26 April 2024


กระฉ่อนโลกโซเชียลแชร์ พระพุทธรูป“ปางชู2นิ้ว”โบสถ์วัดโคราช

Post on: Sep 3, 2015
เปิดอ่าน: 3,265 ครั้ง

โพสต์สนั่นโลกออนไลน์ พระพุทธรูป“ปางชูสองนิ้ว” บนจั่วโบสถ์วัดดังโคราช ขณะชาวบ้านแห่สนใจละคนสงสัยในความแปลกประหลาด บางคนนึกสนุกตั้งชื่อ พระพุทธรูป“ปางฟรุ้งฟริ้ง”  ด้าน เจ้าอาวาสเผยเก่าแก่สร้างคู่โบสถ์มากว่า 46 ปี แฝงธรรมคำสอนพระพุทธเจ้า “การปฏิเสธส่วนที่สุดสองอย่าง” เส้นทางสู่นิพพาน

สุดแปลกพระพุทธรูปปางชูสองนิ้ว-web1

สุดแปลกพระพุทธรูปปางชูสองนิ้ว-web2

วันนี้ ( 3 ก.ย.58 ) ผู้สื่อข่าวรายงานได้รับแจ้งว่า ที่วัดเจริญสุคันธาราม บ้านกันผม ต.พระพุทธ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา มี “พระพุทธรูปปางชูสองนิ้ว” สร้างความฮือฮาเป็นที่สนใจของประชาชนผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน นอกจากนี้ยังมีการถ่ายภาพมาโพสต์ในสังคมออนไลน์ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในความแปลกประหลาดละคนสงสัย ขณะที่หลายคนนึกสนุกตั้งชื่อว่า“ พระพุทธรูปปางฟรุ้งฟริ้ง”

สุดแปลกพระพุทธรูปปางชูสองนิ้ว-web3

สุดแปลกพระพุทธรูปปางชูสองนิ้ว-web4

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า บริเวณจั่วใต้หลังคาด้านหน้าโบสถ์วัดเจริญสุคันธาราม มีรูปปั้นนูนต่ำ เป็นภาพพระพุทธรูป นั่งประทับใต้ต้นโพธิ์ และยกมือขวาชูสองนิ้ว ลักษณะกำลังแสดงธรรมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 รูป

สุดแปลกพระพุทธรูปปางชูสองนิ้ว-web5

พระอธิการพร้อม ทิฏฐธมโม  (หลวงพ่อพร้อม) อายุ 73 ปี เจ้าอาวาสวัดเจริญสุคันธาราม เปิดเผยว่า โบสถ์ดังกล่าวได้สร้างทดแทนโบสถ์เดิมซึ่งมีสภาพเก่าทรุดโทรมผุพัง ตั้งแต่ปี 2512 หรือเมื่อประมาณ 46 ปีที่แล้วโดยเจ้าวาสรูปเดิมได้ให้สร้างขึ้นบนที่ตั้งเดิมของโบสถ์หลังเก่า แต่ไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็นพระพุทธรูป ชูมือ 2 นิ้ว ซึ่ง เป็นภาพนูนต่ำบริเวณจั่วหน้าโบส์ดังกล่าว เนื่องจากเป็นสีสภาพเก่าแบบโบราณ ไม่โดดเด่น เนื่องจากก่อสร้างมานานกว่า 46 ปีแล้ว

สุดแปลกพระพุทธรูปปางชูสองนิ้ว-web6

จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางวัด ได้ทำการบูรณะซ่อมแซมหลังคาและทาสีโบสถ์ใหม่ทั้งหลัง จึงทำให้ภาพนูนต่ำบริเวณหน้าโบสถ์เด่นชัดขึ้นมาและเป็นที่สะดุดสายตา ประชาชนญาติโยมต่างกันมองเห็นพระพุทธชู 2 นิ้วได้ง่าย ทำให้หลายคนอดสงสัยไม่ได้เข้ามาสอบถามถึงความเป็นมาและความหมายว่าสื่อถึงอะไรกับพระในวัด เนื่องจากไม่เคยพบเห็นพระพุทธรูปลักษณะเช่นนี้มาก่อน และคาดว่า พระพุทธรูปชูสองนิ้วคงมีเพียงแห่งเดียวที่วัดเจริญสุคันธารามนี้ เท่านั้น

