by

โคราชเปิดศูนย์บริการ Smart job Center แห่งที่ 2 ที่เทอมินอล 21กระทรวงแรงงาน พร้อมร่วมมือ ปคม. ตามจับนายหน้าหลอกแรงงานไปทำงานประเทศมัลดีฟ  สั่งการจัดหางานจังหวัดทุกแห่งตรวจสอบมีผู้เสียหายในพื้นที่ให้เร่งช่วยเหลือ เผยมัลดีฟเป็นประเทศเล็กรับแรงงานน้อยเฉพาะบางอาชีพเท่านั้น แนะให้ปชช. สอบถามตำแหน่งงานที่จัดหางานจังหวัดทุกแห่งป้องกันถูกนายหน้าเถื่อนหลอก  ระบุเป็นเรื่องไม่ซับซ้อนขอเวลาตรวจสอบรายละเอียดก่อน

วันนี้ (20 เม.ย.) นายศักดิ์สกล  จินดาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน เป็นประธานเปิดศูนย์ Smart Job Center No.2 สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมาแห่งที่ 2 ที่บริเวณ ชั้น LG ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา  โดยศูนย์ Smart Job Center No.2  สำนักงานจังหวัดหางานจังหวัดนครราชสีมาแห่งที่ 2 นี้ให้บริการสมัครงาน, ขึ้นทะเบียนหางาน, ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงาน, รายงานตัวผู้ประกันตนกรณีว่างงาน, แนะแนว/ให้คำปรึกษาทางด้านอาชีพ,ทดสอบความพร้อมทางอาชีพ,ทดสอบทักษะด้านภาษาอังกฤษ, ศูนย์ข้อมูลอาชีพ, นิทรรศการโลกอาชีพจำลอง จากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ, รับขึ้นทะเบียนนายจ้าง/สถานประกอบการและแจ้งตำแหน่งงานว่าง, รับลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ, แจ้งตำแหน่งงานว่างต่างประเทศ, รับเรื่องร้องทุกข์กรณีถูกหลอกจากการสมัครงานไปทำงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ และให้คำปรึกษาการจ้างแรงงานต่างด้าว โดยเปิดให้บริการทุกวันจันทร์-เสาร์  ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์ ทั้งนี้เนื่องจากเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ใช้แรงงาน ประกอบกับสถานที่เดิมคับแคบ

นายศักดิ์สกล  จินดาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน ได้กล่าวถึงกรณีมีผู้เสียหายเดินทางเข้าร้องทุกข์กับ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ในกรณีถูกหลอกลวงไปทำงานประเทศมัลดีฟ โดยมีผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนจำนวนมากถึง 400 รายรวมจ่ายเงินค่านายหน้าไปหลายล้านลาท ว่า ได้สั่งการให้จัดหางานจังหวัดทุกจังหวัดเร่งตรวจสอบว่ามีประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ ถูกหลอกหรือไม่ เช่นที่ จ.นครราชสีมา หากพบว่ามีประชาชนถูกหลอกให้ทางจัดหางานจังหวัดเร่งทำการสืบสวนและให้การช่วยเหลือโดยด่วน พร้อมประสานกับ ปคม.  เรื่องนี้ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด ซึ่งเราจะทำการสืบสวนผู้เสียหายว่า ถูกหลอกอย่างไร ถูกส่งไปอย่างไร ถูกกฎหมายหรือไม่ แต่หากผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

ทั้งนี้ขอฝากเตือนประชาชนด้วยว่า หากจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศให้ติดต่อสอบถามมายังจัดหางานจังหวัดก่อน หรือไม่สะดวกให้โทรศัพท์ไปที่ 1506 กด 3 หรือเข้าไปที่ www.uae.co.th จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดงานงานในต่างประเทศ  เช่น ที่จังหวัดนครราชสีมา หากจะไปทำงานที่ประเทศมัลดีฟ ก็ให้ถามมาที่จัดหางานโคราชก่อน จะได้ไม่ถูกหลอก หรือไปแล้วถูกหลอกก็มาร้องทุกข์ได้เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมายซึ่งผู้ที่หลอกลวงมีทั้งโทษจำและปรับ เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของทางจัดหางานจังหวัดที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว และยินดีที่จะดำเนินการให้ทันที เพื่อติดตามตัวคนหลอกและเงินกลับมาให้ผู้เสียหายให้ได้

นายศักดิ์สกล  กล่าวอีกว่า ประเทศมัลดีฟเป็นประเทศเล็ก ๆ  ไม่ได้มีตำแหน่งงานด้านอุตสาหกรรม แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการรับแรงงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวมากกว่า อาชีพที่มีโอกาสในประเทศดังกล่าว เช่น กุ๊ก หรือนวดสปาต่างๆ  แต่โอกาสน้อยเพราะเป็นประเทศที่มีประชากรน้อยก็มีบ้างที่คนไทยไปเปิดบริการโรงแรม แต่ทั้งนี้ขอให้ตรวจสอบก่อน โดยเฉพาะกรณีนี้ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อนว่าส่งคนงานไปอย่างถูกต้องหรือไม่

อย่างไรก็ตามขณะนี้รูปแบบการหลอกลวงแรงงานไปทำงานต่างประเทศปรับเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ปัจจุบันไม่ได้ใช้วิธีการติดต่อผู้นำชุมชน หมู่บ้าน หรือเดินไปหาคนตามหมู่บ้าน แต่จะใช้การหลอกผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก  และ ไลน์  ทำให้การหลอกลวงง่ายขึ้น ทางกรมฯ มีหน่วยที่เฝ้าดูแลทางด้านนี้อยู่ พยายามติดตามกลุ่มต่างๆ ที่เข้ามาหลอกลวงแรงงานอย่างต่อเนื่อง  ทั้งนี้ขอย้ำว่า จะให้มั่นใจแนะนำให้สอบถามเจ้าหน้าที่จะดีที่สุด  เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงจากนายหน้าเถื่อน