สุดแสนรันทด ! พ่อวัย 96 ปี ถูกทอดทิ้งอย่างอนาถา ล้มป่วยไร้คนเหลียวแล อาศัยกินนอนอยู่วัดมาตลอดชีวิต ซ้ำร้ายป่วยหนัก หูหนวก ทั้งชีวิตไม่เคยมีแม้กระทั่งบัตรประชาชนจึงไม่ได้รับการดูแลจากหน่วยงานรัฐ เศร้าใจมีลูกเมียหลายคนแต่ไม่มีใครมาดูแล ขี้เยี่ยวในกุฏิร้างกระทั่งหน่วยกู้ภัยนำส่งรักษาที่ รพ.คงโคราช
วันนี้ (3 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครราชสีมา ว่า ได้รับแจ้งจากชมรมรื่นจิตอาสานครราชสีมาว่า มีชายชราวัย 96 ปีหูหนวก ถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างอนาถาในกุฏิร้างของวัดแห่งหนึ่ง ใน อ.คง จ.นครราชสีมา ป่วยหนักไร้คนเหลียวแล ซ้ำยังไม่เคยมเอกสารทางราชการบัตรประจำตัวประชาชนไม่มี ยืนยัน เพื่อรับเบี้ยยังชีพและการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยเดินทางไปที่ หอผู้ป่วยชาย รพ.คง อ.คง จ.นครราชสีมา เตียงผู้ป่วยที่ 12 ด้านในสุดของห้องผู้ป่วยพบนายจันทร์ ชัยชนะ อายุ 96 ปี นอนป่วยอยู่บนเตียง สภาพผอมโซ ลืมตาได้เล็กน้อย และรับรู้เมื่อมีคนมาเยี่ยม แพทย์ระบุว่า นายจันทร์ ป่วยด้วยโรคหัวใจโต ปอดอักเสบ และโลหิตจาง โดยนายจันทร์หูหนวก ทั้ง 2 ข้างจึงสื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่อง ขณะนี้มีสภาพอ่อนแรงเนื่องจากชรามาก ทางโรงพยาบาลพยายามค้นหาเอกสารหลักฐานต่างๆ แต่ไม่พบเนื่องจากนายจันทร์ไม่มีญาติมาเยี่ยม และถูกส่งรักษาโดยกลุ่มอาสาสมัครชมรมรื่นจิตรอาสา และที่สำคัญนายจันทร์ไม่มีเอกสารหลักฐานใด ๆ ติดตัวมาเลย ทางโรงพยาบาลรับไว้เป็นผู้ป่วยอนาถาและดูแลไปก่อนจนกว่าจะมีญาติหรือผู้อุปการะมารับตัวไป
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดูที่พักอาศัยของนายจันทร์ ภายในวัดบ้านหนองบัวโคก ต.เทพาลัย อ.คง จ.นครราชสีมา ซึ่งสภาพเก่าทรุดโทรมเป็นกุฏิร้างของพระสงฆ์มีเพียงแคร่ 1 อันทำเป็นเตียงนอนอยู่ในห้อง ไม่มีทรัพย์สินใด ๆ เลย แม้แต่ตู้เสื้อผ้า สภาพห้องสกปรกและมีกลิ่นเหม็นมากเนื่องจากช่วงที่ป่วยนายจันทร์ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จึงกินนอนและถ่ายของเสียทั้งปัสสาวะและอุจจาระในห้องนอนดังกล่าว
จากการสอบถามนายบุญส่ง หอมจันทร์ อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองบัวโคก ม. 7 ต.เทพาลัย อ.คง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า รู้จักกับนายจันทร์มานานกว่า 10 ปี ก่อนหน้านี้นายจันทร์เคยบวชเป็นพระที่วัดแห่งนี้จากนั้นได้ธุดงค์ไปจำวัดที่อื่นอยู่หลายปีและกลับมาจำวัดที่วัดบ้านหนองบัวโคก แต่เนื่องจากช่วงหลังนายจันทร์ หูหนวกสวดมนต์ไม่ทันพระรูปอื่นจึงลาสิขาบท แต่ไม่ไปไหนขออยู่ที่วัดทางวัดจึงจัดให้อยู่กุฎิเก่าของพระ ซึ่งนายจันทร์พยายามหารายได้เลี้ยงตัวเองด้วยการทำเครื่องจักสานไปขายให้ชาวบ้าน หรือบางครั้งก็มีชาวบ้านมาสั่งให้ทำ และนานมาแล้วมีภรรยาของนายจันทร์เดินทางมาเยี่ยมประมาณ 1-2 ครั้งจากนั้นก็หายไปเลยไม่มีใครรู้จักและไม่สามารถติดต่อได้ ตนเองเคยสอบถามนายจันทร์ว่าเคยมีเมียมีลูกไหม นายจันทร์บอกว่าเคยมี และมีลูกหลายคน แต่จากการสังเกตก็ไม่เคยเห็นลูกมาเยี่ยมนายจันทร์เลย
กระทั่งมาช่วงกลางปีนี้ นายจันทร์ เกิดล้มป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ชาวบ้านที่ไปวัดก็จะนำอาหารก้นบาตรพระมาให้กินประทังชีวิต แต่นายจันทร์ช่วยตัวเองไม่ได้ นอนซมอยู่ในห้อง อุจจาระปัสสาวะก็อยู่ในห้องนอน เพราะไม่มีคนเหลียวแล กระทั่งมีอาสากู้ภัยของชมรมรื่นจิตมาพบจึงนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลคง กลับมาค้นหาเอกสารที่จะนำไปให้ทางโรงพยาบาลแต่ไม่พบเอกสารหลักฐานใด ๆ ของนายจันทร์ เลย
ด้านนายพัลลภ สิงห์ทอง นายอำเภอคง เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมอาการของนายจันทร์ ว่า รู้สึกสงสาร เพราะเป็นบุคคลที่อยู่นอกระบบไม่เคยได้รับการช่วยเหลือด้านสวัสดิการจากภาครัฐ ทางอำเภอจะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในทะเบียนประวัติว่ามีชื่อของนายจันทร์ ชัยชนะอยู่ในพื้นที่ อ.คง จ.นครราชสีมาหรือไม่ หากไม่พบก็จะดำเนินการทำเอกสารให้เพื่อให้เป็นคนไทยที่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป