นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าสายงานทรูวิชั่นส์ และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรูวิชั่นส์มีความตั้งใจมาโดยตลอดที่จะให้ได้มาซึ่งคอนเทนต์ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งในครั้งนี้ก็เช่นกัน ได้เข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2025-2028 ซึ่งแม้ได้ยื่นข้อเสนอแข่งขันไปในราคาที่เหมาะสม แต่เนื่องจากมีผู้ร่วมประมูลรายอื่นเสนอราคาสูงกว่าจึงได้รับสิทธิการถ่ายทอดสำหรับฤดูกาลหน้าไป
อย่างไรก็ตาม สมาชิกทรูวิชั่นส์ยังคงสามารถรับชมพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024/2025 ได้อย่างเต็มอิ่มจนถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า (2568) รวมทั้งยังสามารถรับชมคอนเทนต์กีฬาฟุตบอลระดับโลกอื่นๆ บนทรูวิชั่นส์ เช่น ลาลีกา บุนเดสลีกา ซาอุดิลีก ซาอุดี คิงส์คัพ เอลีก (ออสเตรเลียน ลีก) ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ยูฟ่ายูโรป้า ลีก ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก เอฟเอคัพอังกฤษ รวมถึงฟุตบอลไทยลีก 1 ไทยลีก 2 ช้างเอฟเอคัพ และรีโว่คัพผลจากการประมูลครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของทรู คอร์ปอเรชั่น หรือความพึงพอใจของลูกค้าสมาชิก เรายังคงมุ่งมั่นที่จะลงทุนในคอนเทนต์ที่หลากหลายทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการความบันเทิงของสมาชิกทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งยังเดินหน้าพัฒนาบริการการรับชมผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเสริมประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ เพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตของลูกค้าในทุกๆ วันอย่างต่อเนื่องต่อไป…