สุดแปลกพระพุทธรูปปางชูสองนิ้ว-web9

ทั้งนี้ภาพดังกล่าวเชื่อว่าเจ้าอาวาสรูปเดิมท่านคงต้องการสื่อหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้โปรดแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ว่า การปฏิบัติใด ๆ อย่าให้หย่อนหรือตึงจนเกินไป หากหย่อนไปก็ไม่สำเร็จ แต่หากตึงหรือเคร่งจนเกินไปก็ขาด ไม่ดีทั้ง 2 ทาง  ฉะนั้นทางสายกลางดีที่สุด การดำเนินชีวิตของมนุษย์ทั่วไปก็เช่นกัน ควรยึดทางสายกลาง คือ “มัชฌิมาปฏิปทา”

สุดแปลกพระพุทธรูปปางชูสองนิ้ว-web8

ด้าน นางเดือนเพ็ญ ด้วงนิล อาย 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านกันผม หมู่ 1 ต.พระพุทธ กล่าวว่า กรณีภาพพระพุทธรูปบริเวณจั่วด้านหน้าโบสถ์วัดเจริญสุคันธาราม ชูสองนิ้ว นั้น เคยมีชาวบ้านและนักศึกษามาสอบถามเหมือนกัน แต่ตนก็ยังไม่ทราบความเป็นมาหรือความหมายที่แท้จริง ซึ่งหลายคนดูแล้วก็นึกตลก บอกว่า เป็นพระพุทธรูปปางชูสองนิ้ว หรือ พระพุทธรูปบางฟรุ้งฟริ้ง

อย่างไรก็ตามล่าสุด จากการสอบถามข้อเท็จจริงจาก อาจารย์ตุ่น กรอกงูเหลือม อายุ 77 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดเจริญสุคันธาราม ผู้สร้างโบสถ์หลังดังกล่าว ทราบว่า ภาพปั้นนูนต่ำบริเวณจั่วหลังคาด้านหน้าโบสถ์ ซึ่งเป็นภาพพระพุทธเจ้านั่งประทับใต้ต้นโพธิ์ พร้อมชูนิ้วมือขวา 2 นิ้ว โดยมีพระสงฆ์ 5 รูปนั่งรายล้อมอยู่ตรงหน้า นั้น เป็นภาพที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมเทศนากัณฑ์แรกแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 คือ “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร” อันเป็นปฐมเทศนามีเนื้อหาแสดงถึงการปฏิเสธส่วนที่สุด 2 อย่าง ประกอบด้วย

สุดแปลกพระพุทธรูปปางชูสองนิ้ว-web7

1.“กามสุขัลลิกานุโยค”  คือ การหมกมุ่นอยู่ในกามศก และ 2. “ ตตกิลมถานุโยค”  คือ การทรมานตนให้ลำบากโดยเปล่าประโยชน์ คือ ทำทุขกริยา (อดอาหาร)  ซึ่งเป็นที่มาของภาพพระพุทธรูปการชู 2 นิ้ว

พร้อมกันนี้พระพุทธเจ้าได้เสนอ “มัชฌิมาปฏิปทา”แนวทางดำเนินชีวิตโดยสายกลาง อันเป็นแนวทางใหม่ให้มนุษย์ มีเนื้อหาแสดงถึงขั้นตอนและแนวทางในการปฏิบัติเพื่อบรรลุถึง อริยสัจทั้ง 4  คือ อริยมรรค มีองค์ 8 โดยเริ่มจากทำความเห็นให้ถูกทางสายกลางก่อน เพื่อดำเนินตามขั้นตอนการปฏิบัติรู้ เพื่อละทุกข์ทั้งปวง เพื่อความดับทุกข์ อันได้แก่ “นิพพาน”  ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา

สุดแปลกพระพุทธรูปปางชูสองนิ้ว-web11

ส่วนประชาชนทั่วไปหากปฏิบัติตาม 2 อย่างนี้ ได้ตามที่พระพุทธรูปชู 2 นิ้ว ก็จะทำให้พ้นทุกข์นำไปสู่ชีวิตที่มีความสุขได้เช่นกัน  นางเดือนเพ็ญ กล่าวในตอนท้าย