ที่ประชุม JMC ลำแชะ มีมติส่งน้ำช่วย ประปาโคราชแก้วิฤติขาดน้ำ 3 ล้าน ลบ. โดยส่งระบบท่อให้ทางเทศบาลนครฯ ก่อนปล่อยลงลำน้ำมูลส่งต่อไปยังจุดสูบน้ำที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ เริ่มสตาร์ท 1 ทุ่มวันนี้ ด้าน ผู้ว่าฯ โคราช งัดแผนจัดการน้ำระยะที่ 8 บริหารน้ำทุกเขื่อนเพื่อให้โคราชผ่านวิกฤติแล้งไปให้ได้
วันนี้(16 มี.ค.) นายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคสาขานครราชสีมาซึ่งมีน้ำใช้ได้อีกแค่ 1 เดือนนั้น ล่าสุดตนได้เรียกประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทาน(JMC) ลุ่มน้ำลำแชะ ที่ประชุมมีมติ ให้ส่งน้ำช่วยเหลือการประปาภูมิภาคฯ เดือนละ 1 ล้าน ลบ.ม. เป็นระยะเวลา 3 เดือน รวม 3 ล้าน ลบ.ม. โดยให้ส่งผ่านระบบท่อของเทศบาลนครนครราชสีมา จากนั้นค่อยส่งตามลำน้ำมูลระยะทาง 20 กม.ถึงจุดสูบน้ำของการประปาภูมิภาคฯ ที่บ้านโนนไม้แดง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา
ซึ่งได้รับแจ้งจากทางเทศบาลนครฯ ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับข้อกฎหมายกับผู้รับเหมา จึงขอเวลาในการดำเนินการเรื่องเอกสารให้ชัดเจนก่อน แต่เนื่องจากทางการประปาภูมิภาคฯ มีความจำเป็นเร่งด้วน จึงขอให้ทางเทศบาลนครฯ ปล่อยน้ำสำรองที่เก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำบ้านใหม่หนองบอน ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา จำนวน 200,000 ลบ.ม. ส่งลงไปให้การประปาภูมิภาคฯ สูบเข้าอ่างน้ำดิบท่าช้าง บ้านโนนไม้แดง ขึ้นไปใช้ผลิตประปาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนก่อน โดยจะเริ่มปล่อยน้ำมาในเวลา 19.00 น.วันนี้ (16 มี.ค.) จากนั้นทางเทศบาลนครฯ จะสูบน้ำจากเขื่อนลำแชะมาเติมอีกครั้ง โดยสามารถสูบน้ำเพิ่มเป็นวันละ 65,000 ลบ.ม. จากเดิมสูบได้วันละ 35,000 ลบ.ม. จนกว่าจะครบตามปริมาณที่ให้การประปาส่วนภูมิภาคฯ
ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่เน้นย้ำว่าประชาชนต้องไม่ขาดน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ทางฝ่ายทหารได้ช่วยทอยน้ำจากลำมูลกลับมาช่วยการประปาภูมิภาคได้อีก 100,000 ลบ.ม. คาดว่าจะทำให้สามารถผ่านพ้นวิกฤติแล้งครั้งนี้ไปได้แน่นอน
ขณะที่ นายวิเชียร จันทรโณทัย ได้ลงนามในประกาศจังหวัดนครราชสีมาเรื่องแผนบริหารจัดการน้ำจังหวัดนครราชสีมาระยะที่ 8 (วันที่ 1-31 มี.ค.2559) โดยระบุว่า ตามที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการตามแผนจัดการน้ำจังหวัดนครราชสีมาระยะที่ 1-7 สิ้นสุดเมื่อ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดนคราชสีมา จึงมีมติกำหนดแผนฯ ระยะที่ 8 เป็นระยะเวลา 1 เดือน ดังนี้ 1. การบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง, อ่างเก็บน้ำละมูล, ลำแชะ, ลำปลายมาศ และเขื่อนระบายน้ำพิมาย ให้ดำเนินการควบคุมการระบายน้ำเพื่อการอปุโภค (ผลิตน้ำประปา) การเกษตร และรักษาระบบนิเวศน้ำให้คงเดิม 2.การบริหารจัดกรน้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ให้ระบายน้ำออกจาเขื่อนลำตะคองไม่เกินวันละ 432,000 ลบ.ม. (5 ลบ.ม./วินาที) ตั้งแต่วันที่ 1 -31 มี.ค. 2559 เพื่อรักษาระดับน้ำที่เหลืออยู่ในเขื่อนให้คงระยะอยู่ได้จนกว่าจะมีน้ำไหลเข้าเขื่อนหรือจนกว่าจะถึงฤดูฝนปี 2559 3. ให้การประปาส่วนภูมิภาค สาขาสีคิ้ว งดการสูงน้ำในลำตะคองที่โรงสูบน้ำดิบคลองตะแบก โดยให้สูบน้ำดิบจากเขื่อนลำตะคองโดยตรงเท่านั้น 4. ให้การประปาเทศบาลนครนครราชสีมา งดการสูบน้ำดิบในลำตะคองบริเวณหน้าประตูระบายน้ำมะขามเฒ่าและหน้าประตูระบายน้ำอัษฏางค์ โดยให้สูบน้ำดิบจากเขื่อนลำตะคอง/เขื่อนลำแชะโดยตรงเท่านั้น 5. ให้การประปาส่วนภูมิภาคสาขานครราชสีมา เร่งรัดการก่อสร้างบ่อน้ำดิบและสูบน้ำจากแม่น้ำมูลเข้าไปเก็บสำรองไว้ให้เพียงพอใช้งานตลอดฤดูแล้ง 6. ให้หน่วยงานการประปาภูมิภาค/ การประปาท้องถิ่น และการประปาหมู่บ้านทุกแห่ง เร่งสูบน้ำกักเก็บไว้ในบ่อน้ำดิบให้มากที่สุดเพื่อให้มีน้ำดิบสำรองใช้งานได้ตลอดฤดูแล้ง และ 7. ให้นายอำเภอทุกอำเภอ สำรวจตรวจสอบการประปาในเขตรับผิดชอบ และติดตามกำกับดูแลให้การประปาต่าง ๆในพื้นที่ดำเนินการสูบน้ำ เก็บน้ำสำรองไว้ให้เพียงพอใช้งานตลอดฤดูแล้งด้วย