by

อลังการพิธีเปิดงานเกษตรสุรนารี’ 62 แสดงนวัตกรรมเกษตรและอาหาร ครั้งยิ่งใหญ่ในภาคอีสานพร้อมลงนามความร่วมมือ อนุญาตให้ใช้สิทธิ และถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ผู้ประกอบการ

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานเปิดงานเกษตรสุรนารี’ 62 Northeastern Food Innovation Fair 2019จัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่อลังการกว่าทุกปี เพื่อเกษตรไทย 4.0พร้อมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และบริษัท อาหารเสริม จำกัด ในเครือบริษัท ไทยเบจเวอเรจ จำกัดรวมถึงพิธีลงนามการอนุญาตให้ใช้สิทธิและถ่ายทอดเทคโนโลยีผลงานวิจัยนวัตกรรมสู่ผู้ประกอบการภาคเอกชน

นายวิเชียร  จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “งานเกษตรสุรนารี ประจำปี 2562” ที่จัดขึ้นนี้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และจังหวัดนครราชสีมาพร้อมด้วยหน่วยงานจากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวโคราชและภาคอีสานได้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญทางวิชาการของมหาวิทยาลัย ในการนำผลงานวิจัย มาปรับแปลงและถ่ายทอดเพื่อให้บริการวิชาการแก่ชุมชนและสังคม และแสดงศักยภาพความพร้อมในการเป็นเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือการจัดงานเกษตรสุรนารีที่ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 13 ถือเป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมประจำปีของจังหวัดนครราชสีมา โดยกิจกรรมต่าง ๆภายในงาน ได้ก่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงต่อเกษตรกรทุกระดับ และประชาชนทั่วไปถือเป็นมิติสำคัญในการเกื้อกูลให้เกิดความเข้มแข็งในสังคมทั้งนี้

รองศาสตราจารย์ ดร. วีระพงษ์ แพสุวรรณ อธิการบดี มทส. เผยถึงแนวคิดการจัดงานเกษตรสุรนารี’62 ในปีนี้ว่า “งานเกษตรสุรนารี” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 20 มกราคม 2562 ณ เทคโนธานี มทส. ถือเป็นช่องทางหนึ่งในการเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร และนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาวเกษตรกร ผู้ประกอบการด้านการเกษตร และประชาชนที่สนใจการจัดงานครั้งนี้เป็นการแสดงถึงเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัย ในการมีส่วนร่วมบูรณาการ เคียงคู่สังคมโดยนำทรัพยากรของมหาวิทยาลัยอันประกอบไปด้วย องค์ความรู้ บุคลากร เทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างสรรค์ต่อยอดองค์ความรู้และพัฒนาทรัพยากรท้องถิ่นให้มีมูลค่าและความยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์การบริหารงาน “SUT Re-profile 2020”ที่มุ่งสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการ การปรับแปลง ถ่ายทอด และพัฒนาเทคโนโลยีที่มีผลกระทบต่อสังคมเชิงพาณิชย์มีจุดมุ่งหมายสู่ “วิสาหกิจเพื่อสังคม” (SUT as a Social Enterprise) การทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมโดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมกับองค์ความรู้และภูมิปัญญาชาวบ้าน