้อมนำเข้าสู่วาระพิจารณาเร่งด่วน โดย ครม. เห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมและ รฟท. แก้ไขรูปแบบการก่อสร้างบางช่วงให้เป็นทางรถไฟยกระดับและบางช่วงเป็นคันทางสูงให้รถยนต์ลอดข้าม ในวงเงินงบประมาณ 3.5 พันล้านบาท ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้านกายภาพ การใช้ประโยชน์ของพื้นที่และต้นทุนค่าก่อสร้าง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของทุกภาคส่วน รวมทั้งให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟ โดยเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมไปสู่ศูนย์กลางเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 1 กรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับแก้ไขแบบและเริ่มก่อสร้างบางช่วงทั้งนี้ รฟท. ได้ตระหนักถึงความสำคัญของกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน จะช่วยให้การศึกษาและพัฒนาโครงการมีความรอบครอบ โปร่งใสและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การชี้แจงผลการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ อาจมีบางส่วนได้รับผลกระทบและเกิดความไม่พอใจ จึงมิใช่ข้อสรุปที่จะดำเนินการตามรูปแบบที่ศึกษา แต่บริษัทที่ปรึกษาจะประมวลข้อมูลทั้งหมด เสนอต่อ รฟท. และกระทรวงคมนาคม ให้พิจารณาตามความเหมาะสมและให้เกิดผลกระทบต่อสังคมเมืองน้อยที่สุด เพื่อให้วินวินทุกฝ่าย

นายจารุวัฒน์  แสงอ่อน วิศวกรที่ปรึกษาโครงการ ฯ กล่าวว่า ผลการศึกษาที่ดำเนินการอย่างรอบด้านและมีผลกระทบน้อยที่สุด เป็นรูปแบบไม่รื้อถอนสะพานโรงแรมสีมาธานี เริ่มก่อสร้างทางรถไฟยกระดับ เมื่อผ่านหน้าผับตะวันแดงสาดแสงเดือนโคราช และทำทางเบี่ยงถนนสืบสิริ จากนั้นเป็นทางรถไฟยกระดับความสูงกว่า 5 เมตร สิ้นสุดที่สถานีรถไฟชุมทางถนนจิระ ซึ่งต้องเลื่อนที่ตั้งออกจากจุดเดิมประมาณ 160 เมตร ไปทางด้านทิศตะวันออกและปรับเป็นสถานที่ซ่อมบำรุงเบื้องต้นและเติมน้ำมันเชื้อเพลิงแทนสถานีรถไฟนครราชสีมา รวมระยะทางทั้งสิ้น 3.7 กิโลเมตร ส่วนจุดตัดทางรถไฟเป็นถนนทางลอดสูง 3 เมตร 8 จุด และสูง 5 เมตร 6 จุด ภาพรวมสามารถประหยัดงบประมาณ 1,336 ล้านบาท หากรื้อถอนสะพานโรงแรมสีมาธานี จะเกิดจุดตัดทางรถไฟบนถนนมิตรภาพ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 144 เป็นระดับเดียวกันและต้องสร้างสะพานกลับรถ 2 ตัว การเปลี่ยนแปลงเส้นทางเข้าสู่ตัวเมืองในวันปกติจะมีจำนวนรถยนต์สัญจรผ่านเฉลี่ย 118,000 คัน ส่งผลให้รถติดสะสมการดำเนินชีวิตความเป็นอยู่ในระหว่างก่อสร้างประมาณ 30 เดือนและต้องบริหารจัดการจราจรโดยใช้สัญญาณไฟรวมทั้งผู้ใช้ทางอาจเกิดความสับสนก่อให้เกิดอันตราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเปิดรับฟังความคิดเห็น เมื่อผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย ทั้งที่ต้องการให้ทุบสะพานสีมาธานีแม้ว่าจะต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นแต่ก็คุ้มค่าและจะทำให้ทางรถไฟช่วงผ่านตัวเมืองยกระดับตลอด5.1กม.จนถึงสถานี แต่ก็ยังมีประชาชนบางส่วนที่ต้องการให้ยกข้ามสะพานสีมาธานีโดยไม่ต้องทุบสะพานเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจราจรในช่วงระหว่างการก่อสร้าง โดยที่ประชุมยังหาข้อยุติร่วมกันไม่ได้

ด้านนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา กล่าวว่า เทศบาลฯยังยืนยันที่จะให้ทุบสะพานสีมาธานีแม้ว่าจะต้องเพิ่มงบประมาณอีกกว่า1,000  บาทก็ตามแต่เชื่อว่า รฟท. ก็มีงบสามารถดำเนินการได้ เพราะจะทำให้เมืองมีการขยายตัวได้อีกโครงการต่างๆที่จะรองรับอนาคตก็สามารถดำเนินการได้เช่นการสร้างถนนเชื่อมเส้นทางอื่น เป็นต้น จึงขอฝากให้ผู้เกี่ยวข้องและผู้มีอำนาจในการพิจารณา ให้ความสำคัญและรับฟังผลกระทบชีวิตความเป็นอยู่อย่างรอบด้าน การทุบสะพานอาจมีผลกระทบในการสัญจรและการใช้ชีวิตประจำวันบ้าง เชื่อว่าชาวโคราชรับได้ หากไม่ทุบก็มีผลชั่วลูกชั่วหลาน นายสุรวุฒิ กล่าว