by

(ประมวลภาพ) “ลุงตู่”เยือนถิ่นย่าโม ลอดซุ้มประตูเมืองเอาฤกษ์ดี  สวมบทสารถีปั่นสามล้อนำคณะ สักการะศาลหลักเมือง  ท่ามกลางกองเชียร์ส่งเสียงตะโกน “ลุงตู่สู้ๆ”ลุงตู่อยู่ไปยาวๆ 

วันนี้( 13 มีนาคม 2562) เวลา 14.00 น. พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. พร้อมด้วย พลเอกฉัตรชัย  สาริกัลลยะ รองนายกรัฐมนตรี , พลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย , นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ , นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม , นายสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และพล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ากราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) ถนนราชดำเนิน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา พร้อมปิดแผ่นทององค์อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองโคราช เพื่อสักการะขอพรความเป็นสิริมงคล ทักทายพี่น้องประชาชนที่มารอต้อนรับอย่างอารมณ์ดี โดยยกมือโบกไปมา ทักทาย และชูนิ้วมือแสดงสัญลักษณ์ ไอเลิฟยู   จากนั้นได้เดินไปนั่งฟังเพลงโคราชโดยศิลปินพื้นบ้าน “คณะบุญสม สังข์สุข” ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ร่วมขับร้องเพลงโคราชตามไปด้วย ก่อนมอบรางวัลให้ โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อมพี่น้องประชาชนชาวจ.นครราชสีมาหลายร้อยคนยืนตั้งแถวสองแถวให้การต้อนรับจำนวนมากมีเสียงตะโกนดังลั่นไปทั่วว่า “ลุงตู่สู้ๆๆๆ ” “ ลุงตู่…อยู่ไปยาวๆ “ ตลอดเวลาพร้อมมอบดอกกุหลาบและพวงมาลัยดอกดาวเรือง ก่อนจะเดินลอดไปซุ้มประตูชุมพล หรือประตูเมือง เนื่องจากโบราณเชื่อว่าหากได้บนบานแล้วสิ่งที่ขอหรือต้องการแล้วเดินลอดซุ้มประตูแห่งนี้ก็จะได้ในสิ่งที่สมความปรารถนา

จากนั้นได้ขึ้นปั่นรถสามล้อถีบคันแรกที่มีนายจ่อม กิตติสกธ์ อายุ 67 ปี ชาวชุมชนเบญจรงค์ ซอย 2 ที่ยึดอาชีพปั่นสามล้อรับจ้างมากว่า 20 ปีเป็นเจ้าของ หมายเลขทะเบียนรถสามล้อ 08960 โดยนายกรัฐมนตรีขอเป็นสารถีปั่นสามล้อด้วยตัวเอง แต่ไปได้แค่ 10 เมตรก็บังคับแฮนด์ไม่ได้ และหาเบรกล้อไม่เจอ เนื่องจากไม่ถนัด จากนั้นได้ให้สารถีปั่นไปยังศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ตนเองขอเป็นคนนั่งกับเด็กผู้หญิง โดยตลอดเส้นทางได้โบกไม้โบกมือทักทายบรรดาพ่อค้าแม่ค้าผู้ประกอบการร้านค้าใจกลางเมืองย่านเศรษฐกิจอย่างอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ระยะทาง 500 เมตร เพื่อสักการะกราบไหว้ ขอพรศาลหลักเมือง ที่บริเวณหัวมุมสี่แยกไฟแดง ถนนจอมพล โดยใช้เวลา 20 นาทีพร้อมกับทักทายพี่น้องประชาชนอย่างเป็นกันเอง

ต่อมาคณะของนายกรัฐมนตรีได้เดินทางด้วยรถตู้สีขาว โตโยต้าอัลพาด หมายเลขทะเบียน ขฉ – 9999 นครราชสีมาไปตรวจสถานีรถไฟนครราชสีมา โดยนายกรัฐมนตรีได้ลดกระจกลงโบกมือทายกับชาวจ.นครราชสีมาที่มารอให้การต้อนรับ พร้อมชูสัญลักษณ์ ไอเลิฟยู และ 2 นิ้ว ทักทายกับผู้ใช้รถใช้ถนน ส่งรอยยิ้มตลอดเส้นทาง ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอกภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองอย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้พื้นที่ศาลากลางจังหวัดฯคือ ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดและยังมีศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้าที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี(มทส.) เพื่อไว้รองรับประชาชนที่จะมายื่นเรื่องร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรี

จากนั้นคณะของนายกรัฐมนตรีได้เดินทางต่อไปยังหอประชุมอาคารสุรพัฒน์ 2  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี(มทส.) เพื่อเป็นประธานเปิดงาน One transport for all : ระบบคมนาคมหนึ่งเดียว เพื่อประชาชนทุกคน โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมานำหัวหน้าส่วนราชการร่วมต้อนรับ มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ และเป็นประธานสักขีพยานในพิธีมอบหนังสืออนุญาติให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศรัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติและหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชน จากนั้นเดินทางไปตรวจพื้นที่โครงการมอเตอร์เวย์ บริเวณปลายเส้นทางและจุดขึ้นถนนมอเตอร์เวย์ จุดตัดถนนบายพาสเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยความเรียบร้อย