24 April 2024


เตรียมกล้องให้พร้อม! รอถ่ายภาพจันทร์เต็มดวงใหญ่ที่สุดในรอบปี“ซูเปอร์ฟูลมูน” 27 เมษายนนี้

Post on: Apr 23, 2021
เปิดอ่าน: 491 ครั้ง

 

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แนะเทคนิคเก็บภาพความประทับใจ “ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี” คืน 27 เมษายน 2564

นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ หัวหน้างานบริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สดร. เผยว่า วันอังคารที่ 27 เมษายน 2564 จะเกิดปรากฏการณ์ “ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี” หรือ “ซูเปอร์ฟูลมูน” ห่างจากโลกประมาณ 357,370 กิโลเมตร คืนดังกล่าวดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย เมื่อเทียบกับดวงจันทร์เต็มดวงขณะไกลโลกที่สุดในรอบปีแล้ว อาจมีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่าถึง 14 เปอร์เซ็นต์ และอาจสว่างเพิ่มขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นผลจากการที่ดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากขึ้น ขนาดปรากฏใหญ่ขึ้น จึงมองเห็นสว่างยิ่งขึ้น เหมาะแก่การถ่ายภาพดวงจันทร์ โดยเฉพาะภาพเปรียบเทียบขนาดกับวัตถุบริเวณขอบฟ้า

ในแต่ละเดือน ดวงจันทร์โคจรรอบโลกเป็นวงรี ทำให้ระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์ไม่คงที่ อยู่ใกล้โลกและไกลโลกสลับกันไป นักดาราศาสตร์เรียกตำแหน่งที่ดวงจันทร์ใกล้โลกที่สุดเรียกว่า เปริจี (Perigee) มีระยะทางเฉลี่ยประมาณ 356,400 กิโลเมตร และตำแหน่งที่ไกลโลกที่สุดเรียกว่า อะโปจี (Apogee) มีระยะทางเฉลี่ยประมาณ 406,700 กิโลเมตร ส่วนคำว่า “ซูเปอร์ฟูลมูน” เป็นเพียงการตั้งชื่อช่วงเหตุการณ์ที่ “สามารถเห็นดวงจันทร์เต็มดวง ในตำแหน่งที่ใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี” เท่านั้น ไม่ได้เป็นชื่อในทางวิทยาศาสตร์

นายศุภฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คืนวันที่ 27 เมษายน 2564 ดวงจันทร์เต็มดวงจะขึ้นทางทิศตะวันออก สังเกตได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 19:00 น. เป็นต้นไป ปรากฏบนท้องฟ้าตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า ผู้สนใจเก็บภาพความประทับใจสามารถเตรียมตัวถ่ายภาพด้วยหลักการเบื้องต้น ดังนี้

  1. ใช้เลนส์เทเลโฟโต้ความยาวโฟกัสตั้งแต่ 300 มม. ขึ้นไป เพื่อให้ได้ภาพดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่ ยิ่งถ่ายภาพผ่านกล้องโทรทรรศน์ที่มีความยาวโฟกัสสูง จะยิ่งได้ภาพดวงจันทร์ขนาดใหญ่และมีรายละเอียดที่ดีกว่า
  2. ใช้ค่าความไวแสง (ISO) ตั้งแต่ 400 ขึ้นไป เนื่องจากดวงจันทร์ในช่วงเต็มดวงจะมีความเข้มแสงมากอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ค่าความไวแสงสูงๆ แต่การใช้ค่าความไวแสงสูง จะทำให้ได้ความเร็วชัตเตอร์ที่สูงขึ้นด้วย ช่วยทำให้ภาพไม่สั่นไหว
  3. การปรับโฟกัสภาพ แนะนำใช้ระบบ Live View บนจอหลังกล้อง เลือกโฟกัสบริเวณหลุมอุกกาบาตบนผิวดวงจันทร์ จะช่วยให้สามารถโฟกัสได้คมชัดและง่ายมากที่สุด
  4. ปรับชดเชยแสงไม่ให้สว่างหรือมืดจนเกินไป อาจทดลองถ่ายภาพแล้วตรวจสอบภาพดูว่าเห็นรายละเอียดของหลุมบนดวงจันทร์ชัดเจนหรือไม่
  5. ใช้โหมดการถ่ายภาพแบบแมนนวล (M) เนื่องจากสามารถปรับการตั้งค่าได้ทั้งรูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ได้สะดวก
  6. ความเร็วชัตเตอร์ ควรสัมพันธ์กับทางยาวโฟกัสของเลนส์ที่ใช้ เช่น หากใช้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัส 600 มม. ควรใช้ความเร็วชัตเตอร์ไม่ต่ำกว่า 1/600 วินาที หากภาพที่ถ่ายออกมามืดเกินไปให้เพิ่มค่าความไวแสง (ISO) ขึ้นจนได้แสงที่พอดี
  7. รูรับแสง เลือกใช้ในช่วงประมาณ f/4.0 – f/8.0 เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดทั่วทั้งภาพ
  8. ปิดระบบกันสั่นของเลนส์
  9. ถ่ายภาพบนขาตั้งกล้องที่มั่นคง
  10. การบันทึกข้อมูลควรเลือกรูปแบบไฟล์เป็น RAW format เพื่อความยืดหยุ่นในการปรับภาพในภายหลัง

เมื่อทราบหลักการเบื้องต้นแล้วสามารถประยุกต์ใช้เพื่อถ่ายภาพดวงจันทร์ให้น่าสนใจ  อาทิ การถ่ายภาพดวงจันทร์เปรียบเทียบขนาดกับวัตถุบริเวณขอบฟ้า หรือ Moon Illusion เพื่อแสดงให้เห็นขนาดปรากฏของดวงจันทร์ในช่วงใกล้โลกมากที่สุด เนื่องจากดวงจันทร์บริเวณขอบฟ้ามักมีวัตถุเปรียบเทียบขนาดกับดวงจันทร์ ทำให้ผู้สังเกตรู้สึกว่าดวงจันทร์มีขนาดใหญ่ ผู้ถ่ายต้องหาตำแหน่งที่ดวงจันทร์จะขึ้นจากขอบฟ้า และวัตถุที่ต้องการถ่ายภาพเพื่อเปรียบเทียบขนาดกับดวงจันทร์ และควรมีระยะห่างจากผู้ถ่ายไกลหลายกิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19) แนะนำให้ผู้สังเกตการณ์สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อหลังจากทำกิจกรรมต่างๆ และเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื่อโรคทั้งต่อตนเอง ครอบครัว คนรอบข้างและสังคม นายศุภฤกษ์ กล่าวปิดท้าย

อุปกรณ์ใช้ในการดูดวงจันทร์